ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดเช้านี้ (11 ธ.ค.) แข็งค่าขึ้นที่ระดับ 30.28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยกรอบเงินบาทวันนี้อยู่ที่ 30.25 -30.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ช่วงคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินโลกเคลื่อนไหวในกรอบแคบดัชนี S&P500 ปิดลบ 0.11% ขณะที่ Euro Stoxx 50 ย่อตัวลง 0.01% อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) สหรัฐอายุ 10ปีปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาที่ระดับ 1.83% และบอนด์ยีลด์ญี่ปุ่นอายุ 10ปีทรงตัวที่ระดับลบ 0.01%
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) ปรับ 8 ครั้ง ขึ้น 450 บาท รูปพรรณบาทละ 42,150 บาท
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
โดยนักลงทุนยังให้ความสำคัญกับการเจรจาการค้ามากที่สุด เนื่องจากในวันอาทิตย์นี้ (15 ธ.ค.) จะเป็นกำหนดเส้นตายที่สหรัฐจะขึ้นกำแพงภาษีกับสินค้าจีน ซึ่งเป็นประเด็นหลักในการทำข้อตกลงในครั้งนี้ ตลาดจึงทยอยลดสถานะการถือสินทรัพย์เสี่ยง ด้วยความกังวลว่าทั้งสองฝ่ายอาจไม่สามารถหาข้อตกลงการค้ากันได้
ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการเลือกตั้งในสหราชอาณาจักรก็สับสน เมื่อผลโพลชี้ว่าพรรค Conservative ของนายบอริส จอห์นสัน เสียคะแนนความนิยมในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งวันที่ 12 ธันวาคม และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะไม่สามารถคุมเสียงข้างมากในสภาสำเร็จ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันการลงทุนในยุโรปและอังกฤษ
“อย่างไรก็ดี ทั้งสองเรื่องไม่ได้ทำให้ตลาดกังวลมากเหมือนแต่ก่อน เนื่องจากจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) รออยู่ในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) โดยตลาดเชื่อว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะ “คงอัตราดอกเบี้ย” และให้สัญญาว่าจะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อประคองเศรษฐกิจ และตลาดการเงินที่กำลังได้รับผลกระทบจากความผันผวนสูง” ดร.จิติพลกล่าว
ส่วนฝั่งเงินบาท เชื่อว่าวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบแคบลงเนื่องจากมีประเด็นที่ต้องจับตารออยู่หลายอย่าง ขณะที่ในช่วงก่อนหน้าเงินบาทมีความสัมพันธ์กับตลาดการเงินน้อยลง เนื่องจากมีทิศทางนโยบายการเงินในประเทศเข้ามาแทรก ขณะเดียวกันกลับมีแรงขายจากผู้ส่งออกกดดันในช่วงท้ายปีเงินบาทไม่อ่อนค่าเร็วอย่างที่หวัง
ดร.จิติพล กล่าวอีกว่า ในช่วงต่อไปต้องจับตาทิศทางของค่าเงินดอลลาร์ ถ้าสหรัฐและจีนสามารถหาข้อตกลงการค้ากันได้ในสัปดาห์นี้ พร้อมกับ FOMC ยืนยันว่าจะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็มีความเป็นไปได้ที่ตลาดจะเข้าสู่ภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Riks On) ปลายปี และเงินดอลลาร์มีโอกาสอ่อนค่าลงได้อีกครั้ง