ก้าวสู่คุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน กัลฟ์ ร่วมกับ เอไอเอส – สวพส. เชื่อมพลังความเท่าเทียมในพื้นที่ห่างไกล

เพราะโอกาสและความเท่าเทียมควรเข้าถึงทุกคนในสังคม ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่ในชุมชนห่างไกล บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF องค์กรชั้นนำด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานยั่งยืนในระดับภูมิภาค จึงร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ในฐานะผู้ให้บริการโครงข่ายดิจิทัลชั้นนำของไทย พร้อมด้วย สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. เดินหน้ายกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในพื้นที่ห่างไกลให้เข้าถึงบริการโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ทั้งระบบสื่อสาร และพลังงานไฟฟ้า ผ่านโครงการ Green Energy Green Network for THAIs พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย 

โดยการนำจุดแข็งของทั้ง 2 องค์กรภาคเอกชน และการผสานกำลังกับภาครัฐอย่าง สวพส. ที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูงของประเทศ มาร่วมกันส่งมอบพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ ที่ผลิตโดยพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ให้แก่ชุมชน พร้อมติดตั้งสถานีฐานโดยใช้แหล่งพลังงานจากแสงอาทิตย์เชื่อมต่อระบบเครือข่ายสัญญาณดิจิทัลสำหรับชุมชน นำร่อง 2 พื้นที่ห่างไกล ชุมชนบ้านดอกไม้สด และ ชุมชนมอโก้โพคี ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก 

นางสาวธีรตีพิศา เตวิชพศุตม์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านปฏิบัติการ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กัลฟ์ทำโครงการเพื่อสังคมต่อเนื่องมาตลอด 30 ปี กว่า 60 โครงการ 3,000 หมู่บ้าน 40 จังหวัด ล่าสุดกัลฟ์ได้ลงพื้นที่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พังงา ตาก ซึ่งได้เข้าไปในชุมชนที่อยู่ห่างไกล ทุรกันดาร และเข้าถึงยาก บางพื้นที่ฝนตกชุก ไฟดับบ่อย หรือไม่มีไฟฟ้าใช้ จนในที่สุดได้พบโครงการนำร่อง เล็งเห็นถึงปัญหาในพื้นที่เหล่านั้น จึงนำโซลาร์เซลล์ไปติดให้กับชุมชนเพื่อสร้างไฟฟ้าเสถียร เมื่อชุมชนนั้นมีไฟฟ้าเสถียรแล้ว สิ่งที่เป็นปัญหาถูกคลี่คลาย ทั้งด้านการศึกษา ด้านความเป็นอยู่ ด้านสาธารณสุข เป็นการตอบโจทย์ว่าพลังงานสะอาดที่กัลฟ์นำไปให้สามารถที่จะช่วยชุมชนได้ 

ขณะเดียวกันกัลฟ์มองเห็นจุดที่สามารถเพิ่มศักยภาพในการช่วยเหลือ คือ ณ หมู่บ้านนั้นๆ ไม่มีเสาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ทำให้การเข้าถึงทางออนไลน์เป็นไปได้ยาก จึงเป็นไอเดียในการชวนพันธมิตรอย่างเอไอเอสมาผนึกกำลังกันที่จะช่วยชุมชนให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นด้านไฟฟ้า หรือโทรคมนาคมอย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น จนเป็นที่มาของการร่วมมือกันในวันนี้ 

“กัลฟ์และเอไอเอสภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้โอกาสกับชุมชนในการเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน อย่างไฟฟ้า และโทรคมนาคม และเราก็ภูมิใจที่ได้ทำให้ชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของสังคม มีความทัดเทียมกับสังคมที่อยู่ในจุดที่เจริญแล้ว โดยเราจะทำแบบนี้ต่อเนื่องไปหลายๆ จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนเกิดความยั่งยืนต่อไป”

ADVERTISMENT

ด้าน นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS เผยว่า ตลอดระยะเวลา 34 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่ชาวเอไอเอสทุกคนตั้งใจทำอย่างมาก คือการสร้างโครงข่ายดิจิทัลขึ้นมาให้กับคนไทยได้ใช้งาน เพราะมีความเชื่อว่า ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล หรือ ระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) จะทำให้ชีวิตของคนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น มาถึงวันนี้เอไอเอสสามารถสร้างเรื่องของ Digital Infrastructure ให้กับประเทศไทยได้อย่างแข็งแรงมาก 

ADVERTISMENT

“แทนที่เราจะทำคนเดียวอย่างที่เคยทำมา วันนี้จะเป็นการประกาศความร่วมมือระหว่าง เอไอเอส กัลฟ์ ผู้นำด้านพลังงาน รวมถึงหน่วยงานรัฐอย่าง สวพส. ซึ่งทำหน้าที่ดูแล พัฒนา และวิจัยในพื้นที่สูง ที่จะทำให้เราเข้าถึงพื้นที่ที่ไม่เคยไป วันนี้เป็นความยินดีของชาวเอไอเอสทุกคนที่ได้เกิดความร่วมมือกันขึ้นมา เชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะผลักดันและต่อยอดสิ่งที่เอไอเอสตั้งใจ และเอไอเอสเองขอยืนยันว่านอกจากที่เราจะทำธุรกิจของเราอย่างปกติแล้ว เรายังอยากสร้างสังคมที่ดีเพิ่มเติม อยากสร้างสภาพแวดล้อมของสังคมให้ดีมากยิ่งขึ้น”

ขณะที่จิ๊กซอว์สำคัญในการสร้างความเข้าใจความต้องการของชุมชน เพื่อการเข้าถึงพร้อมสนับสนุนได้อย่างตรงจุด ถูกถ่ายทอดผ่าน นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ที่เสริมว่า ด้วยความที่ สวพส. ทำงานตรงนี้มา 20 กว่าปี ในลักษณะของการนำแนวทางของโครงการหลวงไปขยายผล ทำให้เรามีข้อมูลพื้นฐานอยู่ในมือ ขณะนี้ในพื้นที่ที่เหลืออยู่หากได้รับการสนับสนุนทั้งในเรื่องของแหล่งพลังงานสะอาด และเครือข่ายจากเอไอเอส ชาวบ้านจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากเดิมที่ไม่สามารถเข้าถึงการพัฒนาของภาครัฐได้เลย ด้วยข้อจำกัดของระบบโลจิสติกส์ 

“การจะปักเสาพาดสายเข้าไปในพื้นที่สูงเป็นเรื่องยาก เพราะเป็นพื้นที่ของป่าไม้และอุทยาน การขนผลผลิตลงมาก็เป็นเรื่องยากเช่นกัน แต่ด้วยเน็ตเวิร์กและพลังงานสะอาดที่เกิดขึ้น จะทำให้ชาวบ้านมีช่องทางเรียนรู้ มีช่องทางตลาดใหม่ๆ ต้องขอบคุณทั้งกัลฟ์ และเอไอเอส เบื้องหลังก่อนหน้าที่จะมาวันนี้ทราบว่าได้มีการดำเนินการเข้าไปพัฒนาในพื้นที่มาก่อนหน้านี้แล้ว และมีพื้นที่นำร่องที่ประสบผลสำเร็จ จนนำมาสู่การถอดบทเรียน และนำมาสู่ความร่วมมือกันในวันนี้ ในนามของ สวพส. ต้องขอขอบคุณภาคเอกชน และยินดีที่จะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานดังกล่าวบรรลุวัตถุประสงค์”

ภายใต้ความร่วมมืออย่างเข้มแข็งในการเดินหน้าพัฒนาชุมชนที่อยู่ห่างไกล ความประทับใจครั้งนี้ถูกถ่ายทอดผ่านตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่บนดอยสูงอย่าง นายอภิชาติ พนารัตน์ธารา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดอกไม้สด และนายชาญชัย ทรัพย์ประมาณ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านมอโก้โพคี ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เล่าให้ฟังว่า หมู่บ้านของพวกตนอยู่บนดอยสูง ประสบปัญหาการสัญจร ด้วยเส้นทางถนนที่ลำบาก ใช้เวลาเข้าออกนาน หรือบางครั้งดินสไลด์ปิดถนนทำให้ไม่สามารถเข้าออกได้ รวมทั้งปัญหาด้านการสื่อสารต่างๆ แต่ปัจจุบันบริษัทกัลฟ์ได้เข้ามาช่วยเหลือทั้งเรื่องของอนามัย เครื่องกรองน้ำ โรงตากกาแฟ โรงสี ไปจนถึงเรื่องของไฟฟ้า ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น

“จากที่เราต้องไปโรงพยาบาล แต่วันนี้เราใช้บริการที่อนามัยได้สะดวกขึ้น ทั้งการพ่นยา การแช่ยา รวมถึงเด็กๆ ได้แสงสว่างจากตรงนี้มาช่วยในการอ่าน การเขียน จากที่เมื่อก่อนเราใช้เทียน วันนี้มันดีขึ้นเพราะกัลฟ์เข้ามาช่วย ขอบคุณกัลฟ์ที่เห็นความสำคัญชุมชนเล็กๆ กลุ่มหนึ่งที่อยู่บนเขา และเข้ามาช่วยเหลือ ขอบคุณจากใจจริงๆ ครับ”