
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และบริษัทในเครือฯ ตอกย้ำนโยบายสิทธิมนุษยชนสนับสนุนพลังของความหลากหลายทางเพศและพลังของผู้หญิง เปิดเวที Empower Together: Pride & Women United…For A Better Tomorrow ณ ลานกิจกรรม ชั้น 1 ทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ รวมพลังทุกภาคส่วนสนับสนุนความเท่าเทียมทางเพศ ด้วยการเสริมสร้างพลังให้กับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ และกลุ่มผู้หญิง ถือเป็นส่วนสำคัญในการเดินหน้าสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เผยว่า กิจกรรมนี้ถือเป็นความสวยงามในความหลากหลายทั้งกลุ่ม LGBTQ+ และการแสดงพลังของผู้หญิง โดยเครือซีพีได้มีนโยบายเปิดกว้างให้กับทุกเพศได้นำศักยภาพมาใช้ในการทำงานอย่างเท่าเทียม ซึ่งเครือซีพีได้ประกาศให้นโยบายด้าน “สิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศ” เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่สำคัญของเครือซีพีสู่ปี 2573
ให้สอดคล้องตามเป้าหมายความยั่งยืน SDGs Goals ในข้อที่ 5 Gender Equality และข้อ 10 Reduced Inequality ทั้งนี้ไม่เพียงแค่การประกาศนโยบาย แต่เครือซีพีได้นำไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การจัดตั้งชมรม LGBTQ+ การมีกิจกรรมที่ส่งเสริมความหลากหลายและเท่าเทียม การจัดงานในครั้งนี้จึงถือเป็นการรวมกันสร้าง Empowerment เป็นก้าวที่สำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน และในโอกาสนี้ขอแสดงความยินดีที่พรบ.สมรสเท่าเทียม ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในระดับประเทศ
“เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสิทธิมนุษยชน และยืนหยัดเคียงข้างทุกคนในชุมชน LGBTQ+ และกลุ่มผู้หญิง เราเชื่อว่าเมื่อทุกคนได้รับโอกาสและสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกัน องค์กรและสังคมของเราจะเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน เรามีการสนับสนุนหลายโครงการและกิจกรรมที่มุ่งเสริมสร้างความเท่าเทียมและความยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกอบรม การสนับสนุนด้านการทำงาน และการส่งเสริมความหลากหลายในทุกมิติของการทำงาน”
ด้านนางสาวพีรดา ดุลยพีรดิส ตัวแทนองค์การเพื่อการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ และเพิ่มพลังของผู้หญิงแห่งสหประชาชาติได้กล่าวว่า ตามหลักสิทธิมนุษยชน การที่ทุกคนได้เข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมและมีส่วนร่วมทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญของ SDGs Goal โดยการยอมรับในความหลากหลายจะทำให้สังคมเกิดความเคารพ และโอบกอดความแตกต่าง ไม่เลือกปฏิบัติ จะนำพาสังคมไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งการจะขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว ไม่สามารถทำเพียงคนเดียวได้ จึงอยากจะชวนทุกคน ทุกภาคส่วนมาร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนไปด้วยกัน
นางสาวพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า เครือซีพี ได้ตระหนักและให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องของสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียม ในด้านของทรัพยากรบุคคลของเครือซีพี ได้นำเรื่องนี้เข้าไปทั้ง Ecosystem นับตั้งแต่การคัดเลือกคนเข้าทำงานเปิดโอกาสให้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าเพศไหน แต่จะดูเรื่องความสามารถ ซึ่งเรายึดหลักความเสมอภาคและเท่าเทียมเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเครือซีพีเป็นองค์กรขนาดใหญ่มีพนักงานทั่วโลกกว่า 5 แสนคน การสนับสนุนส่งเสริมเรื่องความหลากหลายและเท่าเทียมจึงต้องทำเป็นระบบตั้งแต่ระดับผู้บริหารที่ให้ความสำคัญ ไปจนถึงการปฏิบัติได้จริงในระดับพนักงาน นอกจากนี้ เครือซีพีได้ร่วมมือกับ UNDP ในการสนับสนุนเผยแพร่ชุดคู่มือส่งเสริมความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยกในสถานที่ทำงานสำหรับธุรกิจไทย (Inclusion Toolkit for Business) ให้แก่กลุ่มธุรกิจต่าง ๆ
นอกจากนี้ แขกรับเชิญพิเศษอย่าง ดีเจมะตูม เตชินท์ พลอยเพชร ดีเจ นักแสดง ตัวแทน LGBTQ+ ร่วมแบ่งปันความคิดเห็น โดยในฐานะผู้ที่มีส่วนในการผลักดันพรบ.สมรสเท่าเทียม มองว่าเป็นสิทธิที่ควรจะได้รับ เป็นการปรับให้ทุกคนมาอยู่ในระดับเดียวกัน การที่เครือซีพีจัดงานในครั้งนี้ ที่ใช้ธีมว่า Pride & Women United เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะเพศหญิงเป็นเหมือนลมใต้ปีกของ LGBTQ+ ซึ่งมองว่า เราไม่ควรทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน การที่พรบ.สมรสเท่าเทียมผ่านแล้ว ถือเป็นประตูบานแรกไปสู่ประตูต่อๆ ไปของการสร้างความเท่าเทียมในสังคม และอยากให้องค์กรต่างๆ ตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น ให้สิทธิเสรีภาพในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างสังคมที่เปิดรับความแตกต่างมีความเท่าเทียมด้วยกัน
“Empower Together : Pride & Women United…For A Better Tomorrow” ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่แสดงถึงความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการสนับสนุนความหลากหลายและสิทธิมนุษยชน แต่ยังเป็นการเปิดพื้นที่เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการเสริมสร้างสังคมที่เท่าเทียมอย่างแท้จริง เชื่อมั่นว่าความร่วมมือและการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนจะช่วยให้คนในสังคมสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดและสร้างสังคมที่ยั่งยืนและมีความสุขร่วมกัน