‘ALL NEW MG3 HYBRID+’ ขับสนุกแบบรถอีวี มีดีที่ไม่ต้องชาร์จ ราคาพิเศษเริ่มต้น เพียง 559,900 บาท

เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี  และ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในไทย เปิดตัว ALL NEW MG3 HYBRID+” ยนตรกรรมไฮบริดรุ่นล่าสุดที่สะท้อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของเอ็มจี จับกลุ่มลูกค้า Young Adults ที่ต้องการรถซิตี้คาร์ดีไซน์สวย ประหยัดน้ำมัน อัดแน่นยูทิลิตี้ ขับขี่ง่าย ครบครันทั้ง Performance Handling Technology เพื่อการใช้ชีวิตแบบติดปีก ตามสโลแกน “อิสระพลัสเวล”

เป็น Global Model รุ่นใหม่ล่าสุดของ MG ที่ได้ชื่อว่า “The Best All in One Hatchback” ในเซกเมนต์ซิตี้คาร์ พัฒนาและปรับจูนทุกระบบโดยทีมวิศวกรทั้งฝั่งยุโรปและเอเชีย ผ่านการทดสอบทุกสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ จำหน่ายทั้งที่อังกฤษ ประเทศในแถบยุโรป แอฟริกาใต้ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย รวมทั้งในไทย

มาพร้อมสมรรถนะขณะเดียวกันก็ประหยัดตามสไตล์ยนตรกรรมไฮบริด แต่ที่เหนือกว่าไฮบริดทั่วไปคือ เป็นระบบไฮบริดพลัส เทคโนโลยีล่าสุดจาก SAIC MOTOR ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์สันดาปกับมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงทุกสภาวะการขับขี่

ให้อัตราเร่งตอบสนองได้ดั่งใจตั้งแต่ความเร็วตอนต้นจนถึงปลาย จากการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ 1.5  แบตเตอรี่ไซส์ใหญ่ 1.83 กิโลวัตต์ ทำงานควบคู่กับระบบ Dual E-Motor สามารถปรับโหมดควบคุมการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่  Eco, Standard และ Sport และเป็นเจ้าเดียวในตลาดที่มีระบบ KERS ในไฮบริด ช่วยชาร์จพลังงานกลับสู่แบตเตอรี่ สามารถเลือกระดับการชาร์จพลังงานได้ 3 ระดับ ตัดปัญหาแบตเตอรี่หมด

ประหยัดกว่าและแรงกว่า ด้วยอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเพียง 26.2 กิโลเมตรต่อลิตร เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ เติม 1 ถังวิ่งได้ไกลกว่า 900 กิโลเมตร โดยก่อนหน้านี้มีการทดสอบขับจริงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ด้วยน้ำมันถังเดียวไปแล้ว ขณะเดียวกันก็มี 194 แรงม้า ทำให้สามารถทำความเร็วจาก 0-100 ได้ภายใน 8 วินาที

ADVERTISMENT

ระบบเซฟตี้ตามมาตรฐานเต็มรูปแบบ ให้ความอุ่นใจทุกการเดินทาง ตั้งแต่โครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ FSF ระบบ ADAS ช่วยควบคุมการขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ 8 ระบบ พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ACC กับ TJA ระบบช่วยเตือน FCW ติดตั้ง TPMS กล้องรอบคัน 360 องศา ฯลฯ

เป็นซิตี้คาร์ที่คิดเผื่อผู้โดยสารตอนหลังรวมถึงน้องๆ 4 ขา ด้วยการเพิ่มช่องแอร์ด้านหลัง กว้างที่สุดในคลาสเดียวกัน อย่างพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังจุได้ถึง 293 ลิตร เมื่อพับเบาะจะเพิ่มเป็น 1,037 ลิตร ดีไซน์ภายในสร้างสรรค์ภายใต้ Modular Concept วัสดุมีคุณภาพ ขาวสลับดำทูโทน พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันหุ้มหนัง หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัล 7 นิ้ว กับหน้าจอสีระบบสัมผัส 10.25 นิ้ว ลำโพง 6 จุด เชื่อมต่อ Apple CarPlay กับ Android Auto

ADVERTISMENT

ดีไซน์ภายนอกใหม่หมดทั้งคัน ยกตัวอย่างไฟหน้า LED แบบ Hunter Eye คล้ายดวงตาเสือชีต้าห์ ส่วนไฟท้ายให้ความรู้สึกเหมือนปีกผีเสื้อ สะท้อนถึงการเคลื่อนไหวคล่องตัว การออกแบบรอบตัวถังเน้นความโค้งมนตามแบบฉบับของเอ็มจี

ในงานเผยโฉม ALL NEW MG3 HYBRID+” ที่ลานหน้าสยามสแควร์ วัน เมื่อเย็นวันก่อน นอกจากคณะผู้บริหารนำโดย ซู๋ว์ หยิ่น กรรมการผู้จัดการ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ และ ธนพงศ์ พงศ์พาณิชย์ Senior Brand & Marketing Communication Manager

ยังมีสองแขกรับเชิญ ณภัทร จงจิตต์โพธา ศิลปินป๊อปอาร์ต ที่มาร่วมคอลแลป “All New MG3 x The JUM” สร้างสรรค์เส้นสายบน MG3 คันพิเศษ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากความเป็นยูนีคของแบรนด์ การเดินทางที่ได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ มีอะไรใหม่ๆ ที่เป็นเรื่องแปลกตา จนเป็นที่มาของลวดลายสุดเก๋ที่มีเพียงคันเดียว ก่อนปิดท้ายงานด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดปังจากแรปเปอร์สาว “MILLI”

อย่ารีบตัดสินใจ จนกว่าจะได้มาลองขับ “ALL NEW MG3 HYBRID+” มีให้เลือกรุ่น D ราคา 559,900 บาท ถ้าจ่ายเพิ่ม 40,000 บาทจะได้เขยิบเป็นรุ่น X แต่เป็นราคานี้เฉพาะ 1,000 คันแรกทั้ง 2 รุ่น ไปสัมผัสตัวจริงและทดลองขับได้ในงาน BIG MOTOR SALE 2024 ระหว่าง 23 สิงหาคม-1 กันยายนนี้ ที่ไบเทคบางนา และที่โชว์รูมเอ็มจีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ


#MG3อิสระพลัสเวล #MG #MGThailand #MG3 #ALLNEWMG3HYBRID+ #HYBRIDPLUS

ข่าวที่เกี่ยวข้อง