
เพื่อต้อนรับ “ตรุษจีน” หนึ่งในเทศกาลสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน และพี่น้องชาวจีนทั่วโลก “ซีเจ มอร์” (CJ MORE) ตอกย้ำความเป็น “มากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต” ถือโอกาสฤกษ์ดีวันที่ 23 มกราคม 2568 ตรงกับวันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ จัดกิจกรรม “MU TALK เม้าท์เรื่องมู” ในธีม “ตรุษจีน : ไหว้ดี ชีวิตปัง เสริมมงคล พลิกชีวิต” ที่ซีเจ มอร์ สาขาสีลม
งานนี้ซีเจ มอร์ ตั้งใจเสริม “เฮง รวย ปัง” ให้ตลอดทั้งปี ตั้งแต่เชิญกูรูประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมลูกหลานของมังกรอย่าง “สมชาย แซ่จิว” มานั่งเม้าท์แบบสนุกสนาน แต่ได้สาระที่ต้องรู้อย่างครบถ้วน จบแล้วก็ยังมีเวิร์กชอปเขียนคําอวยพรบนกระดาษแดง “ตุ้ยเหลียง” กับ อ.ชวลิต จูเจี่ย ผู้อำนวยการสถาบันขงจื๊อ และอาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาจีน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
นักเล่าประวัติศาสตร์จีนบอกว่า นักษัตรมะเส็งปีนี้เป็นงูธาตุไม้ หมายถึง ต้นไม้ที่มีการเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขา ส่วนงูเป็นสัตว์ที่มีการลอกคราบ ปีนี้จึงเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในกระแสโลก หรือทรานส์ฟอร์เมชั่น เพราะหากตั้งสติให้ดี การเปลี่ยนแปลงนั้นจะนำพาไปสู่การเติบโตได้
“งูเป็นสัตว์น่ากลัวในความคิดของคนทั่วไป แต่คนจีนเชื่อกันว่า งูมี wisdom หรือภูมิปัญญา มีความสามารถในการปรับตัวเหมือนกับการเลื้อยไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว ทั้งเป็นสัตว์ที่ยากจะหยั่งรู้ ดังนั้นนิสัยของคนที่เกิดปีงูจึงมีลักษณะเดาใจได้ยาก”
ส่วนสีมงคลแห่งปีนั้น นอกจากเป็นสีแดงแล้ว ยังมีสีเขียวที่เป็นสัญลักษณ์ต้นไม้ พร้อมกับแนะนำคน 4 กลุ่มที่ควรสวมใส่สีมงคลไปตลอดทั้งปี ได้แก่ กลุ่มคนที่เกิดปีนักษัตรกุน ขาล วอก มะเส็ง ซึ่งโดนปะทะหรือชง ให้มีสีแดงในเครื่องแต่งกายหรือในตัว โดยเฉพาะในวันตรุษจีน กับกลุ่มเด็ก กลุ่มคนชรา และกลุ่มคนป่วยสุขภาพอ่อนแอ
“ปีเกิดที่โดนปะทะหรือชงตรงคือปีกุน ซึ่งแก้ไม่ได้แต่กันได้ การกันชงต้องมีสติเพื่อคอยเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงปีชงอื่นๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะเจอแต่เรื่องแย่ๆ เพราะมีทั้งชงดีและชงร้าย คำว่าชงหมายถึงปะทะ เป็นการปะทะกับดาวของเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย จะปะทะเฉียงหรืออย่างไรก็ว่ากันไป แต่การแก้ชงที่ดีที่สุดคือการมีสติในการใช้ชีวิต
คนที่เกิดปีมะเส็งในปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของหน้าที่การงาน ต้องมีสติและปัญญาในการรับรู้และรับมือกับการเปลี่ยนแปลง หากคิดทำอะไรให้ยึดมั่น อย่าละทิ้งกลางทาง ทำให้จนถึงที่สุดแล้วจะสำเร็จเอง”
สำหรับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยหรือเทวดาผู้คุ้มครองดวงชะตา ที่ทั้งคนไทยเชื้อสายจีนและคนไทยนิยมไปกราบไหว้ขอพรนั้น มีจำนวน 60 องค์ แต่ละปีจะหมุนเวียนมาดูแลดวงชะตาให้มนุษย์ 1 องค์ โดยในปีนี้คือ “โกว่ซุ่ยไต่เจียงกุง” ซึ่งเป็นแม่ทัพในสมัยราชวงศ์ซ่ง
อย่างที่บอกว่า วันที่จัดเสวนานั้นตรงกับวันส่งเจ้าขึ้นสวรรค์ กูรูประวัติศาสต์แดนฮ่องเต้อธิบายเพิ่มเติมถึงเวลาไหว้หรือส่งเจ้าจะเป็นเวลาเช้าตรู่ ส่วนเจ้าคือเทพเจ้าเตาไฟ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 เทพประจำบ้านตั้งแต่สมัยจีนโบราณ ทำหน้าที่ปกป้องดูแลคนในบ้านพร้อมกับจดบันทึกว่าคนในบ้านหลังนี้ทำความดีอะไรบ้าง ดังนั้น การส่งเจ้าเตาขึ้นสวรรค์คือขึ้นไปรายงานเง็กเซียนฮ่องเต้บนสวรรค์ว่าทั้งปีได้ทำความดีอะไรบ้าง
มาถึงช่วงตรุษจีนซึ่งมี 3 วันสำคัญ ได้แก่ “วันจ่าย” ไปจับจ่ายใช้สอยอาหารต่างๆ เพื่อเตรียมไหว้ แล้วก็ต้องไม่ลืมซื้อซองแดงหรืออั่งเปา เพื่อไว้ใส่เงินแต๊ะเอีย เงินที่ใส่ควรเป็น เลขคู่ที่ลงท้ายด้วย 2 หรือ 6 หรือ 8 ยกเว้นเลข 4 เพราะพ้องกับคำว่าซี้หรือตาย และหากเป็นคนจีนสมัยก่อน เมื่อได้แต๊ะเอียมาแล้วจะต้องใส่ไว้ใต้หมอนนอนทับไว้ นับจากตรุษจีนไป 15 วัน ถึงหยิบมาใช้ เป็นเคล็ดว่าให้มีเงินติดตัวตลอด
“เมื่อจ่ายเสร็จก็มาถึง “วันไหว้” เนื่องจากคนจีนชอบเล่นคำมงคลต่างๆ ให้พ้องเสียงกัน ดังนั้น อาหารมงคลที่จะไหว้ในวันตรุษจีนส่วนใหญ่จะล้วนแต่เป็นคำพ้องเสียง มีความหมายมงคล อย่างเช่น ปลา (ฮื้อ) หมายถึง เหลือกินเหลือใช้ ส้มคือไต่กิก เป็นความโชคดี มั่งคั่ง แล้วก็มีขนมเข่ง ภาษาจีนเรียก เหนียนเกา คำพ้องเสียงมีความหมายถึง สูงส่งยิ่งขึ้นทุกปี อีกคำคือเหนียนเหนียนเกาเซิง หรือเจริญรุ่งเรืองขึ้นทุกปี ขนมเข่งจึงเป็นของไหว้ที่ขาดไม่ได้”
ของไหว้สำคัญอีกอย่างคือ หมี่ซั่ว ด้วยลักษณะของเส้นที่ยาว อีกนัยหนึ่งจึงแทนการมีอายุยืนยาว เวลากินห้ามไม่ให้ตัดขาดเป็นท่อนๆ แต่ต้องใช้ตะเกียบสาวเส้นเข้าปาก ส่วนไก่ที่นำมาเป็นของไหว้ทั้งตัวเพราะหงอนของไก่มีลักษณะคล้ายหมวกขุนนางจีน มีความหมายถึงการเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน
“คนจีนทางเหนือจะไหว้เกี๊ยวด้วย เพราะรูปทรงของเกี๊ยวคล้ายกับก้อนเงินก้อนทองสมัยจีนโบราณ ของหวานเป็นอี๋หรือบัวลอย แทนความกลมเกลียวภายในครอบครัว ผลไม้ส้มนอกจากนำมาเป็นของไหว้แล้ว เวลาไปเยี่ยมบรรดาญาติมิตรก็จะนำส้มไปด้วย 4 ใบ แล้วคนรับจะต้องคืนกลับ 2 ใบ เป็นการแฝงนัยยะของการให้และรับ แอปเปิ้ลหรือผิง หมายถึงความสันติสุข องุ่นหรือผู่ท้อ แทนความเพิ่มพูนอุดมสมบูรณ์ สับปะรดสื่อถึงความมั่งคั่ง”
ในช่วงเช้าของวันไหว้เป็นการไหว้เทพเจ้า ช่วงสายไหว้บรรพบุรุษ ตกบ่ายเป็นการไหว้ฮอเฮียตี๋หรือสัมภเวสีผีไร้ญาติ เผื่อแผ่ผู้ล่วงลับที่ไม่มีลูกหลาน และที่สายมูเน้นขอโชคลาภต้องไม่พลาด เป็นการไหว้ก่อนเที่ยงคืน ก็คือไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ “ไฉ่ซิงเอี๊ย” ซึ่งส่วนใหญ่จะตั้งโต๊ะไว้กลางแจ้ง แต่ละปีจะสลับสับเปลี่ยนทิศที่ไหว้
“เวลาไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยปีนี้ตั้งแต่ 5 ทุ่มกว่าไปถึงประมาณตี 1 หรือตี 2 ของวันรุ่งขึ้น ตามปฏิทินโหราศาสตร์จีนน่ำเอี๊ยงบอกว่าปีนี้ จะมาทางทิศเหนือ แต่มีบางตำราแย้งว่า มาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ของไหว้เป็นผลไม้และเจฉ่าย 5 อย่าง สิ่งที่ขาดไม่ได้คือกระเป๋าเงินที่เปิดอ้าไว้ คนที่ไหว้และปักธูปในกระถางคนแรกของบ้านต้องไม่ใช่คนปีชง”
สำหรับวันตรุษจีน หรือวันปีใหม่จีน 2568 ตรงกับวันพุธที่ 29 มกราคม เป็น “วันเที่ยว” เพื่อเยี่ยมเยือนญาติมิตร นำส้มไปให้ แต๊ะเอียหลานๆ สิ่งที่ควรทำและห้ามทำในวันนั้น เช่น กินเกี๊ยวเพื่อแทนการได้รับก้อนเงินก้อนทอง จุดประทัดขับไล่ปีศาจหรือสิ่งชั่วร้ายตามความเชื่อดั้งเดิม สวมใส่เครื่องแต่งกายสีแดง ปิดแผ่นป้ายคำอวยพรอักษรจีนในบ้านเรือนเพิ่อเสริมโชคลาภ-สิริมงคล
“สิ่งที่ไม่ควรทำในวันตรุษจีนคือ ต้องไม่ร้องไห้ เพราะเชื่อกันว่าจะทำให้มีความทุกข์ทั้งปี ไม่ให้ใครยืมเงิน และไม่ยืมเงินใคร เพราะจะทำให้มีปัญหาเรื่องการเงินทั้งปี และไม่สระผม เนื่องจากการสาดน้ำเหมือนกับนำมงคลออกไปจากตัว ไม่ปัดกวาดในบ้าน ไม่ทำของแตก และไม่ใช้ของมีคม อย่างเช่น มีด ทำอาหาร”
นั่งฟังเรื่องราวความเชื่อ พร้อมได้รับแนวทางการยึดถือและปฏิบัติกันไปแล้ว ก็ถึงเวลาเวิร์กชอป เขียนคำอวยพรผ่านการบรรจงด้วยพู่กันของแต่ละคนอย่างตั้งอกตั้งใจ พร้อมเปิดความหมายของคำในตัวอักษรจีนที่เปี่ยมไปด้วยพลังมงคล โดยเฉพาะตัว “ฮก” ในภาพเขียนที่มีความพิเศษเป็นอันดับ 1 ของโลก เพราะเป็นลายฝีพระหัตถ์ของคังซีฮ่องเต้ ที่มีความหมายลึกซึ้งและสามารถตีความเป็นคำมงคลได้ถึง 5 รูปแบบ
กิจกรรม “MU TALK เม้าท์เรื่องมู” เป็นหนึ่งในไฮไลต์ของแคมเปญ “ซีเจ มูร์ ช้อปโอมเพี้ยง ดวงเปรี้ยงรับปีใหม่” ที่ต้องการมอบประสบการณ์การช้อปที่ครบถ้วนทุกมิติให้กับลูกค้าสมาชิกสบายการ์ดทั่วประเทศ โดยเน้นการเสริมดวงและเพิ่มสิริมงคลให้กับชีวิต ด้วยไอเทมเสริมดวง ได้แก่ การ์ดองค์เทพเสริมดวง 5 ลาย พระพิฆเนศ “งานสำเร็จ เด็ดดวง” พระแม่ลักษมี “รักรุ่ง เสน่ห์พุ่ง” พระศิวะ “สุขภาพปัง พลังบวก” พระพรหม “เงินมา พารวย” และ “ท้าวเวสสุวรรณ” พร้อมด้วย “แก้วตักตวง มหามงคล” 3 สี 3 ลาย ได้แก่ สีเหลือง “มหารุ่ง” สีเขียว “มหารวย” สีชมพู “มหาเสน่ห์” โดยใช้เพียง 99 แต้ม บวกเงิน 89 บาท
ที่สำคัญมีสินค้าครบครันสำหรับจับจ่ายในเทศกาลตรุษจีนปีนี้ในราคาสุดคุ้มค่า ไปเลือกซื้อกันได้ที่ ซีเจ มอร์ ทุกสาขาทั่วประเทศ
#ซีเจมอร์ #มากกว่าซูเปอร์มาร์เก็ต #มูเตลู #MUTALK #เม้าท์เรื่องมู #CJMORE #ซีเจมูร์ #ช้อปโอมเพี้ยงดวงเปรี้ยงรับปีใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
CK Power ขานรับเปลี่ยนผ่านพลังงาน เดินหน้าส่งไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
สยามพิวรรธน์ ย้ำจุดยืน Creative Powerhouse ผู้พัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลก ร่วมสนับสนุน Bangkok Design Week 2025 จัดโชว์เคสผลงานสุดสร้างสรรค์ในทุกโครงการ
BDE เดินหน้าพัฒนาเครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ แบบจำลอง MODEST วิเคราะห์ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและประเมินผลนโยบายดิจิทัล ขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต