Pagpag อาหารคนจนใน “ฟิลิปปินส์”

คนยากจนกลุ่มหนึ่งในฟิลิปปินส์ นำเศษอาหารประเภท “กระดูกไก่” ที่ถูกทิ้งจากร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด มาผ่านการรีไซเคิล เพื่อนำมาประกอบอาหารที่พวกเขาเรียกว่า “pagpag”

pagpag ในภาษาตากาล็อก แปลได้ว่า อาหารที่ถูกปัดฝุ่นใหม่ กลายเป็นธุรกิจหนึ่งในหมู่คนยากจน พวกเขาจะนำกระดูกไก่ที่เหลือจากร้านฟาสต์ฟู้ดไก่ทอดมาล้างน้ำ 3-4 น้ำ และนำมาประกอบอาหารใหม่อีกครั้ง ด้วยการต้มหรือทอด และปรุงรส

“เฟลิปา ฟาบอน” หนึ่งในผู้ขาย pagpag เล่าให้ซีเอ็นเอ็นฟังว่า ทุกคืนเธอจะออกมาที่ร้านขายไก่ทอดในเมืองมะนิลา และจ่ายเงินเล็กน้อยให้กับคนเก็บขยะเพื่อที่จะได้ค้นหาเศษไก่ได้ง่ายขึ้น

“จากนั้นสิ่งที่เราจะทำที่บ้านคือ ทำความสะอาด ใส่กลับลงในถุงพลาสติก และเตรียมขายในเช้าวันถัดไป มันขายง่ายเพราะมันถูกมาก โดย pagpag ถุงหนึ่งหากเป็นถุงที่ส่วนใหญ่เป็นกระดูกจะขายในราคาราว 20-30 เปโซ หรือราว 0.59 ดอลลาร์สหรัฐ”

พวกเขาเชื่อว่า เศษอาหารที่ถูกล้างและปรุงสุกอีกครั้งสะอาดพอที่จะกิน อย่างไรก็ตาม สภาต่อต้านความยากจนแห่งชาติ (NAPC) ได้เตือนว่า pagpag เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมา และการขาดสารอาหารของเด็ก

ช่วงที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้รับการคาดการณ์ว่า เป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตเศรษฐกิจน่าจับตาระดับท็อป 3 ของอาเซียน รายงานล่าสุดของธนาคารโลกระบุว่า จีดีพีปี 2017 จะอยู่ที่ 6.6% และเพิ่มเป็น 6.7% ในปี 2018-2019 อย่างไรก็ตาม “The Borgen Project” องค์กรเพื่อช่วยเหลือคนยากจนจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ในปี 2015 ยังมีชาวฟิลิปปินส์ถึง 12.1% ที่มีชีวิตอยู่อย่างยากจน “ที่สุด” หรือมีรายได้ที่ไม่เพียงพอจะซื้ออาหาร 3 มื้อ

ขณะที่ประธานาธิบดี “ร็อดริโก ดูแตร์เต” ออกมาประกาศว่า จะทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นสังคมแห่งชนชั้นกลาง แต่ดูเหมือนว่านโยบายการกวาดล้างยาเสพติดในประเทศจะไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง

สำนักสถิติแห่งชาติ ฟิลิปปินส์ เผยว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ได้ช่วยเหลือผู้คนในอุตสาหกรรมเกษตรและประมง ให้หาเงินได้มากขึ้น โดย 2 ภาคส่วนอุตสาหกรรมนี้มีคนยากจนมากที่สุดคือ 34% นอกจากนี้ ทางรัฐบาลไม่มีการสนับสนุนให้ประชาชนวางแผนครอบครัว ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมการผลิตก็มีแต่งานที่ใช้ทักษะต่ำ ทำให้ค่าจ้างถูก

สำนักวิจัย SWUS รายงานว่า ผลสำรวจความเห็นชาวฟิลิปปินส์ 1,500 คนในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า คะแนนความพึงพอใจต่อตัวผู้นำดูแตร์เต ลดลงเหลือ 48% จาก 66% (สำรวจเดือนมิถุนายน) แม้ว่าจะอยู่ในระดับดี แต่ก็ถือเป็นคะแนนต่ำที่สุดตั้งแต่เข้ามาบริหารงาน เนื่องจากผู้คนเริ่มมีความวิตกกังวลต่อนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่ก่อให้เกิดผู้เสียชีวิตกว่าสี่พันคน ขณะที่ปัญหาปากท้องประชาชนไม่ได้รับการแก้ไข