รัสเซีย-ยูเครน : กองทัพรัสเซียทุ่มเงิน เกณฑ์คนไปรบในยูเครน

วิลล์ เวอร์นอน ผู้สื่อข่าวบีบีซี รายงานจากรัสเซีย

สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนดำเนินมาแล้ว 6 เดือน โดยที่ยังไม่มีทีท่าว่าการสู้รบจะสิ้นสุดลง ฝ่ายรัสเซียสูญเสียทหารไปจำนวนมาก จนทำให้ต้องรณรงค์เกณฑ์ประชาชนไปช่วยรบในฐานะทหารอาสา ด้วยค่าจ้างเป็นเงินก้อนโต และสิทธิพิเศษต่าง ๆ แต่คนจำนวนไม่น้อยมองว่าไม่คุ้ม เพราะไปรบเท่ากับเสี่ยงไปตายเปล่า

ณ เมืองโวโลโซโว (Volosovo) ใกล้นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย เสียงเครื่องขยายเสียงดังก้อง

โดยปกติแล้วเครื่องขยายเสียงที่ทางเมืองติดตั้งไว้บนเสาสูงบนถนนสายหลัก จะใช้เปิดเพลงปลุกใจในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่ข้อความที่ประกาศออกมาในวันนี้ฟังดูต่างออกไป

“เรากำลังจัดกองกำลังอาสาหน่วยควบคุมอาวุธหนัก เราขอเชิญชวนผู้ชายวัย 18-60 ปีมาเข้าร่วม”

นี่คือข้อความประกาศจากเครื่องขยายเสียงที่เปิดซ้ำไปมา ไม่เพียงแค่ในเมืองโวโลโซโว แต่ทั่วทั้งประเทศ รวมไปถึงบนหน้าสังคมออนไลน์ โทรทัศน์ และกระดานแจ้งข่าวสาร

ค่าจ้างไปรบในยูเครนอาจสูงถึง 200,000 บาทต่อเดือน

ที่มาของภาพ, Reuters

รัฐบาลรัสเซียกำลังผลักดันให้ผู้ชายสมัครเป็นทหารอาสาแบบสัญญาจ้าง เพื่อร่วมรบในสงครามยูเครน หลังกองทัพสูญเสียกำลังพลจำนวนมาก จากการสู้รบนาน 6 เดือน

ผมทักชายคนหนึ่งบนถนนสายหลักในเมืองโวโลโซโว ถามเขาว่า เขาเห็นด้วยไหมที่มีการรณรงค์ให้คนไปสมัครเป็นทหารอาสา เขาตอบกลับพร้อมกำมือแน่นว่า “แน่นอน ถ้าผมยังหนุ่มผมจะไป แต่ตอนนี้ ผมแก่มากแล้ว”

“เราควรทิ้งระเบิดถล่มยูเครนซะ” เขาเสริม

แต่คนอื่น ๆ อีกหลายคนในเมือง ไม่ได้รู้สึกฮึกเหิมเหมือนชายคนนี้ หญิงคนหนึ่งบอกกับผมว่า “การเข่นฆ่าพี่น้องของเรามันผิด” ผมถามต่อว่า เธอจะคิดอย่างไรหากญาติคนใดคนหนึ่งของเธอสมัครเข้าเป็นทหารอาสา

เธอตอบว่า “ไปทำไม ? ไปแล้วก็กลายเป็นศพกลับมา” ซึ่งในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนั้น

อาสาไปรบให้รัสเซียในยูเครน คุ้มค่าไหม ?

ที่มาของภาพ, EPA

ค่าตอบแทนกว่า 200,000 บาทต่อเดือน…คุ้มไหม ?

แม้รัสเซียจะไม่ระบุว่ามีทหารเสียชีวิตไปมากเท่าไหร่แล้ว แต่รัฐบาลชาติตะวันตกประเมินว่า รัสเซียสูญเสียทหาร หรือมีทหารได้รับบาดเจ็บราว 70,000-80,000 คนแล้ว นับแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนเมื่อ 6 เดือนก่อน

วิธีการที่กองทัพรัสเซียใช้สร้างแรงจูงใจให้คนไปเสี่ยงตายก็คือเงินตอบแทนก้อนใหญ่ ที่ดิน หรือสิทธิพิเศษที่ลูก ๆ ของพวกเขาจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนชั้นนำของประเทศ

เจ้าหน้าที่ของกองทัพรัสเซียยังไปรับสมัครทหารอาสาถึงในเรือนจำ โดยให้คำมั่นว่าพวกเขาจะได้อิสรภาพและเงิน

โรมัน โดโบรโคตอฟ ผู้สื่อข่าวสายสืบสวนสอบสวนมองว่า การเกณฑ์ทหารอาสาเป็นสัญญาณถึงความจนตรอก เพราะ “ทหารอาสาเหล่านี้ ไม่ใช่ทหารที่จำเป็นต่อการทำสงครามเพื่อให้ได้ชัยชนะ รัฐบาลรัสเซียยังหวังว่าปริมาณจะชนะคุณภาพได้ หวังว่าจะผลักดันให้ผู้คนที่สิ้นหนทางหรือมีหนี้ท่วมหัวหลายแสนคน เข้าไปต่อสู้ในสมรภูมิรบได้”

ส่วนค่าตอบแทนสำหรับการอาสาร่วมรบให้กองทัพรัสเซีย สูงสุดถึง 5,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 205,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับกรณี แต่ในความเป็นจริงนั้น โรมันบอกว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เพราะ “คนไม่ได้เห็นเงินก้อนนี้จริง ๆ พวกเขากลับมาจากยูเครนแล้วบอกเราว่า พวกเขาถูกหลอก มันทำให้เกิดสภาวะที่ชาวรัสเซียหมดศรัทธาในรัฐบาล ผมเลยไม่คิดว่ายุทธศาสตร์นี้จะได้ผล”

“มันมีสงคราม ลูกจะตายนะ”

แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สมัครเข้าร่วมรบ รวมถึงลูกชายของนีนา ชูบารินา ชื่อ เยฟเกนี

เขาออกจากหมู่บ้านในภูมิภาคคาเรเลียทางตอนเหนือของรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมในหน่วยรบอาสา นีนาเล่าว่าลูกชายของเธอ ไม่มีประสบการณ์ทางทหารเลย กองทัพมอบปืนให้เขากระบอกหนึ่ง แล้วก็ส่งเขาไปยูเครน

เพียงไม่กี่วันต่อมา นีนาทราบข่าวว่าลูกชายวัย 24 ปีของเธอเสียชีวิต

นีนาตกลงที่จะพบผมในสวนสาธารณะใกล้กรุงมอสโกซึ่งเธอได้งานไม่เต็มเวลา (พาร์ทไทม์) ที่โรงงานขนมปังแห่งหนึ่ง เธอเล่าให้ผมฟังว่า การบรรจุก้อนขนมปังซ้ำไปซ้ำมา ช่วยบรรเทาอาการโศกเศร้าที่สูญเสียบุตรชายลงได้บ้าง ส่วนคำพูดสุดท้ายที่เธอบอกกับลูก คือ ร้องขอไม่ให้เขาไปยูเครน

“ฉันพยายามอ้อนวอนให้เขาล้มเลิกความตั้งใจ ฉันร้องไห้แล้วพูดว่า ‘มันมีสงครามนะ ลูกจะตาย’ เขาตอบกลับมาว่า ‘แม่ ทุกอย่างจะดีเอง’”

นับแต่สูญเสียลูกชาย นีนาวิพากษ์วิจารณ์ทางการรัสเซียที่เกณฑ์อาสาสมัครไปช่วยรบในยูเครน

“พวกเขาส่งเด็กเหล่านี้ไปเหมือนส่งไก่โง่ ๆ ไปถูกเชือด พวกเขาแทบไม่เคยจับปืนด้วยซ้ำ เป็นได้แค่เหยื่อกระสุน พวกนายพลคิดว่า ‘เราได้อาสาสมัครมาแล้ว เยี่ยม ส่งไปเลย’”

แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ยินดีไปร่วมรบแบบเยฟเกนี

ชาวรัสเซียส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมตายเพื่อปูติน

ที่มาของภาพ, Reuters

คนรัสเซียจำนวนมากไม่หนุนสงคราม

ผมเดินทางไปทั่วรัสเซีย และสังเกตได้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่สนับสนุน “ปฏิบัติการพิเศษ” ในยูเครน อย่างที่รัสเซียเรียก

รถยนต์บนท้องถนนที่ติดสัญลักษณ์ “Z” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์หนุนการทำสงคราม ยังมีอยู่น้อย ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า คนที่อาสาไปรบให้รัสเซียจะมีไม่มากนัก

พาเวล ลูซิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารอธิบายว่า คนไม่พร้อมที่จะเสียสละตัวเองเพื่อประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน

“ปัญหาของรัฐบาลคือชาวรัสเซียส่วนใหญ่ ยังไม่พร้อมตายเพื่อให้ปูตินได้ฟื้นฟู ‘อาณาจักรอันยิ่งใหญ่’ การเกณฑ์กำลังคนจึงเป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีฉันทามติของภาคประชาชนว่าสนับสนุนการทำสงคราม”

“แต่เมื่อเทียบกับยูเครนแล้ว ต่างกันสิ้นเชิง เพราะชาวยูเครนพร้อมจะสู้”

….

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว