เมื่อ 8 นาทีที่ผ่านมา
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุสะพานแขวนถล่มในรัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น กว่า 132 คนแล้ว
ทางการท้องถิ่นรายงานว่า ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เด็ก หรือผู้สูงอายุ และโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากสะพานคนเดินแห่งนี้กลับมาเปิดให้ใช้งานจากการซ่อมแซม
ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ มีประชาชนแออัดอยู่บนสะพานเป็นจำนวนมาก เพราะผู้คนกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลี
สะพานแห่งนี้มีความยาว 230 เมตร พาดผ่านแม่น้ำมัจฉุ และสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยที่อังกฤษยังเป็นเจ้าอาณานิคมอินเดีย ในช่วงศตวรรษที่ 19
ตอนนี้ ตำรวจ ทหาร และหน่วยกู้ภัย กำลังพยายามค้นหาผู้สูญหายในแม่น้ำอย่างต่อเนื่อง หลังผู้คนหลายร้อยคนบนสะพาน ตกลงไปในแม่น้ำ จากเหตุสะพานถล่ม จนถึงขณะนี้ รัฐบาลอินเดียระบุว่า ช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้แล้วกว่า 80 คน
“เด็กหลายคนกำลังสนุกกับวันหยุดเนื่องในวันดิวาลี พวกเขามาท่องเที่ยว” ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์
คำบอกเล่าผู้เห็นเหตุการณ์
“พวกเขาตกลงไป หล่นทับอีกคนที่อยู่ข้างล่าง สะพานมันถล่มเพราะรับน้ำหนักไม่ไหว”
วิดีโอที่เผยแพร่บนสังคมออนไลน์ แสดงให้เห็นประชาชนหลายสิบคนพยายามยึดเกาะส่วนที่เหลือของสะพานพังถล่มที่ยังคงยึดติดกับสายเคเบิ้ล เพื่อรอให้ทีมกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ ผู้รอดชีวิตบางคนปีนขึ้นไปบนราวสะพาน บางคนตัดสินใจว่ายน้ำเข้าฝั่ง
มีรายงานว่า มีประชาชนหลายร้อยคนอยู่บนสะพานในช่วงที่เกิดการถล่ม เมื่อช่วงเวลา 20.00 น. ตามเวลาในไทยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 ต.ค.)
วิดีโอหนึ่งที่เผยแพร่บนสังคมออนไลน์ แสดงให้เห็นสะพานส่ายไปมาอย่างน่ากลัว ก่อนจะถล่มลงมา
คุชราต เป็นรัฐบ้านเกิดของนายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดี ที่ประกาศจะให้เงินช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต และตัวเขาเองรู้สึก “เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อโศกนาฏกรรมนี้”
“รัฐบาลจะมอบเงินให้ญาติผู้เสียชีวิต 184,000 บาทต่อผู้เสียชีวิต 1 คน และ 23,000 บาทต่อผู้บาดเจ็บ”
ทางการอินเดียให้คำมั่นว่าจะสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็เกิดคำถามถึงมาตรการความปลอดภัยของตัวสะพาน ก่อนที่จะเปิดใช้งานอีกครั้ง เพราะเป็นสะพานที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนในพื้นที่
ปราตีค วาสนา อยู่บนสะพานในเวลานั้น เขาบอกกับสื่อท้องถิ่นว่า เขาต้องว่ายน้ำเข้าฝั่ง ตอนนั้น มีเด็กจำนวนมากตกลงไปในแม่น้ำ
“ผมอยากดึงเด็กบางคนมาด้วย แต่เขาจมน้ำ หรือถูกกระแสน้ำพัดไปก่อน”