ปีใหม่ 2566 : โลกต้อนรับปีกระต่าย ด้วยบรรยากาศคึกคักเสมือนก้าวพ้นโควิด

วันที่ 1 มกราคม 2566 - 14:21 น.

แม้ประเทศไทยจะเข้าสู่ปี 2566 ไปนานแล้ว แต่หลายเมืองทั่วโลกพึ่งจะเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่กัน โดยเฉพาะในฟากฝั่งตะวันตก โดยบรรยากาศนับถอยหลังเข้าสู่ศักราชใหม่ในปีนี้ ถือว่าคึกคัก หลังมีการผ่อนคลายมาตรการโควิด

ประเทศคิริบาส ถือเป็นชาติแรกของโลกที่ได้ต้อนรับปี 2566 ตามด้วยนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย

บรรยากาศเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปีนี้ ถือว่าคึกคักมาก เต็มไปด้วยฝูงชน พลุไฟตระการตา คอนเสิร์ต และปาร์ตี้สังสรรค์ จากมาตรการโควิดที่ผ่อนคลายลงไปมาก

ประเทศล่าสุดที่เคาต์ดาวน์สู่ปี 2566 อย่างยิ่งใหญ่ คือ สหราชอาณาจักร โดยประชาชนมหาศาลออกมาเรียงรายอยู่ตามริมแม่น้ำเทมส์ เพื่อรับชมการแสดงพลุไฟนาน 12 นาที ประกอบดนตรี ซึ่งนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนระบุว่า ถือเป็นการแสดงพลุไฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป

และนี่ถือเป็นครั้งแรกของชาวสหราชอาณาจักร ที่ได้เฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ โดยสามารถรวมตัวเฉลิมฉลองกันได้ นับแต่โควิด-19 ระบาด

Reuters — ประชาชนนับแสนคนมาร่วมชมแสงสีเสียง ต้อนรับปี 2566 ในกรุงลอนดอน

ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา โลกได้สูญเสียบุคคลสำคัญมากมาย ล่าสุด คือ พระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 ที่สิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 95 พรรษา ไม่นานก่อนที่ไทยจะเข้าสู่ปี 2566

พระสันตะปาปากิตติคุณเบเนดิกต์ที่ 16 ดำรงตำแหน่งประมุขแห่งคริสต์จักรคาทอริกได้เกือบ 8 ปี จนกระทั้งพระองค์ตัดสินพระทัยที่จะก้าวลงจากตำแหน่งในปี 2556 ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ นับเป็นสันตะปาปาองค์แรกที่ลาออกจากตำแหน่งนับตั้งแต่โป๊ปเกรกอรีที่ 12 ในปี พ.ศ. 1958 หรือกว่า 600 ปีก่อน

บุคคลสำคัญคนอื่น ๆ ที่จากไป คือ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 กษัตริย์ผู้ทรงครองราชย์ยาวนานที่สุดของสหราชอาณาจักร พระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อเดือน ก.ย. 2565 และก่อนหน้านั้น มิคาอิล กอร์บาเชฟ ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้าย ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อเดือน ส.ค.

การแสดงพลุไฟ และการแสดงเพื่อรำลึกถึงควีนเอลิซาเบธที่ 2

จีนฉลองปีใหม่แบบผ่อนคลายมาตรการ

การเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในจีน ถือว่าน่าสนใจ เพราะฝูงชนจำนวนมากออกมารวมตัวเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก หลังรัฐบาลผ่อนคลายนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ที่บังคับใช้มานานหลายปี

การผ่อนคลายมาตรการของจีน เกิดขึ้นภายหลังเหตุจลาจลและการประท้วงในหลายพื้นที่ เมื่อไม่นานมานี้ โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่ที่เป็นเยาวชน รู้สึกไม่พอใจกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่ยาวนาน ทั้งที่ทั่วโลกเปลี่ยนผ่านสู่การอยู่ร่วมกับโควิดกันแล้ว

อย่างไรก็ดี บรรยากาศต้อนรับปีใหม่ในเมืองอู่ฮั่นตึงเครียดเล็กน้อย หลังตำรวจพยายามสลายฝูงชนหลายเมื่อนคนที่ออกมารวมตัวกัน

ยูเครนก้าวสู่ปีใหม่ ในภาวะสงคราม

ท้องถนนในกรุงเคียฟของยูเครน เงียบเหงาและร้างคน แตกต่างจากเมืองใหญ่ต่าง ๆ ทั่วโลก ที่ผู้คนเฉลิมฉลองต้อนรับปี 2566 กันอย่างคึกคัก เนื่องจากกรุงเคียฟอยู่ใต้เคอร์ฟิว รับมือการโจมตีจากรัสเซีย

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวอวยพรปีใหม่ว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ “ยูเครนจะกลับมา” เป็นการกลับมาของ “ประชาชนของเรา ทหารกลับไปสู่ครอบครัว เชลยศึกได้กลับบ้าน ผู้อพยพชาวยูเครนได้กลับคืนสู่ยูเครน”

นายเซเลนสกียังอวยพรให้ยูเครนมีชัยชนะเหนือรัสเซีย และให้ชีวิตชาวยูเครนกลับคืนสู่ปกติ ไร้ซึ่งเคอร์ฟิวและสัญญาณเตือนการโจมตีทางอากาศ

“คืนสิ่งที่ถูกพรากไปจากเรา คืนชีวิตวัยเด็กของเด็ก และชีวิตสงบสุขในวัยชราของพ่อแม่เรา” เซเลนสกี

ด้านประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เดินทางไปยังพื้นที่ทางตะวันออกของรัสเซีย เพื่ออวยพรปีใหม่อย่างเป็นกันเองกับเหล่าทหาร โดยมีการเผยแพร่ภาพเขาชนแก้วแชมเปญกับกลุ่มทหาร

ผู้นำรัสเซียระบุว่า ปี 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นช่วงเปลี่ยนสำคัญของประวัติศาสตร์ และเกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่ “อิสรภาพที่แท้จริงของเรา”