ประยุทธ์ : “ผมมายืนตรงนี้ เพราะผมเคารพในกระบวนการประชาธิปไตย”

 

tnp

THAI NEWS PIX

 

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว. กลาโหม สมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อย่างเป็นทางการ อาสานำพาประเทศไทยไปต่อ ท่ามกลางมวลชนสมาชิกพรรคที่มาร่วมงานที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่พรรคอ้างว่า มีมากกว่าเรือนหมื่นคน

การประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค รทสช. ครั้งที่ 1/2566 วันนี้ (9 ม.ค.) พล.อ. ประยุทธ์ เดินทางมาถึงที่ประชุมด้วยรถเบนซ์สีดำส่วนตัว ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชน ก่อนลงนามสมัครเข้าเป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการ พร้อมเปลี่ยนเสื้อแจ็คเก็ตสีขาว คาดแถบธงชาติของพรรค รทสช.

“เป็นครั้งแรกในชีวิตของผมในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวตอนต้น และยอมรับว่า “ตื้นตันใจ และไม่เคยตื่นเต้นกับอะไรมาก่อน” เช่นวันนี้

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า ใช้เวลาตัดสินใจมาหลายเดือนต่อการพิจารณาร่วมงานกับพรรค รทสช. “จะนอนหลับไหม หรือจะกลับบ้าน” แต่เลือกมาสังกัดพรรคนี้ เพื่อแก้ปัญหาชาติที่ยังเหลืออยู่ “เพื่อให้ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองให้เร็วที่สุด”

“ไม่ใช่ผมอยากเป็นใหญ่ ไม่ใช่ผมอยากมีอำนาจ อำนาจผมมีมาเยอะแล้ว มีมาทั้งชีวิตราชการ อำนาจมาพร้อมความรับผิดชอบ …ผมยืนยันผมไม่เคยรับผลประโยชน์ใครทั้งสิ้น แต่เพราะ นึกถึงพวกเรา ที่ผมมายืนตรงนี้ เพราะ ผมเคารพในกระบวนการประชาธิปไตย” อดีตผู้บัญชาการทหารบกที่ใช้กำลังทหารเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกระบวนการประชาธิปไตยเมื่อ 22 พ.ค. 2557 กล่าวกับผู้สนับสนุนพรรค

รทสช

กองโฆษก รทสช.
ลงนามสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.

 

 

พล.อ. ประยุทธ์ ประกาศความชัดเจนเมื่อ 23 ธ.ค. ที่ผ่านมาว่า เขาตัดสินใจไปอยู่กับพรรคนี้ หลังจากพรรคประชุมใหญ่วิสามัญและเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ไปเมื่อเดือน ส.ค. 2565

“การที่ผมมาวันนี้ หลายคนอาจจะสงสัยมาทำไม อยากเป็นต่อหรือเปล่า ไม่ใช่ผมอยากเป็นใหญ่ อยากมีอำนาจ อำนาจผมมีมาเยอะแล้วทั้งชีวิตของผม แต่ในอำนาจมาพร้อมความรับผิดชอบ ต้องใช้ให้ถูกต้องตามกระบวน” พล.อ. ประยุทธ์กล่าวบนเวทีแสดงวิสัยทัศน์

พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นทหารมาทั้งชีวิต แต่พยายามปรับตัวมาตลอดในทุก ๆ ปีที่ผ่านมา แม้หลายอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยืนยันว่าทำเพื่อความเจริญก้าวหน้าของประเทศ โดยสิ่งสำคัญคือการต้องยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

นายกฯ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค รทสช. คนล่าสุด ยังใช้เวลาช่วงหนึ่งกล่าวถึงผลงานที่ผ่านมาของเขา ตั้งแต่การรับมือกับโรคอุบัติใหม่ที่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แต่ประเทศไทยก็ประคับประคองมาได้ อีกทั้งยังต้องสานต่อโครงการที่ค้างคาในรัฐบาลนี้ให้เดินหน้าต่อ เช่น โครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้ พล.อ. ประยุทธ์ ยังบอกว่า “สิ่งที่ทำได้ดี” คือ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การประชุมที่มีข้อตกลงต่าง ๆ ออกมาหมายถึงการยอมรับของนานาประเทศ พล.อ. ประยุทธ์ ได้กล่าวถึงการฟื้นความสัมพันธ์กับซาอุดีอาระเบียที่ตัดสัมพันธ์ไป 34 ปี ว่า “วันนี้ดีกว่าเดิม”

“ปัญหาประเทศ ผมพยายามแก้มาอย่างต่อเนื่อง เพราะมันมีมากจริง ๆ… งานที่ผมจำเป็นต้องทำต่อ ทำให้ผมต้องมายืนตรงนี้”

ในช่วงท้าย นายกฯ กล่าวว่า รทสช. มีส่วนประกอบของทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ ที่มุ่งหวังให้สามารถบริหารไปถึงคนทุกรุ่น และเติบโตเป็นสถาบันหลักทางการเมือง เป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศไทยต่อไป สำหรับนโยบายของพรรคกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ แต่นโยบายหลัก คือ การรื้อระเบียบกฎหมายที่ต้องแก้ไข ปรับให้ทันสมัย ลดภาระต่าง ๆ ของประชาชนในการดำรงชีวิต และปลดเปลื้องความยากจน

พล.อ. ประยุทธ์ ยังขอบคุณที่รับเป็นสมาชิก รทสช. และยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมหยอดคำหวานด้วยว่า “ฝากหัวใจน้อย ๆ ของนายกฯ ไว้ด้วย”

tnp

THAI NEWS PIX

 

นักวิเคราะห์การเมืองมองว่า ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งทั่วไป มีโอกาสสูงที่นายกรัฐมนตรีจะประกาศยุบสภาก่อนอายุของสภาผู้แทนราษฎรจะจะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 23 มี.ค. 2566

ไม่กี่วันก่อน พล.อ. ประยุทธ์ ประกาศความพร้อมสู่การเลือกตั้งในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของ รทสช. กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทยได้การประกาศจำนวนราษฎรทั่วประเทศ ณ สิ้นปี 2565 รวมทั้งมีการทูลเกล้าฯ กฎหมายลูกเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ไปเมื่อ 16 ธ.ค. 2565 ได้แก่ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง

พีระพันธุ์ เผยมีสมาชิกพรรค รทสช. แล้วกว่า 30,000 คน

นายพีระพันธุ์ แถลงบนเวทีว่า เมื่อเดือน ส.ค. 2565 ที่ รทสช. ประชุมใหญ่พรรคเพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ขณะนั้นมีสมาชิกพรรคอยู่ราว 7,000 คน แต่ผ่านมาจนถึงบัดนี้ รทสช. มีสมาชิกพรรคในระบบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว 27,000 คน เมื่อรวมกับสมาชิกที่ยังไม่เข้าระบบ ตอนนี้ รทสช. มีสมาชิกแล้วกว่า 30,000 คน

เขายังกล่าวถึงการประชุมพรรคที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ด้วยว่า มีสมาชิกมาร่วมงานกว่า 10,000 คน พร้อมเอ่ยว่า  “อยู่การเมืองมา 30 ปี ไม่เคยเห็นภาพการประชุมของพรรคการเมืองพรรคไหน ที่มีสมาชิกและผู้สนับสนุนมาเข้าร่วมจำนวนมากขนาดนี้”

ก่อนหน้านี้ รทสช. แจ้งต่อ กกต. ว่าจะจัดประชุมใหญ่พรรคโดยใช้สถานที่เป็นมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี แต่นายพีระพันธ์กล่าวว่า ไม่อาจปฏิเสธสมาชิกพรรคที่ต้องการมาร่วมงานได้ จึงต้องย้ายที่ประชุมมาที่ศูนย์ประชุมฯ สิริกิติ์

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เอ็กซิบิชันฮอลล์ 1 และ 2 ขนาดพื้นที่รวมกันกว่า 11,000 ตารางเมตร คือสถานที่ที่ รทสช. เปิดตัว พล.อ. ประยุทธ์ ภายใต้ชื่องาน “รวมใจ รวมไทยสร้างชาติ” ซึ่งนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. เปิดเผยบนเวทีว่า มีสมาชิกพรรคเข้าร่วมงานกว่า 10,000 คน และจำนวน ส.ส. ที่มาร่วมงานราว 30 คน

tnp

THAI NEWS PIX

ใครปรากฏตัวที่งานพรรค รทสช. บ้าง

แกนนำคนสำคัญของพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เป็นอดีต ส.ส. และสมาชิกพรรคหลายพรรค ได้แก่ ประชาธิปัตย์ (ปชป.) พลังประชารัฐ รวมพลังประชาชาติไทย และอดีตแกนนำ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.)

สองแกนนำสำคัญจาก ปชป. คือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีต ส.ส.กทม. ปชป. และอดีตแกนนำ กปปส. เป็นเลขาธิการพรรค

นอกจากนี้ยังมีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ซึ่งเพิ่งจะได้รับแต่งตั้งวันเดียวกันนี้ (9 ม.ค.) ผู้ที่เปิดชื่อพรรค รทสช. ครั้งแรกช่วงต้นปี 2565 นายวิทยา แก้วภราดัย นายชุมพล กาญจนะ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตสมาชิก ปชป. นายชัชวาลย์ คงอุดม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท พร้อมด้วยลูกชาย นายชื่นชอบ คงอุดม อดีต ส.ส. กทม. จาก ปชป.

นอกจากผู้ที่เป็นสมาชิกในช่วงก่อตั้งแล้ว วันนี้ ยังมี ส.ส. และบุคคลทางการเมืองที่เพิ่งสมัครและเข้าพรรค และกำลังจะสมัครเข้าพรรค รทสช. เดินทางมาที่งานนี้ด้วย เช่น

  • นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. เดินทางมาพร้อมกับ ส.ส. พปชร. ภาคใต้ 6-7 คน เขาระบุว่า จะดูเวลาที่เหมาะสมในการลาออกจาก พปชร. ส่วนกลุ่ม ส.ส. จะอยู่ถึงสมัยปิดประชุมสภาก่อนมาสมัครสมาชิกพรรค รทสช.
  • นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน อดีตสมาชิก พปชร. ระบุว่า สมัครเป็นสมาชิก รทสช. เรียบร้อยแล้ว และบอกกับสื่อว่า มีเพื่อน ส.ส. ในกลุ่มที่จะตามมาอยู่พรรค รทสช. ด้วย 15 คน
  • นายดอน ปรมัตถั์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ
  • พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ระบุว่ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช.
tnp

THAI NEWS PIX

ศูนย์ประชุมฯ สิริกิติ์ กับงานการเมืองของ “อนุรักษ์นิยม”

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ซึ่งบริหารงานโดยบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด หนึ่งในธุรกิจใต้ร่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี

ศูนย์ประชุมแห่งนี้ เปิดโฉมใหม่เมื่อ ก.ย. 2565 หลังปิดปรับปรุงยาวนาน 3 ปี ด้วยขนาดพื้นที่ 300,000 ตารางเมตร ที่ใหญ่กว่าเดิม โดยแบ่งเป็นพื้นที่จัดงานอีเวนท์ 78,500 ตารางเมตร

ก่อนการปิดปรับปรุง ศูนย์ประชุมแห่งนี้ เคยเป็นสถานที่จัดงานของพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองที่ถูกมองว่าเป็น “ฝ่ายอนุรักษ์นิยม” หลายครั้ง ด้วยขนาดของสถานที่นั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า กิจกรรมทางการเมืองแต่ละครั้ง ย่อมสะท้อนถึงขนาดของพลังมวลชนเช่นกัน

  • พรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดตัวพรรคลงเลือกตั้งหลังรัฐประหาร 2549

เดือน ก.ย. 2550 กลุ่มการเมือง 4 กลุ่ม ได้แก่ มัชฌิมา สมานฉันท์ พรรคประชาราช กรุงเทพฯ 50 บางส่วน ใช้เป็นสถานที่ประกาศเจตนารมณ์ทางการเมือง ก่อตั้งพรรคเพื่อแผ่นดิน มีแกนนำได้แก่ นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายเสนาะ เทียนทอง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุวิทย์ คุณกิตติ นายพินิจ จารุสมบัติ

จากรายงานของผู้จัดการ ระบุว่า นายสุรเกียรติ์ แถลงการควบรวมกลุ่มเพื่อตั้งพรรคว่า เป็นเจตนารมณ์เพื่อแผ่นดิน และราชบัลลังก์ พร้อมยืนยัน ไม่ใช่นอมินีของกลุ่มอำนาจเก่า หรือเพื่อสืบทอดอำนาจ คมช.อย่างแน่นอน

  • พรรครวมพลังประชาชาติไทย “ลุงกำนัน” จัดกาล่าดินเนอร์ระดมทุนโต๊ะจีน

เดือน ธ.ค. 2561 พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดงานกาล่าดินเนอร์ ในชื่องานว่า “ทุติยบท ภาคสองของการปฏิรูปประเทศ” จำหน่ายโต๊ะได้ตามเป้า 240 โต๊ะ หรือ 240 ล้านบาท ขณะนั้น ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นหัวหน้าพรรค และมีแกนนำก่อตั้งพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง นายสุริยะใส กตะศิลา เป็นต้น

https://www.youtube.com/watch?v=xi-vA3XWqzU

………..

ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว