ที่มาของภาพ, TAIWAN PRESIDENTIAL OFFICE
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอเมริกา ให้คำมั่น “สหรัฐจะไม่ทอดทิ้งคำมั่นสัญญาที่เคยให้ต่อไต้หวัน” หลังหารือครั้งประวัติศาสตร์กับประธานาธิบดีไต้หวัน ในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐ ที่เยือนไต้หวันครั้งแรกในรอบ 25 ปี
วันนี้ (3 ส.ค.) ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ร่วมประชุมกับประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ของไต้หวัน ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ด้วยบรรยากาศชื่นมื่นและใกล้ชิด ภายหลังเดินทางถึงไต้หวันเมื่อคืนวานนี้ (2 ส.ค.) จนสร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลจีน ที่ประกาศว่า “สหรัฐต้องชดใช้”
หลังการหารือ นางเพโลซีขึ้นปราศรัยต่อบรรดานักการเมืองไต้หวันว่า “เราจะไม่ทอดทิ้งคำมั่นสัญญาที่เคยให้ต่อไต้หวัน และเราภูมิใจกับมิตรภาพอันยืนยาวระหว่างกัน”
“เวลานี้ความสามัคคีกันระหว่างสหรัฐและไต้หวัน ยิ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด และนั่นคือข้อความที่เราต้องการสื่อถึงในวันนี้” นางเพโลซีกล่าว พร้อมย้ำว่าไต้หวันเป็นพันธมิตรที่พึ่งพาได้ของสหรัฐ
ด้านรัฐบาลจีนประณามรัฐบาลสหรัฐต่อการเยือนไต้หวันของนางเพโลซี โดยกระทรวงการต่างประเทศของจีนเรียกการเยือนครั้งนี้ว่าเป็น “การละเมิดหลักการจีนเดียวอย่างร้ายแรง” ซึ่งจะมี “ผลกระทบอย่างใหญ่หลวง” ต่อรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐ
ด้านประธานาธิบดีไช่ ได้กล่าวถึงการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่เกิดขึ้นในปีนี้ว่า ยิ่งทำให้ความมั่นคงในช่องแคบไต้หวันเป็นจุดสนใจของทั่วโลก เพราะ “การคุกคามไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตย จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั่วทั้งอินโด-แปซิฟิก”
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีไต้หวันยืนกรานว่า “ไต้หวันจะไม่ยอมแพ้ เราจะยืนหยัดในอธิปไตยแห่งชาติของเรา และเดินหน้าพิทักษ์ความมั่นคงในฐานะด่านหน้าของความมั่นคงโลก”
เพโลซีรับเครื่องอิสริยาภรณ์
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไต้หวันได้ขอบคุณ “การสนับสนุนอย่างไม่ย่อท้อ” ของนางเพโลซีต่อไต้หวัน พร้อมมอบ “เครื่องอิสริยาภรณ์เมฆมงคล” หรือ Order of Propitious Clouds ซึ่งเป็นรางวัลต่อประชาชนที่ทำคุณประโยชน์ต่อชาติ และผู้มีเกียรติจากต่างประเทศ
ที่มาของภาพ, Reuters
ก่อนหน้าที่จะเข้าหารือกับประธานาธิบดีไต้หวัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เดินทางไปรัฐสภาไต้หวัน โดยประกาศว่าไต้หวัน “เป็นสังคมที่มีอิสรภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก” และกฎหมายสหรัฐว่าด้วยชิปคอมพิวเตอร์ จะเป็นโอกาสอันดีที่สหรัฐจะเพิ่มความร่วมมือกับไต้หวันได้มากขึ้น
เธอยังต่อรองประธานสภาไต้หวันว่า “เรามาเพื่อมิตรภาพต่อไต้หวัน เรามาเพื่อสันติภาพในภูมิภาค…และพอคุณพูดว่าฉันเป็นเพื่อนที่ดีของไต้หวัน นั่นถือเป็นคำชมที่ยิ่งใหญ่”
เครื่องบินของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ เดินทางถึงไต้หวันเมื่อช่วงดึกของ 2 ส.ค. นับเป็นการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐครั้งแรกในรอบ 25 ปี
มาตรการตอบโต้ของจีน มีอะไรบ้าง
กองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีนจะเริ่มการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงเป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่ 3 ส.ค. โดยประกาศห้ามเรือและเครื่องบินพลเรือนเข้าพื้นที่ซ้อมรบ
และก่อนที่เครื่องบินของนางเพโลซีมาถึงไต้หวัน สื่อไต้หวันรายงานว่าเครื่องบินขับไล่ Su-35 ของจีน จำนวน 21 ลำ ได้บินล้ำช่องแคบไต้หวันเข้ามา แต่กระทรวงกลาโหมของไต้หวันแถลงในเวลาต่อมาว่าเป็น “ข่าวปลอม”
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงตอบโต้ว่า จะเสริมความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงเพื่อรับมือกับการซ้อมรบของจีน พร้อมชี้ว่าแผนการซ้อมรบของจีน “เป็นความพยายามคุกคามท่าเรือสำคัญ และตัวเมืองหลายแห่งของไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค…ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ในเวทีโลกของจีน”
กระทรวงการต่างประเทศจีนได้เรียกตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่ง นายนิโคลัส เบิร์นส เข้าชี้แจงถึงกรณีการเยือนไต้หวันของนางเพโลซี โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีนมองว่า การกระทำของนางเพโลซี “มีประสงค์ร้าย” พร้อมเตือนถึงผลลัพธ์ร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น และจีนจะไม่นิ่งนอนใจกับเรื่องนี้
“สหรัฐต้องชดใช้กับความผิดพลาดของตนเอง” และเรียกร้องให้สหรัฐ “ชี้แจงถึงความผิดของตนเอง และดำเนินมาตรการเชิงรูปธรรม เพื่อแก้ไขผลลัพธ์ที่เลวร้ายจากการเยือนไต้หวันของนางเพโลซี”
วันนี้ (3 ส.ค.) กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศห้ามนำเข้าสินค้าบางประเภทของไต้หวัน คือ ส้ม ปลาบางชนิด และการนำเข้าทรายจากไต้หวัน หลังก่อนหน้านี้ได้ห้ามนำเข้าขนมหวานและบิสกิตจากไต้หวันไปแล้ว
แม้ไต้หวันจะมีความขัดแย้งกับจีน แต่ถือว่ามีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจใกล้ชิด โดยจีนเป็นคู่ค้าใหญ่ที่สุด และไต้หวันส่งออกสินค้าไปจีนคิดเป็น 30% ของทั้งหมด
สถานเอกอัครราชทูตจีนในไทยว่าอย่างไร
โฆษกสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊ก ตอบคำถามสื่อมวลชนสำหรับการเดินทางเยือนไต้หวันของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยอธิบายถึงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ และย้ำว่า “ไต้หวันเป็นของประเทศจีนตั้งแต่สมัยโบราณ” แต่ไต้หวันเกิดขึ้น เพราะ “การสนับสนุนจากอิทธิพลต่างประเทศ ได้เป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐบาลกลาง”
ที่มาของภาพ, TAIWAN MINISTRY OF FOREIGN AFFAIRS
ประเด็นที่สถานเอกอัครราชทูตจีนเน้นย้ำ มีดังนี้
1.ผู้นำสหรัฐบอกว่าไม่สนับสนุนการแยกตัวเป็นเอกราชของไต้หวัน แต่ทำไมนางแนนซี เพโลซี จึงยังดันทุรังเยือนไต้หวัน
2.การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีจะส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาค ถือว่าเป็นการกระทำทางการเมืองที่ยั่วยุอย่างรุนแรง ในการยกระดับการไปมาหาสู่กันอย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐกับไต้หวัน และก็เป็นการสนับสนุนต่อกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน
3.การเยือนไต้หวันของนางเพโลซี เป็นการฝ่าฝืนหลักการประเทศจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐ ทั้ง 3 ฉบับอย่างร้ายแรง เป็นการบ่อนทำลายรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ อย่างร้ายแรง เป็นการรุกล้ำอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศจีนอย่างร้ายแรง เป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างร้ายแรง และก็เป็นการส่งสัญญาณผิดพลาดอย่างร้ายแรงไปยังกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีน
จีนจึงเรียกร้องให้ทางสหรัฐยุติการเล่นไพ่ไต้หวัน เพื่อใช้ไต้หวันในการควบคุมจีนต่อไป และยุติการแทรกแซงกิจการของไต้หวัน กิจการภายในของประเทศจีน รวมถึงยุติการสนับสนุนกลุ่มอิทธิพลที่คิดจะแบ่งแยกไต้หวันออกจากประเทศจีนในทุก ๆ รูปแบบ
ในช่วงท้ายของแถลงการณ์ระบุว่า จีนกับไทยเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเมื่อปี 1975 เป็นต้นมา และ “ฝ่ายไทยยึดมั่นในหลักการจีนเดียวมาโดยตลอด”
“จีนเชื่อว่า ประเทศไทยในฐานะที่เป็นมิตรประเทศของจีน จะยึดมั่นในความเที่ยงธรรมและความเป็นธรรมของหลักสากล สนับสนุนความพยายามของจีนในการปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน สนับสนุนภารกิจอันยิ่งใหญ่ในการรวมประเทศจีนเป็นหนึ่งเดียว ร่วมกับฝ่ายจีนในการพิทักษ์รักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและของภูมิภาค”
……….
ข่าว บีบีซี ไทย ที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจ เป็นความร่วมมือของสององค์กรข่าว
