คุณหญิงหน่อย นายกรัฐมนตรี อันดับ 1 อุ๊งอิ๊ง คะแนนที่ 2 อีสานโพลสำรวจ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์

อีสานโพล สำรวจต้องการใครเป็นนายกรัฐมนตรี ได้ผล 3 ลำดับ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์อันดับ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อันดับ 2 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อันดับ 3

วันที่ 10 กันยายน 2565 ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสานมหาวิทยาลัยวิทยาลัยขอนแก่น หรืออีสานโพล ได้เปิดเผยผลสำรวจในหัวขัอ “ความเครียดของคนอีสานกับปัญหาเศรษฐกิจ” และระบุว่า ต้องการให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หรือคุณหญิงหน่อย เป็นนายกรัฐมนตรี อันดับ 1 ร้อยละ 23.4 อันดับ 2 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.1 อันดับ 3 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ทั้งนี้ ผลการสำรวจพบว่า 3 ปัญหาที่คนอีสานกำลังเผชิญและมีความเครียดมากที่สุด คือ ค่าครองชีพสูงและราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นมาก และรายได้ไม่พอกับรายจ่ายจนต้องมีหนี้เพิ่ม และยังมีปัญหาเศรษฐกิจอื่นๆ ที่คนอีสานราว ๆ 30% รู้สึกเครียดมากและรอการบรรเทาปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการหางานใหม่ยากหรือหางานทำยาก

ภาระรายจ่ายด้านการศึกษา ผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงินไม่ไหวขาดทุนจากการทำเกษตรหรือแทบไม่มีกำไร ขาดแคลนเงินทุนหรือสินเชื่อในการทำมาหากิน เป็นผู้สูงอายุที่มีเงินไม่พอใช้หรือมีภาระต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุ และผ่อนชำระหนี้นอกระบบไม่ไหว

รศ. ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่าการสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อความเครียดที่คนอีสานกำลังเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเงินเพื่อสะท้อนปัญหาของคนอีสานให้กับทางภาครัฐหรือพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้หาแนวทางบรรเทาปัญหาเศรษฐกิจให้กับคนอีสาน

จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,065 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด โดยเมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างเกี่ยวกับความเครียดเกี่ยวกับปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงินใน 14 ประเด็น พบว่า ประเด็นแรก คนอีสานเครียดที่สุด จากค่าครองชีพสูง/ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ร้อยละ 62.4 ประเด็นรองลงมา ร้อยละ 56.9 เครียดมากจากปัญหาค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเพิ่มขึ้นมาก

ประเด็นที่ 3 ร้อยละ 42.5 เครียดมากจากปัญหารายได้ไม่พอกับรายจ่ายจนต้องมีหนี้เพิ่ม ตามมาด้วย ร้อยละ 37.1เครียดมากจากปัญหาผ่อนชำระหนี้กับสถาบันการเงินไม่ไหว ร้อยละ 33.8 เครียดมากจากการหางานใหม่ยากหรือหางานทำยาก ร้อยละ 33.0 เครียดมากจากภาระรายจ่ายด้านการศึกษา ร้อยละ 32.2เครียดมากจากปัญหาขาดทุนจากการทำการเกษตรหรือแทบไม่มีกำไร

ร้อยละ 31.9 เครียดมากจากปัญหาขาดแคลนเงินทุนหรือสินเชื่อในการทำมาหากิน ร้อยละ 29.7 เครียดมากจากการเป็นผู้สูงอายุที่มีเงินไม่พอใช้หรือมีภาระต้องเลี้ยงดูผู้สูงอายุร้อยละ 28.6 เครียดมากจากการผ่อนชำระหนี้นอกระบบไม่ไหวร้อยละ 24.0 เครียดมากจากธุรกิจมียอดขายลดลงหรือขายได้น้อย

ร้อยละ 19.3 เครียดมากจากการมีอุปสรรคการทำมาหากินจากหน่วยงานรัฐ ร้อยละ 13.8 เครียดมากจากการโดนหลอกหรือโดนโกงจนสูญเสียเงินจำนวนมาก และร้อยละ 7.9 เครียดมากจากปัญหานักท่องเที่ยวยังมีน้อยส่งผลต่อการทำมาหากินถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

โดยมีผู้ตอบคำถามกรณีถ้ามีการเลือกตั้งใหม่ ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ได้ผลว่า อันดับ1 เป็นของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 23.4 รองลงมาคุณแพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 21.1 อันดับ 3 คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 20.2 ตามมาด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ร้อยละ 12.5 นานอนุทิน ชาญวีรกุล ร้อยละ 9.9 คนอื่นๆ จากพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 6.5 คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ร้อยละ 2.8 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 1.7 และอื่นๆ ร้อยละ 1.9

และเมื่อสอบถามว่า ถ้าเลือกตั้ง ส.ส. วันนี้ท่านมีแนวโน้มจะลงคะแนนให้พรรคใดเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ พบว่า อันดับ 1 คือ พรรคเพื่อไทย ร้อยละ 35.9 รองลงมาพรรคก้าวไกล ร้อยละ19.8 อันดับ 3 พรรคไทยสร้างไทย ร้อยละ 14.7 ตามมาด้วยพรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 12.6 พรรคภูมิใจไทย ร้อยละ10.7 พรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 3.1 พรรคเสรีรวมไทย ร้อยละ 1.9 และพรรคอื่น ๆ ร้อยละ 1.4