การจะเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียมเป็นของตัวเองหลังแรก นอกจากที่จะศึกษาข้อมูลจากทางเว็บไซต์ หรือหาข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ แล้ว ควรที่จะเข้าไปดูบ้านตัวอย่างจริง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งการเข้าชมบ้านตัวอย่างในครั้งแรกหลายท่านอาจจะตื่นเต้นหรือคิดคำถามที่จะถามไม่ออกว่าควรถามคำถามอะไรกับพนักงานขาย
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคนซื้อบ้านครั้งแรก ที่ยังไม่รู้ว่าจะตั้งต้นดูบ้านหรือที่อยู่อาศัยอย่างไร จะต้องมีคำถามที่สำคัญเมื่อสำรวจบ้านหรือคอนโดมิเนียมครั้งแรกอย่างไร
- ชง “วาระด่วน” รัฐบาลใหม่ ทุนจีนผวารถไฟไทย-จีนเปลี่ยนทิศ
- เปิดประวัติ ฟูอาดี้ พิศสุวรรณ ทีมประสานต่างประเทศพรรคก้าวไกล
- ร้อนแล้งขาดน้ำยาวถึงปี’67 เอลนีโญ ถล่มผลผลิตเกษตร
เหล่านี้คือ 10 คำถามสำคัญ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ซื้อบ้านครั้งแรก ดังนี้
1.ข้อมูลพื้นฐานของโครงการ
ข้อมูลในส่วนนี้จะช่วยตัดสินใจเรื่องการอยู่อาศัยว่าสภาพแวดล้อมบริเวณบ้านเป็นยังไง มีการอยู่อาศัยที่หนาแน่นไหม มีความเป็นส่วนตัวหรือไม่
- ในโครงการมีทั้งหมดกี่ยูนิต
- ในโครงการมีทั้งหมดกี่ขนาด มีขนาดไหนบ้าง
- มีการจอดรถบนถนนส่วนกลางไหม
- มีที่จอดรถรองรับเท่าไหร่
- ในกรณีที่มีคนมาหาสามารถจอดรถได้บริเวณไหน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มไหม
2.ฟังก์ชั่นของที่อยู่อาศัย
ข้อมูลส่วนนี้จะช่วยตัดสินใจเรื่องขนาดของที่อยู่อาศัยว่าตรงกับเงื่อนไขที่เรามองหาหรือเพียงพอสำหรับการใช้งานหรือไม่ และเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องราคาด้วย เพราะถ้าเนื้อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นก็จะแพงขึ้นด้วย
- เนื้อที่กี่ตารางวา
- มีพื้นที่ใช้สอยเท่าไหร่
- มีห้องนอน ห้องน้ำ ที่จอดรถ เท่าไหร่
- ราคาต่อตารางเมตร/ตารางวาเท่าไหร่
- มีห้องครัวให้ไหม
- มีเฟอร์นิเจอร์แถมไหม
- บ้านร้อนไหม แดดเข้าทางไหน แดดเช้า แดดบ่ายดูยังไง
- ค่าส่วนกลางคิดยังไง
- ความสูงจากฝ้าลงมาถึงพื้นเท่าไหร่ และแต่ละห้องฝ้าสูงเท่ากันหรือไม่
- มีที่ชาร์จรองรับรถอีวีไหม
3.ทำเลที่ตั้ง
ข้อมูลส่วนนี้จะช่วยตัดสินใจเรื่องการเดินทาง เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก เรื่องอาหารการกิน
- ห่างจากรถไฟฟ้าเท่าไหร่ กี่กิโลเมตร กี่นาที
- เข้า-ออกโครงการได้กี่เส้นทาง
- ใกล้ทางด่วน หรือถนนเชื่อมต่อหลายสายไหม
- มีรถรับส่งสาธารณะผ่านบริเวณหน้าโครงการไหม ราคากี่บาท
- โครงการมีรถคอยรับส่งในโครงการไหม
- ใกล้ห้างสรรพสินค้าหรือตลาดไหม
- น้ำท่วมไหม
4.ความปลอดภัย
ข้อมูลส่วนนี้จะช่วยตัดสินใจเรื่องความปลอดภัยของตัวเราและทรัพย์สินของเราในเวลาที่เราไม่อยู่บ้านหรือต้องเดินทางในตอนกลางคืน
- มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมงไหม
- เข้า-ออก โครงการยังไง
- มีคีย์การ์ดเข้า-ออกไหม
- มีระบบคัดกรองลูกบ้านกับคนภายนอกไหม
- มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเดินตรวจบริเวณในโครงการไหม ตรวจกี่ครั้งต่อวัน
- มีกล้องวงจรปิดไหม มีเยอะแค่ไหน
- กลางคืนมีไฟบริเวณถนนไหม
5.ส่วนกลาง
ข้อมูลส่วนนี้จะช่วยตัดสินใจเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกสบายภายในโครงการที่เราจะได้รับเมื่อเข้าไปอยู่
- มีฟิตเนสหรือมีสระว่ายน้ำไหม
- มีมุมพักผ่อนไหม เช่น สวนภายในโครงการ
- มีพื้นที่สำหรับคนเลี้ยงสัตว์ไหม
- มีห้องจัดกิจกรรมหรือห้องสันทนาการไหม
- คนนอกเข้ามาใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ไหม
- มี WiFi ให้ไหม
- การจัดการขยะทำยังไง มีรถมารับ หรือโครงการเป็นคนเก็บ
- มีที่จอดรถไหม
- มีพื้นที่สำหรับให้นั่งทำงานไหม
6.โปรโมชั่น
ข้อมูลส่วนนี้จะเป็นอีกหนึ่งปัจจจัยในการตัดสินใจซื้อ ในกรณีเรากำลังเปรียบเทียบหลายโครงการ
- แถมแอร์ไหม
- แถมปั๊มน้ำกับแทงก์น้ำไหม
- ฟรีค่าโอน ค่าจดจำนองไหม
- จองแล้วถ้ากู้ไม่ผ่านได้เงินจองคืนไหม
- มีส่วนลดเท่าไหร่
- ฟรีค่าส่วนกลางไหม
- มีของแถมอะไรบ้าง
7.ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
ข้อมูลส่วนนี้จะบอกว่าเราต้องเตรียมเงินสำรองไว้สำหรับจ่ายค่าอะไรบ้างในระหว่างดำเนินการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม
- ค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองใครจ่าย หรือแบ่งคนละครึ่ง
- ต้องจ่ายเงินกองทุนสะสมไหม
- ค่าส่วนกลางคิดยังไง จ่ายเป็นรายปี หรือรายเดือน
- มิเตอร์ไฟฟ้าและมิเตอร์น้ำประปาต้องจ่ายไหม กี่บาท
- ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่ต้องจ่ายให้ธนาคารและกรมที่ดิน เช่น ค่าดำเนินการขอสินเชื่อ, ค่าประเมินสินทรัพย์, ค่าอากรสแตมป์
8.การกู้
เป็นอีกหนึ่งคำถามยอดนิยมสำหรับ first jobber ที่มีความกังวลในเรื่องของการกู้ โดยสามารถสอบถามกับพนักงานขายได้เลย หรือไม่ก็ขอใบเสนอราคามาพิจารณา ซึ่งในใบเสนอราคาก็จะมีการแบ่งงวดผ่อนให้ดูเป็นตัวอย่างว่าจะต้องผ่อนประมาณกี่เดือน ตกเดือนละเท่าไหร่ หรือถ้ากังวลว่าจะกู้ไม่ผ่านก็สามารถสอบถามเรื่องการกู้ร่วมได้ ซึ่งการกู้ร่วมของแต่ละบริษัทอาจมีเงื่อนไขที่ไม่เหมือนกัน
- เงินเดือนเท่านี้กู้ได้ไหม
- กู้ร่วมได้ไหม มีเงื่อนไขยังไง
- เวลายื่นกู้ต้องทำยังไง
- ต้องยื่นกี่ธนาคาร
- โครงการมียื่นสินเชื่อให้ไหม
9.เงินดาวน์
เงินดาวน์ คือเงินบางส่วนที่เราจ่ายให้กับโครงการ ซึ่งจะเป็นส่วนของเงินต้น ส่วนมากจะนิยมเรียกเก็บเป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับราคาเต็ม เช่น 10%, 20% หรือ 25% เป็นต้น จากนั้นผู้ซื้อก็จะทำการผ่อนชำระส่วนที่เหลือเป็นงวด ๆ ไป ตามแต่จะตกลงกับผู้ขาย
- ไม่มีเงินดาวน์สามารถกู้ได้ไหม
- ขั้นต่ำในการดาวน์คือเท่าไหร่
- มีเงื่อนไขในการวางเงินดาวน์อย่างไร
10.ใช้เอกสารอะไรบ้าง
โดยปกติแล้วการขอสินเชื่อนั้นผู้ขอสินเชื่อควรเตรียมเอกสารและหลักฐานดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อและนามสกุลกรณีเคยมีการเปลี่ยนชื่อ
- สำเนาทะเบียนสมรส
- สำเนาทะเบียนหย่า
- สำเนามรณบัตรของคู่สมรส
- ใบแจ้งความแยกกัน (หากไม่ได้อยู่ในกรณีไหนก็ไม่ต้องเตรียมสำเนาเหล่านั้นไป)
- หนังสือรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3-6 เดือน
- ใบแสดงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
- ทวิ 50 สำหรับพนักงานประจำ หรือ ภ.ง.ด. 90/91 สำหรับผู้ประกอบการ
- สำเนาด้านหน้า ด้านหลัง ของโฉนดที่อยู่อาศัยที่จะซื้อ
- สำเนาหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อ.ช. 2)
- แผนที่ตั้งโดยสังเขปของอสังหาริมทรัพย์
- รูปถ่ายของอสังหาริมทรัพย์
- สัญญาจะซื้อจะขาย
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้จะขาย (บ้าน คอนโดมือสอง)
