แจกเงินสดดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ซื้อได้ทุกอย่าง ใช้ได้ทุกพื้นที่

เงินดิจิทัล 10,000 บาท

แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทล่าสุดแบ่งจ่าย 3 ครั้ง กลุ่มเปราะบาง-บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.5 ล้านคน รับเงินสดครั้งเดียวเหนาะ ๆ เข้าบัญชี ใช้จ่ายซื้อสินค้าอะไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ กลุ่ม 2 จ่ายเงินสดงวดแรก 5,000 บาท งวดที่ 3 ลุ้นได้เงินดิจิทัลวอลเลต

โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท ล่าสุดได้ข้อสรุปใหม่ว่ารัฐบาลจะแจก “เงินสด” เข้าบัญชีทันที หลังคณะรัฐมนตรีมีมติในวันที่ 17 กันยายน 2567 นี้

เดือนกันยายน รับเงินสดทันที 14.5 ล้านคน

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุชัดเจนว่า “โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเลตจะเริ่มดำเนินการสำหรับกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มผู้พิการก่อน รวมจำนวน 14.5 ล้านคน มาจากกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.5 ล้านคน และกลุ่มผู้พิการ 2.2 ล้านคน โดยคาดว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีหลังจากวันที่ 20 กันยายนเป็นต้นไป”

ไม่จำกัดสินค้า ใช้จ่ายได้ทุกพื้นที่

สำหรับกลุ่มแรกที่จะได้รับเงินสด 10,000 บาท จำนวน 14.5 ล้านคนนั้น ไม่ต้องลงทะเบียน สามารถใช้เงินได้ทุกพื้นที่ ไม่จำกัดว่าจะอยู่ในอำเภอ จังหวัดใด และสามารถซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ทุกรายการ ใช้ชำระหนี้ จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโดยสาร ก็สามารถทำได้ เพื่อตอบโจทย์ให้เงินเข้าไปหมุนในระบบ กระตุ้นเศรษฐกิจ

เงินสดดิจิทัล 10,000 บาท ซื้อสินค้าได้ทุกอย่าง

ผู้ได้รับสิทธิ์กลุ่มแรก ซึ่งเป็นเงินสดโอนเข้าบัญชี 14.5 ล้านคน สาารถใช้จ่ายซื้อ สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น

  • ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารสด อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์)
  • เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เวชสำอาง ยารักษาโรค
  • ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม กะปิ น้ำปลา ซอสปรุงรส
  • สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ
  • สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตร เช่น ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์พืช
  • สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผักสด ผลไม้ อาหารสด เครื่องจักสาน

30 กว่าล้านคน รับเงินสดคิวถัดไป

สำหรับประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐแล้ว รัฐบาลจะปิดลงทะเบียนในวันที่ 15 กันยายน 2567 ขณะนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในขั้นตอนที่ 3 เพื่อรอยืนยันการเข้าร่วมรับสิทธิ สามารถเริ่มตรวจสอบผลการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นต้นไป

Advertisment

จากนั้นรัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนในกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน​ ในวันที่ 16 กันยายน-​16 ตุลาคม 2567

Advertisment

โดยกลุ่มที่ผ่านการตรวจคุณสมบัติได้รับการยืนยันการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จะได้รับเงิน 2 งวด แบ่งเป็น งวดแรกรับเงินสด 5,000 บาท ก่อนสิ้นปี 2567 หรือไตรมาส 4 ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้

ส่วนงวดที่ 2 รัฐบาลจะเริ่มจ่ายภายในต้นปี 2568 คาดว่าจะจ่ายผ่านระบบดิจิทัลวอลเลต ซึ่งกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ จะเป็นหน่วยงานรวบรวมร้านค้า เพื่อมารองรับ ให้โครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่มากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ นำพาประเทศเข้าสู่ระบบดิจิทัล และเตรียมพร้อมให้ประชาชน เรียนรู้เข้าสู่โครงสร้างการเงินใหม่ และให้จำนวนเงินที่ลงไปจะส่งผลต่อการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้ 2 รอบ

เงื่อนไขเดิมสินค้าที่เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซื้อไม่ได้

  • สลากกินแบ่งรัฐบาล
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม
  • บัตรกำนัล บัตรเงินสด
  • ทองคำ เพชร พลอย อัญมณี
  • น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า
  • บริการต่าง ๆ เช่น ร้านนวด ร้านทำผม ร้านเสริมสวย
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องมือสื่อสาร

วิธีลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านแอปทางรัฐ

โดยประชาชนที่มีสมาร์ทโฟน สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ได้โดยตรงจากแอปพลิเคชั่น “App Store” สำหรับระบบปฏิบัติการไอโอเอส (iOS) และแอปพลิเคชั่น “Google Play” สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน หลังดาวน์โหลดมีขั้นตอนรับสิทธิดังนี้

  1. เปิดแอปทางรัฐ กดปุ่ม “สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ”
  2. กดที่คำว่า สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ
  3. กดที่คำว่า สมัครสมาชิก
  4. กดปุ่ม “สมัครด้วยบัตรประชาชน” บนแอปทางรัฐที่เดียว ไม่ต้องใช้แอปอื่น ไม่ต้องไปเสียบบัตรที่ Counter Service ช่วยให้ลงทะเบียนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
  5. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นคลิกเครื่องหมายถูกต้องที่ “ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข” แล้วกด “ยอมรับ”
  6. อ่านข้อแนะนำในการถ่ายรูปบัตรประชาชน จากนั้นกดปุ่มเพื่อถ่ายรูป
  7. กรอกข้อมูลของท่านและตรวจสอบให้ถูกต้องตามบัตรประชาชน แล้วกดปุ่ม “ยืนยันตัวตน”
  8. อ่านข้อแนะนำในการสแกนใบหน้า จากนั้นเริ่มสแกนใบหน้าของท่าน
  9. กำหนด “ชื่อบัญชีและรหัสผ่าน” ในการเข้าสู่แอป แล้วกด “ยืนยัน”
  10. ตั้งค่า PIN Code 6 หลัก แล้วกดยืนยัน Pin Code อีกครั้ง
  11. เปิดใช้งานการสแกนใบหน้าของท่านโดยกดที่ “ใช้งาน”
  12. จากนั้นกด “เริ่มใช้งาน” และเตรียมพร้อมรอติดตามประกาศวันกดยืนยันขอรับสิทธิจากรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้เลย