
ยอดขายรถยนต์ 8 เดือนทำได้แค่ 3.99 แสนคัน ลดลง 23% ชี้ยังเผชิญปัจจัยลบ ทั้งเศรษฐกิจขาลง หนี้ครัวเรือน ไฟแนนซ์เข้ม วิกฤตน้ำท่วม ลุ้นทั้งปีทะลุ 600,000 คัน ต่ำสุดในรอบ 10 ปี
วันที่ 25 กันยายน 2567 กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ หอการค้าญี่ปุ่น หรือเจโทร รายงานยอดขายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.) พบว่ามียอดขายทั้งสิ้น 399,088 คัน ลดลง 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนนี้แบ่งเป็น
- โตโยต้า จำนวน 151,907 คัน
- อีซูซุ 59,189 คัน
- ฮอนด้า 53,946 คัน
- มิตซูบิชิ 18,263 คัน
- นิสสัน 6,768 คัน
- มาสด้า 6,545 คัน
- ซูซูกิ 4,505 คัน

ส่วนรถยนต์สัญชาติจีนได้แก่
- บีวายดี 20,878 คัน
- เอ็มจี 11,671 คัน
- ฉางอาน 5,855 คัน
- เกรท วอลล์ฯ 4,799 คัน
- จีเอซี 3,791 คัน
- เนต้า 3,415 คัน
ขณะที่ฟอร์ดทำได้ 14,757 คัน, เทสลา 2,988 คัน และอื่น ๆ อีก 29,811 คัน
โดยจากยอดขายของค่ายรถยนต์ต่าง ๆ จะพบว่า มีเพียงค่ายบีวายดีเพียงยี่ห้อเดียวที่มีอัตราการเติบโตถึง 41%
แหล่งข่าวในวงการรถยนต์กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สถานการณ์ยอดขายในขณะนี้มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะได้เห็นตัวเลขต่ำสุดในรอบ 10 ปี ทั้งปีเพียงแค่ 600,000 คันเท่านั้น
เนื่องจากปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบกับตลาดโดยรวม ทั้งหนี้ครัวเรือนและสภาพเศรษฐกิจ อีกทั้งการกู้ไม่ผ่านเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และยังต้องเผชิญปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศไทย น่าจะทำให้ตลาดรถยนต์ได้รับผลกระทบโดยตรง
“หากเรามองจากตัวเลขที่เห็นอยู่กับช่วงเวลาที่เหลืออีก 4 เดือน วันนี้ยอดขายรถยนต์อยู่ที่ 399,000 คัน กับช่วงเวลาที่เหลือ หากขายเฉลี่ยราวเดือนละ 70,000 คัน ก็ต้องเหนื่อย เพราะลำพังแค่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยอดขายยังไม่ถึง 50,000 คัน ยังต้องรอลุ้นกันว่าจะมีปัจจัยอะไรมากระตุ้นตลาดได้หรือไม่”