ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจทรุดหนักรอบ 9 ปี ผู้ประกอบการหวั่น “โควิด-19” ยืดเยื้อฉุดคำสั่งซื้อ-ยอดจอง

แบงก์ชาติรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจทรุดต่ำสุดรอบ 9 ปี ผู้ประกอบการผลิต “ยานยนต์-อิเล็กทรอนิกส์” กังวล 3 เดือนข้างหน้า “โควิด-19” ยืดเยื้อฉุดคำสั่งซื้อ-ยอดจอง-ขาดแคลนวัตถุดิบ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยแพร่ ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนกุมภาพันธ์2563 พบว่า ลดลงมากจากเดือนก่อนที่ 48.5 สู่ระดับ 44.1 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมปี 2554 โดยเป็นการลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านคำสั่งซื้อ การผลิต และผลประกอบการ ทั้งในภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต

โดยความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคการผลิตลดลงในด้านคำสั่งซื้อ การผลิต และผลประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ความเชื่อมั่นด้านการผลิตลดลงตามระดับวัตถุดิบคงคลังที่ไม่เพียงพอความต้องการ เนื่องจากต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากจีนค่อนข้างมาก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการลดลงตามไปด้วย

ขณะเดียวกันความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิตที่ลดลงอย่างมากในเดือนนี้มาจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก นำโดยกลุ่มขนส่งและกลุ่มที่พักแรมและบริการด้านอาหารที่ความเชื่อมั่นด้านยอดจองของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศลดลงจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้ความเชื่อมั่นด้านปริมาณการบริการลดลงตามไปด้วย

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลงจากเดือนก่อนมาอยู่ที่ 50.5 สะท้อนความกังวลของผู้ประกอบการที่มองว่าภาวะธุรกิจในระยะข้างหน้าจะยังคงมีความเสี่ยงจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยเฉพาะกลุ่มขนส่งที่คาดว่ายอดจองในอนาคตจะลดลง เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความกังวลเรื่องคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่จะหดตัว ขณะที่ความเชื่อมั่นด้านการผลิตของกลุ่มผลิตยานยนต์ลดลงตามการคาดการณ์ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบที่อาจมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสยังไม่คลี่คลาย

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย ความเชื่อมั่นด้านค่าสั่งซื้อและผลประกอบการของธุรกิจที่ลดลงต่อเนื่อง ส่งผลให้จ่านวนธุรกิจที่ความเชื่อมั่นด้านสภาพคล่องแย่ลงมีมากขึ้น สะท้อนจากดัชนีฯ ด้านสภาพคล่องที่ลดลง อีกทั้งยังอยู่ต่่ากว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดี ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ทั้งรายใหญ่ และ SMEs ยังได้รับเครดิตจากสถาบันการเงินที่เพียงพอ

ทั้งนี้ ปัจจัยภายในประเทศยังคงเป็นข้อจำกัดสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในด้านของกำลังซื้อที่อ่อนแอและการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้การปรับราคาสินค้าทำได้ยาก สอดคล้องกับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในอีก 12 เดือนข้างหน้าที่ยังคงใกล้เคียงเดือนก่อนที่ร้อยละ 1.6


https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/EconomicIndices/DocLib_EconomicIndex/BSI_TH_Feb20_dqlvh6vr.pdf