ข้าวเปลือกเหนียว ดิ่งเหลือตันละ 9 พันบาท ‘พาณิชย์’ เร่งเจรจาขาย ’คอฟโก้’ จีน

ข้าวเปลือก

กรมการค้าภายใน ร่วมกับทุกหน่วยงานติดตามเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเหนียวอย่างใกล้ชิด หลังราคาตกต่ำ ขณะที่ พาณิชย์ระดมภาครัฐและเอกชนช่วยดึงราคา

วันที่ 13 ตุลาคม 2563 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือติดตามสถานการณ์ราคา ข้าวเหนียวที่มีราคาปรับตัวลดลง ว่า จากแนวโน้มราคาที่ปรับลดลง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาราคาข้าวเหนียวปรับตัวลดลง

พร้อมติดตามสถานการณ์ข้าวทั้งในประเทศและต่างประเทศร่วมกับผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดในช่วงที่ผลผลิตกำลังจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ กรมฯ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีสมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กรมการข้าว และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรร่วมหารือ หลังหารือ พบว่า ข้าวเปลือกเหนียวที่กำลังออกสู่ตลาดขณะนี้ เป็นข้าวเหนียวนาปรังพันธุ์สันป่าตอง 1

โดยปกติราคาตลาดจะต่ำกว่าข้าวเปลือกเหนียวนาปีพันธุ์ กข 6 ที่จะออกสู่ตลาดมากในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้ ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมามีฝนตกชุก ทำให้มีความชื้นสูง ราคารับซื้อข้าวที่ความชื้นไม่เกิน 15% จะอยู่ที่ตันละ 9,000 – 9,500 บาท (ข้าวสดความชื้น 28% ราคาอยู่ที่ตันละ 7,000 – 7,500 บาท)

ประชุม ข้าวเปลือก

จากการประเมินสถานการณ์การเพาะปลูกข้าวเปลือกเหนียวในปีนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ มีความเห็นว่าปริมาณข้าวเปลือกเหนียวใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ไม่ได้เพิ่มสูงมากอย่างที่คาดการณ์กันไว้ ซึ่งในปีที่ผ่านๆ มาที่ประสบภัยแล้งต่อเนื่อง ส่งผลให้ผลผลิตไม่เพียงพอ ต่อความต้องการทำให้ราคาสูงกว่าปกติมาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับราคาข้าวเปลือกเหนียวปัจจุบันคาดว่า น่าจะอยู่ที่จุดต่ำสุดแล้ว เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกเหนียวในช่วงนี้ กรมการค้าภายในและกรมการค้าต่างประเทศได้ขอความร่วมมือสมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าไปรับซื้อข้าวเปลือกเหนียวจากเกษตรกรในพื้นที่แหล่งผลิต

โดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย จะช่วยรับซื้อต่อเนื่อง และประสานห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ จัดให้มีพื้นที่จำหน่ายข้าวสารเหนียวและจัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภค

นอกจากนี้ กรมการค้าต่างประเทศจะเจรจากับ COFCO เพื่อเสนอขายข้าวเหนียวและข้าวชนิดอื่นภายใต้ MOU ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรไทย-จีนที่ยังอยู่ระหว่างเจรจาส่งมอบอีก 300,000 ตัน ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของไทยอยู่แล้ว เพื่อกระตุ้นความต้องการข้าวเหนียวภายในประเทศให้เพิ่มขึ้น

รวมทั้ง บูรณาการร่วมกับกรมศุลกากรและฝ่ายความมั่นคงเพื่อเข้มงวดการนำเข้าและการขออนุญาตขนย้าย ในการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าข้าวเหนียว จากประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด สำหรับมาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวเปลือกของรัฐบาล กระทรวงพาณิชย์ได้นำเสนอมาตรการประกันรายได้และมาตรการคู่ขนาน (โครงการสินเชื่อชะลอการจำหน่าย ซึ่งเกษตรกรจะได้รับค่าฝากเก็บ ตันละ 1,500 บาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวของสถาบันเกษตรกร และโครงการชดเชยดอกเบี้ย ให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก) ที่ นบข. ได้เห็นชอบแล้ว


และขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา ของคณะรัฐมนตรี ซึ่งเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและเก็บเกี่ยวไปแล้วก่อนที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติยังคงได้รับสิทธิ์ตามโครงการประกันรายได้ปี 2