ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ อัด จะนะรักษ์ถิ่น อ้างประชาธิปไตย ทำตัวอนาธิปไตย

ประชัย เลี่ยวไพรัตน์
ภาพจากเฟซบุ๊ก Prachai Leophairatana

ประชัย ประธานกรรมการ ทีพีไอ โพลีน พาวเวอร์ โต้เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น อ้างสิทธิการชุมนุมในกรุง ตามระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ร่วมประชาพิจารณ์รับฟังความเห็นจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตในพื้นที่ ทำตัวอันธพาลธิปไตย  

วันที่ 14 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเฟซบุ๊กบัญชีชื่อ Prachai Leophairatana ของนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP และอดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย โพสต์ข้อความเรื่องอุตสาหกรรมจะนะ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า

ผมขออธิบายเหตุการณ์การคัดค้านการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ที่จะนะสงขลาของกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นที่อ้างตัวเป็นคนจะนะเจ้าทะเลจะนะรักทะเล จะนะที่มาตั้งแคมป์อยู่หน้าทำเนียบและหน้ายูเอ็นให้สื่อมวลชนและประชาชนผู้รักความเป็นธรรมทุกฝ่ายที่รักประชาธิปไตยได้ทราบความจริง

ขอเริ่มต้นจากสวนกงสงขลาซื่งเป็นที่ชายหาดสวยงามติดทะเล ซึ่งรัฐบาลจัดให้ประชาชนเข้าไปใช้เป็นแหล่งสันทนาการสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนตากอากาศเล่นน้ำทะเลกัน แต่ว่ามีกลุ่มนักเลงหัวไม้ อ้างตัวเป็นเจ้าพ่อทะเลเข้าไปยึดทำการสร้างบ้านเรือนเป็นหมู่บ้านที่อยู่อาศัย อย่างผิดกฎหมายโดยที่รัฐบาลไม่ได้สนใจที่จะยึดที่คืน

ซึ่งเราก็เห็นใจเขาเพราะเขาไม่มีรายได้ที่แน่นอน บางวันก็จับปลามาได้หลายร้อยบาทต่อวัน บางวันก็ไม่ได้ปลาเพราะฉะนั้นใคร ที่เขารู้จัก จะจ้างคนพวกนี้ให้ทำอะไรก็ได้

พวกเขาถือว่าเขามีสิทธิอยู่เหนือประชาชนพลเมือง กลุ่มอี่นชาวบ้านทั่วไปไม่มีสิทธิที่จะเข้าไปใช้สถานที่นี้
นอกจากได้รับอนุญาตจากพวกเขาก่อนเท่านั้น ทำให้เขาเลยเข้าใจว่าเขามีอภิสิทธิเหนือคนทั้งประเทศอย่างน้อยก็ชาวจะนะคนอื่นหมดทุกคน คิดอยากจะให้คนอื่นทำอะไรก็ได้ หรือคิดห้ามไม่ให้คนอื่นทำอะไรในที่ของคนอื่น ซึ่งมีสิทธิในที่ของตนเอง100% ก็ได้ โดยไม่เคารพสิทธิของคนอื่นเลยแม้แต่นิดเดียว

แล้วก็อ้างประชาธิปไตยตลอดเวลาทั้ง ๆ ที่ขณะนี้ในวันที่ 13 ธันวาคมจะมีการทำประชาพิจารณ์ฟังความเห็นของประชาชนชาวจะนะตามวิถีทางของประชาธิปไตยว่าประชาชนชาวจะนะส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตและท่าเรือน้ำลึกที่จะนะในพื้นที่ที่ดินของเจ้าของโครงการโดยไม่ได้ไปยึดเอาสวนกงมาเป็นท่าเรือน้ำลึกอย่างที่กลุ่มนี้กล่าวหา

แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ไปทำประชาพิจารณ์ แต่เลือกที่จะมารวมกลุ่มตั้งแคมป์ที่หน้าทำเนียบและที่หน้า UN โดยยึดพื้นที่สาธารณะเป็นที่อยู่อาศัย โดยไม่เคารพตัวบทกฎหมายและสิทธิของคนอื่น

คัดค้านการทำสวนอุตสาหกรรมในที่ดินของเจ้าของโครงการ เพราะเขาถือว่าเขาเป็นอภิสิทธิ์ชนแล้วจะให้คนอื่นต้องเคารพคำสั่งของเขาเท่านั้น แม้แต่รัฐบาลซึ่งได้รับเลือกตั้งมาโดยเสียงข้างมากของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ให้ร้บฟังคำสั่งคัดค้านการจัดตั้งสวนอุตสาหกรรมในที่ส่วนตัวเพื่อสร้างงานและนำความเจริญมาสู่ดินแดน 4 จังหวัดภาคใต้ เพื่อความมั่นคงของด้ามขวานทองอันเป็นที่รักของเรา

การกระทำของอันธพาลกลุ่มนี้ไม่ใช่วิถีของประชาธิปไตย แต่เป็นเรื่องของอนาธิปไตยหรืออันธพาลธิปไตย
ทั้งยังมีเจตนาบ่อนทำลายความสงบสุขของชาวบ้านและความมั่นคงของประเทศอันเป็นที่รักของพวกเรา

ถ้าเขายังอ้างประชาธิปไตยประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน ก็ต้องขอให้เขากลับไปจะนะใช้สิทธิของเขาในกระบวนการประชาพิจารณ์ที่มีตามระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่มาทำตัวเป็นอันธพาลใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม มีผู้เข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์หลากหลาย โดยส่วนใหญ่ตั้งคำถามกับข้อความของนายประชัย เช่น การได้มาในที่ดินดังกล่าวของนายประชัย กระบวนการทำ EHIA หรือ EIA ดำเนินการตามกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านแล้วหรือไม่ เป็นต้น