ชาวจะนะเดิมพันด้วยชีวิต ประยุทธ์-ธรรมนัส เปิดปากตอบ

ตอบคำถามชาวจะนะ

หลังการสลายการชุมนุมชาวจะนะที่ทำเนียบรัฐบาล ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ และ ร.อ.ธรรมนัส ได้ออกมาตอบคำถามกรณีการทำเอ็มโอยูกับชาวบ้านเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่ลูกหลานชาวจะนะประกาศเดิมพันด้วยชีวิต เรียกร้องรัฐบาลหยุดคุกคามแผ่นดินของคนจะนะ

วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจควบคุมฝูงชนได้เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น จังหวัดสงขลา ซึ่งเดินทางมาชุมนุมทวงสัญญา ที่รัฐบาลเคยระบุไว้เมื่อปีที่แล้วว่า จะยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะและแก้ไขผังเมืองเอาไว้ก่อน เมื่อช่วง 21.00 น. วานนี้ (6 ธ.ค.)

วันนี้ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ข่าวสด รายงานว่า น.ส.ไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนนักเคลื่อนไหวเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น หรือ ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ พร้อมด้วยเยาวชนประมาณ 10 คน ซึ่งเป็นลูกหลานผู้ชุมนุมที่ถูกตำรวจจับกุมเมื่อคืน ได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ในนามเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น

ชาวจะนะประกาศเดิมพันด้วยชีวิต

น.ส.ไครียะห์ กล่าวว่า การมาทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ เพื่อบอกรัฐบาลให้หยุดคุกคามแผ่นดินของคนจะนะ เพื่อให้หยุดสร้างนิคมอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาลกลับนำที่ดินไปให้นายทุนเพียงสองบริษัทเกือบ 2 หมื่นไร่ และเหตุการณ์วันที่ 6 ธันวาคม ย้ำชัดถึงการปกป้องกลุ่มทุน

“เราขอยืนยัน แม้จะถูกจับกุมอีกกี่ครั้ง เมื่อออกมาแล้วก็จะกลับมายังทำเนียบรัฐบาลเหมือนเดิม เราไม่ไปไหน แม้จะถูกทำลายจากกลุ่มอำนาจสักกี่ครั้งก็ตาม ภารกิจนี้ขอเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ยืนหยัดจนถึงที่สุด” น.ส.ไครียะห์กล่าว และว่า

วันนี้ภาคีเครือข่าย 5 จังหวัดภาคใต้ ถึงเวลาแล้วที่ต้องลุกขึ้นแสดงตนปกป้องแผ่นดิน จะต่อสู้จนกว่าโครงการดังกล่าวจะยุติ และวันเดียวกันนี้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จะรวมตัวกันที่อำเภอจะนะ เพื่อออกแถลงการณ์ร่วมกัน ส่วนการเคลื่อนไหวในกรุเทพฯขอประเมินสถานการณ์ก่อน

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุม โดยมีการยื่นข้อเสนอไม่ดำเนินคดี แลกกับการหยุดเคลื่อนไหว ซึ่งผู้ถูกจับกุมไม่ยอมและยืนยันว่า คดีเพียงแค่นี้ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวได้

ไม่รับข้อเสนอหยุดเคลื่อนไหว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าข้อเสนอดังกล่าวมาจากใคร น.ส.ไครียะห์ ตอบว่า ไม่ทราบรายละเอียด เพียงแต่ทราบจากคำบอกเล่าของผู้ถูกจับกุมว่ามีการยื่นข้อเสนอ

“ตอนนี้เหลือแค่หนูและน้อง ๆ เราได้สารจากผู้ถูกจับกลุ่มคุมขังเมื่อคืน ที่บอกว่าเขาจะมาเจรจาไม่ดำเนินคดีกับพวกเรา แลกกับการไม่เรียกร้องเรื่องนิคมอุตสาหกรรมจะนะอีกต่อไป แต่พี่น้องทุกคนไม่ยอมรับและพร้อมจะสู้คดี และยืนยันว่าถ้าออกจากการถูกคุมขังไปได้จะมาหน้าทำเนียบรัฐบาลเพื่อเรียกร้องต่อไป จนกว่าข้อเรียกร้องจะบรรลุ เพราะคดีแค่นี้ทำลายความตั้งใจของพวกเราไม่ได้ เราพร้อมจะเอาชีวิตเข้าแลก” น.ส.ไครียะห์ กล่าว

ยันทำเอ็มโอยูกับรัฐบาลไม่ใช่ “ธรรมนัส”

เมื่อถามถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เคยลงนามเอ็มโอยูให้มีการศึกษาโครงการอีกครั้ง แต่ขณะนี้ ร.อ.ธรรมนัสพ้นจากตำแหน่งแล้ว กังวลว่าจะมีผลกับเอ็มโอยู ที่ทำไว้หรือไม่

น.ส.ไครียะห์ ตอบว่า ร.อ.ธรรมนัส เป็นผู้ลงนาม แต่เอ็มโอยูดังกล่าวเป็นการลงนามของรัฐบาลไม่ใช่ตัวบุคคล จึงต้องดำเนินการต่อเนื่อง แต่ตอนนี้เหมือนรัฐบาลดำเนินการแบบมั่วกันไปหมด

“ปีที่แล้วเราทำเอ็มโอยูไว้กับ ร.อ.ธรรมนัส ก็จริง แต่ในนามสัญญานี้คือเราทำร่วมกับรัฐบาล ไม่ได้ทำโดยบุคคล ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม รัฐบาลเซ็นมั่วกันไปหมด เซ็นไปแล้วเซ็นทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ โดยไม่รับผิดชอบอะไรสักอย่างเลยตอนนี้ พวกเราจะสู้จนกว่าจะยุติโครงการอุตสาหกรรมนิคมจะนะ และทำตามข้อเรียกร้องที่ทำกันไว้เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว” น.ส.ไครียะห์ กล่าว

ธรรมนัสยังห่วงชาวจะนะ

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กถึงเรื่องนี้ว่า หลังจากที่ผมพ้นจากการเป็นตำแหน่ง รมช. เกษตรฯ ผมไม่สามารถสานงานต่อเรื่องปัญหาของพี่น้องประชาชนในหลาย ๆ เรื่อง รวมถึงปัญหาของพี่น้องชาวจะนะ ซึ่งคงไม่มีใครรู้และเข้าใจถึงแก่นแท้ของปัญหา ยกเว้นผู้ที่มีส่วนได้เสียกับโครงการนี้

ผมได้รับการประสานจากเพื่อน ๆ สส. หลายท่าน ให้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวจะนะเหมือนเดิม แต่ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นผมไม่สามารถไปก้าวล่วงกับคณะทำงานชุดใหม่ของรัฐบาลได้อีก

ผมยังเป็นห่วงพี่น้องชาวจะนะและผมจะใช้ระบบสภาผู้แทนราษฎรเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องชาวจะนะต่อไปครับ

ประยุทธ์ยัน ครม. ยังไม่ตกลง

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า เอ็มโอยูหรือข้อตกลงที่เคยทำร่วมกันเมื่อปีที่ผ่านมามีความเป็นไปได้แค่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามผู้สื่อข่าวว่าว่า “ใครตกลงล่ะ”

เมื่อผู้สื่อข่าวตอบว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อครั้งเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดำเนินการขยายผลเมืองต้นแบบ สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ไปสู่เมืองต้นแบบ 4 อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เป็นผู้ไปเจรจา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า แล้วตนไปตกลงหรือยัง ครม.ตกลงหรือยัง ก็ยัง

เมื่อถามว่าจะต้องตั้งคนมาดูแลแทน ร.อ.ธรรมนัสหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เดี๋ยวจะให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสำนักนายกรัฐมนตรี ไปดูแลและติดตามดูว่าเกิดอะไรขึ้นและควรจะแก้ไขอย่างไร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า “เราต้องมองสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งไหนที่ไม่เป็นประโยชน์และเป็นปัญหาก็ไม่ต้องไปทำ ก็แค่นั้น ต้องทำให้ถูกต้องตามกติกา กฎหมายอะไรก็ตาม บางทีการไปพบปะเจรจาของใครก็แล้วแต่ เวลาไปพูดไปตกลงกับเขาอย่าลืมว่าไม่ได้ผ่าน ครม. ตนเตือนหลายครั้งแล้วเวลาไปให้รับข้อสังเกตมาแล้วนำมาสู่การแก้ไขปัญหาในรัฐบาล นั่นคือวิธีการทำงานของรัฐบาลจะต้องรอบคอบ”

“ผมฟังอยู่แล้วประชาชน ถ้าไม่ฟังก็ไม่ใช่ เพราะนี่คือกระบวนการประชาธิปไตย แต่การทำประชาธิปไตยที่มีกฎหมาย ก็ต้องดูกฎหมายด้วย ซึ่งผมได้สั่งการไปแล้ว ไม่ได้ไปลงโทษอะไรกันมากมาย ให้ไปตักเตือนกันก็แค่นั้น” นายกฯ กล่าว

ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกจับตัวไปจะมีการสั่งการอะไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เดี๋ยวตำรวจก็ปล่อย โดยการให้ประกันตัวอะไรสักอย่าง คงไม่มีอะไรหนักหนาหรอก ก็อย่าทำอีก ถ้าทำสิ่งที่ถูกต้องตนฟังอยู่แล้ว แต่ถ้าเราปล่อยปละละเลยในเรื่องเล็ก ๆ น้อยก็มีการขยายบานปลายไปทุกที สื่อก็เห็นและนำไปเผยแพร่ให้เขาทุกทีไป”