“จระเข้” เนื้อสัตว์ทางเลือก เริ่มต้นกิโลละ 70 บาท แก้ปัญหาหมู-ไข่ไก่ แพง

ภาพจาก มติชน

เมื่อราคาเนื้อหมู ไข่ไก่ ปรับตัวสูงขึ้น คนไทยเริ่มมองหาเนื้อสัตว์ทางเลือกที่มีโปรตีนไม่น้อยหน้ากัน แต่ราคาถูกกว่าอย่าง “เนื้อจระเข้” 

วันที่ 13 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผ่านพ้นเทศกาลปีใหม่ได้เพียง 2 สัปดาห์ คนไทยต้องเผชิญกับภาวะข้าวยากหมากแพง โดยเฉพาะสินค้าบริโภคที่สำคัญอย่าง เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่

จากการสำรวจราคาขายประจำวันที่ตลาดยิ่งเจริญ พบว่า หมูเนื้อแดงอยู่ที่ 210 บาท/กิโลกรัม, หมูสันนอกอยู่ที่ 230 บาท/กิโลกรัม และหมูสันในอยู่ที่ 230 บาท/ กิโลกรัม ส่วนไข่ไก่ราคาขายเบอร์ 0 จำนวน 10 ฟองอยู่ที่ 45 บาท และเบอร์ 4 อยู่ที่ 35 บาท/ 10 ฟอง

ส่วนไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่าง “เทสโก้ โลตัส” ราคาขายประจำวัน หมูเนื้อแดงอยู่ที่ 185 บาท/กิโลกรัม, หมูสันนอกอยู่ที่ 219 บาท/กิโลกรัม และหมูสันคออยู่ที่ 243 บาท/กิโลกรัม

ขณะที่ไข่ไก่ โลตัส เฟรช ไข่ไก่สด เบอร์ 1-2 ขนาดใหญ่ 10 ฟอง ขายที่ 49 บาท และซีพี ซีเล็คชั่น ไข่ไก่สด ขนาด L 10 ฟอง ขายที่ 59 บาท

เมื่อราคาเนื้อหมูและไข่ไก่ปรับเพิ่มขึ้น ประชาชนจึงหันไปบริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่น หนึ่งในนั้นคือ “เนื้อจระเข้” ด้วยราคาที่ถูกกว่า บางเจ้าขายในราคา 70 บาท/กิโลกรัม แต่เนื้อจระเข้มีโปรตีนมากกว่า รสชาติอร่อยพอทดแทนกันได้

“ประชาชาติธุรกิจ” ติดต่อไปยังเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก เนื้อจระเข้ จำหน่ายเนื้อจระเข้ สด แช่แข็ง WoodLand ซึ่งมีหน้าร้านจำหน่ายอยู่ที่ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ดังกล่าว ร้านค้าส่งเนื้อจระเข้รายนี้ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้เนื้อจระเข้ขายดีขึ้นจากสถานการณ์เนื้อหมูที่มีราคาแพง แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มาซื้อหาเนื้อจระเข้เป็นลูกค้าประจำ มีสัดส่วนของหน้าใหม่ขาจรเวียนมาบ้าง

ชิ้นส่วนจระเข้ที่วางขายในเพจ ภาพจากเฟซบุ๊กเพจ เนื้อจระเข้ จำหน่ายเนื้อจระเข้ สด แช่แข็ง WoodLand

โดยชิ้นส่วนที่คนนิยมรับประทาน ได้แก่ 1.เศษเนื้อขนาดเล็ก ราคาจะเริ่มต้นที่ 70 บาท/กิโลกรัม 2. โครงอ่อน ราคาจะอยู่ที่ 100 บาท/กิโลกรัม 3. หางราคาขายจะอยู่ที่ 150 บาท/กิโลกรัม และบ้องตัน ราคาขายจะอยู่ที่ 200 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ ลูกค้าที่ซื้อจำนวนมากตั้งแต่ 100 กิโลกรัมขึ้นไป ทางร้านจะลดราคาให้อีก

“จระเข้ที่นำมาแปรรูปเป็นเนื้อสดนั้น จะเป็นจระเข้น้ำจืด อายุประมาณ 3-4 ปีขึ้นไป ซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่จระเข้ได้ขนาดมากที่สุดคือ ยาวประมาณ 1.5 เมตร น้ำหนัก 20 กิโลกรัมขึ้นไป โดย 1 ตัว จะได้เนื้อมาบริโภคที่ประมาณ 10 กิโลกรัม หากซื้อเป็นตัวจะตกตัวละประมาณ 600-2,000 บาท” เจ้าของร้านกล่าว

ส่วนรสชาติของเนื้อจระเข้ ทางร้านบอกว่าแล้วแต่ชิ้นส่วน หากเป็นบ้องตันที่คนนิยมมากที่สุด เนื้อจะคล้าย ๆสันในไก่ แต่รสสัมผัสจะเหมือนหมู ไม่มีกลิ่นสาป ส่วนเนื้อช่วงหางเป็นส่วนที่ทางร้านมองว่าอร่อยที่สุด เพราะเป็นเนื้อส่วนเดียวที่มีมันแทรก ให้ความชุ่มฉ่ำในการรับประทาน สำหรับเมนูที่นิยมนำไปปรุงคือ จระเข้ย่าง จระเข้หัน และเมนูผัด เช่น ผัดกะเพราหรือผัดเผ็ด เป็นต้น

นอกจากนี้ ทางร้านยังบอกอีกว่า ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 5 ระลอกที่ผ่านมา ทางร้านได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะเนื้อจระเข้เป็นสินค้าที่ต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศจีนนิยมรับประทาน ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็ได้คนจีนสั่งไปบริโภคในปริมาณมาก ๆ 100 กิโลกรัมขึ้นไปแทบทั้งสิ้น