อังกฤษขึ้นดอกเบี้ย มาอยู่ที่ 1.75% แม้จะรู้ว่ากำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยปลายปีนี้
วันที่ 5 สิงหาคม 2565 รอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยอัตราสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2538 หรือในรอบ 27 ปี เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
โดยได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 50 เบสิสพอยต์ มาอยู่ที่ 1.75% พร้อมกับคำเตือนว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะตกต่ำลงในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ และการดูแลเงินเฟ้อคือการแก้ปัญหาลำดับแรก อีกทั้งคาดว่าจะเริ่มขายทองคำที่ถูกอยู่ในช่วงเดือนกันยายนนี้
พร้อมกับคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในประเทศจะกระโดดไปอยู่ที่ 13% ในเดือนตุลาคมนี้ แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ยาวนานกำลังจะเกิดขึ้นก็ตาม
แต่เหตุจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น หลังรัสเซียรุกรานยูเครน ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางอังกฤษต้องตัดสินใจในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) ที่ผ่านมา 8:1 ขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% มาอยู่ที่ 1.75% เพื่อแก้ปัญหาราคาพลังงานและเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น
จากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นหลังจากการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ผู้กำหนดอัตราดอกเบี้ยของ BoE โหวต 8-1 ให้อัตราดอกเบี้ยธนาคารเพิ่มขึ้นครึ่งเปอร์เซ็นต์เป็น 1.75% ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปลายปี 2551
ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์ร่วงลงทันที หลังจากการแถลงข่าวของ BOE จบลง ด้วยคำกล่าวว่า อังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปลายปี 2565 และจะดำเนินการไปถึงต้นปี 2567
แอนดรูว์ ไบเลย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่คาดว่าจะใหญ่มาก จึงต้องทำให้เปิดทางเลือกหลาย ๆ ทาง การทำให้เงินเฟ้อกลับไปที่ 2% เป็นเป้าหมาย อันดับแรก และไม่มีทางทำอย่างอื่นนอกจากทางนี้