
คอลัมน์ : Tech Times ผู้เขียน : มัชฌิมา จันทร์สว่างภูวนะ
เราคุ้นกับภาพรถยนต์บินได้จากการอ่านการ์ตูนหรือไม่ก็ดูหนังไซไฟมาตั้งแต่เด็ก แต่คงไม่มีใครคิดว่า สิ่งประดิษฐ์ล้ำยุคขนาดนี้จะกลายเป็นจริงได้ในรุ่นเรา เพราะบริษัทที่ผลิต “แท็กซี่บินได้” หลายแห่งมีแผนเปิดให้บริการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้
ล่าสุด Lilium หนึ่งในผู้เล่นสำคัญได้รับใบอนุญาตจาก European Union Aviation Safety Agency ให้ออกแบบและผลิตแท็กซี่บินได้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือได้ไฟเขียวจาก EU ให้ดำเนินกิจการและให้บริการแท็กซี่บินได้อย่างเป็นทางการนั่นเอง
แท็กซี่บินได้ มีชื่อเรียกเป็นทางการว่า electric vertical take-off and landing (eVTOL) มีลักษณะคล้ายเครื่องบินขนาดเล็กที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ส่วนมากจะรองรับผู้โดยสารได้ 2-6 คน และอาจมีนักบินหรือไม่มีก็ได้
รายงานของ Allied Market Research คาดการณ์ว่า ตลาดแท็กซี่บินได้ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 6.63 พันล้านเหรียญในปี 2030 โดยปัจจัยกระตุ้นการเติบโตสำคัญ ประกอบด้วยความต้องการรูปแบบการเดินทางใหม่ ๆ ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ
ยังมีบริษัทชั้นนำอีกหลายแห่งที่ทุ่มงบฯมหาศาลในการพัฒนาแท็กซี่บิน เช่น Volocopter บริษัทสัญชาติเยอรมันที่พัฒนารถบินได้มาตั้งแต่ปี 2011ทดสอบการบินไปแล้วกว่า 1 พันครั้งในหลายประเทศ และวางแผนจะเปิดตัวเป็นทางการในงานโอลิมปิกปีหน้าที่ปารีส หรือ Joby Aviation สตาร์ตอัพจากซิลิคอนวัลเลย์ ที่ระดมทุนได้กว่า 2 พันล้านเหรียญจากโตโยต้า อูเบอร์ และอินเทล ก็จะเปิดให้บริการปีหน้าเช่นกัน
สำหรับค่าบริการก็แตกต่างกันไปแล้วแต่บริษัท ส่วนมากจะอยู่ที่ 2.25-11 เหรียญต่อไมล์ เช่น Volocopterจะคิดค่าบริการ 200 เหรียญ/คน สำหรับทริปที่ใช้เวลาบิน 8 นาที (หากนั่งรถปกติ จะใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง)
ถึงราคาจะดูเกินเอื้อมสักหน่อยสำหรับชาวบ้านแต่สำหรับผู้มีกำลังทรัพย์และเวลาเป็นเงินเป็นทอง แท็กซี่บินได้น่าจะเป็นตัวเลือกที่สะดวกและน่าสนใจ เช่น Lilium บอกว่า แท็กซี่บินได้ของบริษัทบินระยะทาง 300 กม. หรือจากแมนเชสเตอร์ไปลอนดอนในเวลา 1 ชั่วโมง โดยชาร์จแบตแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม การให้บริการแท็กซี่บินได้ยังมีอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งเรื่องกฎระเบียบที่เข้มงวดในการขอใบอนุญาต ความกังวลเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย การเตรียมความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง และงบฯลงทุนที่ค่อนข้างสูง แถมยังต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่หลากหลาย ทั้งผู้เล่นรายใหญ่สตาร์ตอัพหน้าใหม่ และผู้ให้บริการอย่างเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว
ผู้เชี่ยวชาญจาก McKinsey อย่าง โรบิน ไรเดิล คาดว่าอาจใช้เวลาสัก 10 ปี กว่าจะกลายเป็นหนึ่งในบริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ขณะที่เบเนดิกท์ คลอส มองว่าผู้โดยสารน่าจะอยากลองใช้แท็กซี่บินได้ เพราะจากการสำรวจของบริษัทพบว่า 15-20% ของผู้ตอบแบบสอบถามบอกว่าจะลองใช้แน่นอน
เขาเชื่อว่าตลาดนี้มีโอกาสเติบโตสูง คำนวณจากเม็ดเงินที่ผู้บริโภคทั่วโลกจ่ายเป็นค่าแท็กซี่ถึงปีละ 4 แสนล้านเหรียญ หากแท็กซี่บินได้ชิงส่วนแบ่งนี้มาได้สักหน่อย ก็น่าจะมีรายได้ระดับหลายพันล้านเหรียญต่อปีเลยทีเดียว
ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองยังหวังว่า “บริการแท็กซี่บินได้” จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเดินทาง โดยให้ความเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า หากอยากทำให้ตลาดแท็กซี่บินได้เติบโตเต็มศักยภาพจริง ๆ ผู้ให้บริการต้องหาทางทำให้บริการนี้เป็นตัวเลือกที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ ไม่ใช่บริการพิเศษหรือ “ของเล่นของคนรวย” เท่านั้น