วรหช-วาระแห่งชีวิต โควิด-19

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย เมตตา ทับทิม


ไม่มีใครผิดใครถูก ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็คือผู้ติดเชื้อโควิด-19

รัฐบาลไทยกำลังเซตวาระแห่งชาติว่าด้วยโควิด-19

แต่แท้ที่จริงแล้วปัญหาโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่ต้องบอกว่าเป็นวาระแห่งชีวิตของคนทุกคน

เรารู้ว่าโรคระบาดไม่ได้เลือกหน้าตาหล่อสวย คนรวยคนจนไม่ได้เลือกอาชีพหน้าที่การงาน ขอแค่ไม่ระวังตัวเพราะคิดว่าดิฉัน-กระผมไม่น่าจะติดหรอก

ทบทวนย้อนเวลาน่าจะมี 2 เหตุการณ์ที่สะกิดหัวใจคนไทยให้ตื่นตัวขึ้นมาได้

1 มาจากเจ้าของร้านอาหารในตึกออล ซีซั่นส์ เพลส ถนนวิทยุ เจ้าของเป็นชาวต่างชาติซึ่งไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ แต่ติดเชื้อไวรัสจากเพื่อนชาวต่างชาติด้วยกัน

ประเด็นคือ มีการปาร์ตี้ 15 คน เวียนแก้วดื่ม-เวียนบุหรี่สูบ ทำให้ผลลัพธ์ป่วยโควิด 11 ท่าน

อีก 1 มาจากการจัดอีเวนต์มวยการกุศลของกองทัพไทย

ผลลัพธ์ตอนนี้ทำให้ข้าราชการผู้ใหญ่ของประเทศเป็นกลุ่มเสี่ยง นายตำรวจติดตามรัฐมนตรีคลังป่วยโควิด-19 เซียนมวย-สื่อมวลชนสายกีฬา-แฟนมวยต่างจังหวัด โดนกันถ้วนหน้า

จุดโฟกัสวันนี้ ในด้านสถานที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดมิเนียม ซึ่งในประกาศกระทรวงสาธารณสุขใช้คำว่า”สถานที่แออัด”

สิ่งที่เกิดขึ้น โควิด-19 ทำให้สถานที่คุ้นเคยในการใช้ชีวิตประจำวันกลายเป็นสถานที่ “อโคจร” เช่น สนามมวย สถานที่สังสรรค์จัดปาร์ตี้

เพียงแต่นึกไม่ถึงว่า “ออฟฟิศนิติบุคคลอาคารชุด” จะกลายเป็นที่อโคจรไปกับเขาด้วย

ขอขอบคุณกลุ่มบริษัท LPN ที่เผชิญกับความเป็นจริง และทั้งสู้ทั้งรับมืออย่างเต็มกำลัง โดยเพิ่งส่งข่าวแจกเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนว่ามีพนักงานนิติบุคคลคอนโดในย่านพระราม 9 เป็นเหยื่อโควิด

ณ วันที่ 20 มีนาคม 2563 ยังอยู่ในขั้นสอบสวนหาสาเหตุที่มา จึงสันนิษฐานได้หลายสาเหตุ แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นอาจมีโอกาสติดเชื้อจากผู้เช่าชาวต่างชาติ ซึ่งเป็น “ผู้เช่าใหม่” ในคอนโดฯ (นาทีนี้คงไม่ใช่เวลามานั่งถามว่าเช่ารายเดือนหรือเช่ารายวัน)

โดยผลตรวจยืนยันเป็นผู้ป่วยโควิดเกิดขึ้นสัปดาห์ที่ 14-15 มีนาคม ก่อนที่รัฐบาลจะประกาศปิดสถานประกอบธุรกิจบางประเภทระหว่าง 18-31 มีนาคม

และน่าจะเป็นก่อนหน้าที่บริษัท LPP-Lumpini Property Management เพิ่งออกหนังสือเวียนไปยัง 180 โครงการที่บริหารนิติบุคคลให้ โดยระบุแนวทางปฏิบัติเพื่อคัดกรอง “เจ้าของร่วม” แยกออกจาก “ผู้เช่า-ชาวต่างชาติ” อย่างชัดเจน

โดยผู้เช่าใหม่จะต้องมีใบรับรองแพทย์มาแสดงตัวก่อนเข้าพักอาศัยในตึก รวมทั้งต้องมีการวัดอุณหภูมิด้วย ถ้าสูง 37.5 องศาเซลเซียส กฎเหล็กคือจะปฏิเสธไม่ให้เข้าอาคาร และหน้าที่ตามกฎหมาย คือ แจ้งกรมควบคุมโรคเพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่อไป

อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่ากติกาที่ออกใหม่เรื่องใบรับรองแพทย์คงจะเหลื่อมเวลากัน ทำให้กลายเป็นข่าวเศร้าที่วงการนิติบุคคลคอนโดฯมีพนักงาน 1 คนกลายเป็นผู้ป่วยโควิดในวันนี้

ล่าสุดรัฐบาลไทยมีคำสั่งให้ผู้ต้องการเดินทางเข้าประเทศจะต้องมีใบรับรองแพทย์เป็นเอกสารประกอบการขออนุญาตเข้าราชอาณาจักร ทราบมาว่ามีความระส่ำระสายเกิดขึ้นในทางปฏิบัติ เรื่องนี้คงไม่ได้รบกวนแค่กระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพ

แต่ทุกเรื่องนับจากนี้คนทุกชีวิตถูกบังคับให้รับบทเจ้าภาพไปโดยปริยาย

เรากำลังทำสงครามกับโควิด-19 ค่ะ เรากำลังเสี่ยง ถ้าสถานที่ทุกแห่งในประเทศถูกทำให้เป็นที่อโคจร

เพราะไม่มีใครถูกใครผิด ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ก็คือผู้ติดเชื้อโควิด-19

#ประเทศไทยต้องชนะ