เลานจ์ชนะ

สามัญสำนึก 
สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

เดิมตั้งใจจะเขียนต้นฉบับปิดล่วงหน้า เกี่ยวกับเรื่อง “เทรนด์สุขภาพ” และการลงทุนใหม่ของโรงพยาบาล รวมถึง “ศูนย์ดูแลสุขภาพ” ทั้งคนป่วยปกติ และผู้ป่วยติดเตียง

ที่นับวันจะเติบโตมากขึ้น ทั้งต่อยอด แตกไลน์ แตกธุรกิจ เรียกว่า “ถนนทุกสายกำลังไปทางนี้”

แต่มาเกิด “ข่าวร้าย” ทำลายความหวังของคนไทยทั้งประเทศ ช่วงเข้าสู่เทศกาล “ปีใหม่ไทย” พอดี

เพราะแค่ “วี.ไอ.พี.” ไม่กี่คนที่ “ไร้จิตสำนึก”

หนำซ้ำยังเป็นคนใหญ่สายเอ็น ทั้ง “รัฐมนตรี-นักการเมือง และข้าราชการชั้นสูง”

ที่แห่กันไปเที่ยวผับออฟเด็กย่าน “ทองหล่อ” สุขุมวิท 55 อย่างโจ๋งครึ่ม กึ่ง ๆ เลี้ยงรับรอง จนติดโควิด-19

บานปลายกลายเป็น “คลัสเตอร์” ปมใหม่ที่มาดับฝันงานฉลองสงกรานต์อย่างน่าเศร้าใจที่สุด

ซ้ำรอยวิกฤต “สนามมวย” และ “มหาชัย”

กระทั่งกระทรวงสาธารณสุขออกมาตรการควบคุมการระบาดในเขตกรุงเทพฯ เป็น “โซนอันตราย” และ 4 จังหวัด คือ ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรปราการ ที่ถูกยกระดับเป็นพื้นที่สีแดง

ร้านอาหารต้องปิดภายใน 3 ทุ่ม แต่ไม่ห้ามเดินทาง

ขณะที่ “บุรีรัมย์” จังหวัดบ้านเกิดของรัฐมนตรีโสดผู้ติดเชื้อ ประกาศเข้มให้ผู้ที่มาจากพื้นที่สีแดงต้องกักตัว 14 วัน

เท่ากับทุบมู้ดการใช้ชีวิต ท่องเที่ยว และการค้าขาย อย่างน่าเสียดาย ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างเริ่มจะดีขึ้น

โดยเฉพาะเรื่องของความเชื่อมั่น และการเปิดประเทศ

แม้แต่ “นายกรัฐมนตรี” ก็เสียใจ ไปไม่เป็น ที่คนของรัฐบาลทำเสียรังวัด ตกม้าตาย กลายเป็นตัวฉุด GDP ให้ต่ำลง ทั้ง ๆ ที่ทีมเศรษฐกิจอยากเสกให้ปีนี้โต 4%

สรุป “เลานจ์ชนะ” ไม่ใช่ “เราชนะ”

ศบค.ชุดเล็ก ยังเหนียม ไม่กล้าใช้ยาแรง ตามที่สาธารณสุขเสนอ จึงมีมติคงระดับพื้นที่การระบาดของโควิด-19 ตามเดิม “ยังไม่มีพื้นที่สีแดง”

แต่ยังให้อำนาจ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ว่าฯ กทม. กำหนดมาตรการที่เหมาะสมเฝ้าระวังได้

ล่าสุด สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. จะเร่งทำการบ้านร่วมกับ สธ. เพื่อหาแนวทางการให้ยาแรงเฉพาะจุดที่มีปัญหา เป็นการโฟกัสพื้นที่เชิงลึก

ว่าแต่ สถิติ “ตัวเลข” ผู้ติดเชื้อรายวันกลับพุ่งขึ้น และมี “ไทม์ไลน์” เชื่อมโยงถึง “คน-สิ่งแวดล้อม” จากแหล่งเพาะเชื้อสถานบันเทิงที่เป็นข่าว

ทำเอาประชาชนกระอักกระอ่วนไปตาม ๆ กัน

กรรมใดใครก่อ กำลังโดนประจานผ่านสื่อออฟไลน์-ออนไลน์ สนุกปากชาวบ้าน

ยิ่งเสี่ยเจ้าพ่ออ่างตัวจริง “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” live สด ผ่าน FB ยิ่งเรียกเสียงฮือฮา

พร้อมเปลี่ยนชื่อ “คริสตัลคลับ” เป็น “ไทยคู่ฟ้าคลับ” ตีแสกหน้าคนทำเนียบจัง ๆ

ที่น่าตกใจ รมช.สาธารณสุข “สาธิต ปิตุเตชะ” ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับรายงานผลตรวจจากโรงพยาบาลจุฬาฯ พบว่า 24 คนจาก “คลัสเตอร์ทองหล่อ” มีสัดส่วน 70% ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ใหม่จากอังกฤษ

ผลคือการระบาดจะเร็วขึ้นกว่าสายพันธุ์ปกติ 1.7 เท่า และปริมาณไวรัสในผู้ป่วย แม้ไม่มีอาการ แต่จะมีจำนวนไวรัสที่สูงมาก สังเกตจากค่า Ct ของสายพันธุ์สถานบันเทิง

เป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์แบบ new normal

เหมือนการทิ้งระเบิดของคนชื่อ ไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่โพสต์ขึ้นเฟซในกลุ่มสมาชิกสปอร์ตคลับ คร่าว ๆ ว่า

คลัสเตอร์ทองหล่อ มี 3 บิ๊กนักการเมือง 2 บิ๊กจาก 2 ธนาคารยักษ์ และนักการทูตแถบเอเชีย เป็นโต้โผที่ดั้นด้นไปคุยงานราชการจากทำเนียบถึงผับลับเฉพาะ

ซึ่งเกี่ยวกับ “โครงการยักษ์” เป็นสำคัญ

ส่วนจะเป็นโปรเจ็กต์อะไร ต้องให้ สมช.สืบเชิงลึกอีกที

เพราะความลับไม่มีในโลก

แม้แต่ “บิล” ค่าดริงก์ รายชื่อเด็กนั่งดริงก์ ยังถูกแชร์ในไลน์กลุ่มละเอียดยิบ

อยากหัวเราะ แต่หัวเราะไม่ออก

สงสารประเทศไทย