กรุงศรี ESG Awards ขับเคลื่อนธุรกิจไทยยั่งยืนทุกมิติ

กรุงศรี (บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา) ประกาศเปิดตัวโครงการ Krungsri ESG Awards 2023 เป็นปีแรกเพื่อส่งเสริมและยกย่องลูกค้าธุรกิจของกรุงศรี ที่ดำเนินธุรกิจโดยนำแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อม (environment) สังคม (social) และธรรมาภิบาล (governance) หรือ ESG มาปรับใช้อย่างเป็นรูปธรรม

“ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์” ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจ SME ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรีอยู่ในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก มุ้งมั่นเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งกับการเป็นสถาบันทางการเงินเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนเป็นพันธมิตรธุรกิจเพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง

การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นวาระสำคัญที่กรุงศรีเดินหน้าผลักดัน ทั้งการให้การสนับสนุนแก่โครงการเพื่อสังคมและความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการพัฒนาตลาดการเงินด้านความยั่งยืนในประเทศไทยให้เติบโต และส่งเสริมให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจทุกระดับของกรุงศรีเปิดรับ ESG และนำแนวทางไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง

ในปีนี้กรุงศรีจึงได้จัดทำโครงการ Krungsri ESG Awards ขึ้นเพื่อยกย่องและเชิดชูลูกค้าธุรกิจที่สามารถนำแนวคิด ESG ไปปรับใช้อย่างสร้างสรรค์และต่อยอดกิจการได้อย่างเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง และยังเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการรายอื่นเล็งเห็นประโยชน์และความสำคัญของโมเดลธุรกิจแบบ ESG ที่ถือเป็นสิ่งจำเป็นของการดำเนินกิจการในทุกระดับต่อไปในอนาคต

“โอกาสนี้เรายังได้รับความร่วมมือจากองค์กรพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์และพันธกิจด้าน ESG ทั้งสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย สมาคมธุรกิจเพื่อสังคม กรมธุรกิจการค้า องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาร่วมกันแนะนำแนวทางในการปรับตัวให้กับธุรกิจ รวมทั้งร่วมเป็นคณะกรรมการคัดสรรกิจการที่มีความโดดเด่นเพื่อมอบรางวัลเชิดชูเกียรติให้เป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนในการขับเคลื่อนด้าน ESG ของธุรกิจของไทยต่อไป”

รางวัล Krungsri ESG Awards 2023 เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ตระหนักถึงความสำคัญและนำแนวคิด ESG ไปปรับใช้และต่อยอดเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจในทุกมิติ ด้วยความชำนาญในด้าน ESG Finance ผ่านความร่วมมือกับ MUFG กรุงศรีพร้อมที่จะเดินทางไปกับผู้ประกอบการทุกระดับ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลางที่เป็นเป้าหมายหลักของปีนี้ เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนไปด้วยกัน ทั้งนี้ รางวัลจะแบ่งออกเป็น 2 อันดับ ได้แก่

• Excellence : เป็นรางวัลที่มอบให้กิจการที่มีความเป็นเลิศ ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

• Highly commended : เป็นรางวัลเพื่อเชิดชูกิจการ ที่ริเริ่มและดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่ดีทั้ง 3 ด้าน

โดยกิจการที่เข้าร่วมโครงการในปีแรกมีทั้งกลุ่มลูกค้าธุรกิจ SME กลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่น และสมาชิกของสมาคมธุรกิจเพื่อสังคม (SE Thailand) สำหรับการพิจารณารางวัล ได้รับเกียรติจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Sasin School of Management) เป็นผู้กำหนดเกณฑ์การพิจารณา รวบรวมข้อมูล และการประมวลผลในครั้งนี้

ดวงกมล ลิมป์พวงทิพย์

“ดวงกมล” กล่าวด้วยว่า การเดินหน้าผลักดันและส่งเสริมธุรกิจเพื่อความยั่งยืนนี้ ถือเป็นหนึ่งในแผนธุรกิจระยะกลางฉบับปัจจุบันของกรุงศรี (Medium-Term Business Plan 2021-2023) ที่ทำมาอย่างต่อเนื่องย่างเข้าสู่ปีที่สาม เพื่อสานต่อปณิธานในการบูรณาการและต่อยอดความเป็นเลิศด้าน ESG ของกรุงศรี ด้วยการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการสามารถขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความก้าวหน้าและมีความยั่งยืน ทั้งด้านผลประกอบการ ผลลัพธ์เชิงเศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้างสรรค์ระบบนิเวศ นวัตกรรมทางการเงินที่เหมาะสมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุกระดับ ทั้งกลุ่มองค์กรธุรกิจ หรือผู้ประกอบการ SME

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของโครงการ Krungsri ESG Awards นอกจากการเชิดชูเกียรติผ่านการมอบรางวัลและประชาสัมพันธ์แล้ว ธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับคำแนะนำโดยตรงแบบเจาะลึก จากผู้เชี่ยวชาญด้าน ESG และคณะกรรมการผู้ทรงเกียรติจากองค์กรระดับประเทศ เพื่อเป็นแนวทางพัฒนาธุรกิจทั้ง 3 มิติอย่างยั่งยืนต่อไป

“นิกม์ พิศลยบุตร” รองผู้อำนวยการ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการปรับแผนการดำเนินธุรกิจเข้าหาแนวทางความยั่งยืนคือ การที่ผู้ประกอบการมีจิตสำนึกเพื่อความยั่งยืน หรือ sustainability mindset

มีการตั้งคำถามว่า การกระทำขององค์กรของตนเองส่งผลกระทบทางด้านลบต่อใครบ้าง และจะสามารถแก้ไขผลกระทบนั้นได้อย่างไร เช่น การผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ พนักงานได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง และบริษัทมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนรอบด้านหรือไม่ รวมไปถึงพิจารณาการดำเนินกิจการของบริษัท ว่ามีนโยบายกำกับดูแลกิจการที่ดี ต่อต้านการทุจริต ดำเนินงานอย่างโปร่งใส และคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียหรือไม่

“การดำเนินธุรกิจตามหลัก ESG ไม่เพียงแต่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายผ่านการลดต้นทุนในการดำเนินงานเท่านั้น แต่ยังช่วยดึงดูดผู้บริโภคและนักลงทุนที่มีความสนใจในด้านความยั่งยืน สร้างภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร และรักษาพนักงานที่มีคุณค่ากับบริษัทไว้ในระยะยาว”

ผู้ประกอบการจะต้องระลึกไว้เสมอว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนไม่ใช่กิจกรรมที่จะทำเพียงแค่หนึ่งครั้ง แต่คือการหมั่นกระทำกิจกรรมที่จะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน การวางแผนธุรกิจด้าน ESG จึงควรให้ความสำคัญกับองค์ประกอบทั้ง 3 ด้าน สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ใช่เน้นการพัฒนาแค่ด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น”

กรุงศรีตั้งใจถ่ายทอดความรู้ด้าน ESG ให้แก่ผู้ประกอบการผ่านกิจกรรมครั้งนี้ พร้อมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการได้พัฒนาการดำเนินธุรกิจในแต่ละด้านให้ดียิ่งขึ้น