CMMU คว้ารางวัล UN สถานศึกษายั่งยืน-หลักสูตรรับโลกเปลี่ยน

รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม-รศ.ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา
รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม-รศ.ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา

นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล คว้ารางวัล PRME Global Champions 2023 กลุ่มผู้นำด้านการศึกษาในสาขาการจัดการและบริหารธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Responsible Management) ของโลก ภายใต้การนำขององค์การสหประชาชาติ ทั้งนั้นเพื่อเป็นการตอกย้ำอัตลักษณ์ความเป็นมืออาชีพ และรับผิดชอบต่อสังคม (Professional and Socially Responsible) จากงานวิจัยและโครงการด้านความยั่งยืนที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการชูแนวทางการต่อยอด 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความเท่าเทียมภายในองค์กร, การศึกษาอย่างมีคุณภาพ, การเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ, การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการสร้างความร่วมมือกับประชากรโลก เพื่อสร้างผู้ผลิตที่มีความรับผิดชอบ พร้อมตอบสนองการทำธุรกิจเพื่อสนับสนุนความยั่งยืน โดยมุ่งหน้าจับมือพันธมิตรแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อสร้างนักบริหารธุรกิจ-นักวางกลยุทธ์แบบยั่งยืน

“รศ.ดร.วิชิตา รักธรรม” คณบดีวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า CMMU เป็นสถานศึกษาที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นในด้านการบ่มเพาะบัณฑิตให้เป็นผู้ที่มีความเป็นมืออาชีพ และมีความรับผิดชอบต่อตนเอง ธุรกิจ สังคม และโลก

ดังนั้นการดำเนินงานที่ผ่านมาจึงมุ่งส่งเสริมในเรื่องของความยั่งยืน และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสังคม เพื่อส่งเสริมเป้าหมายของ SDGs (Sustainable Development Goals) ทั้ง 17 ด้านอย่างต่อเนื่อง

โดยแนวทางการดำเนินงานดังกล่าวยังเป็นแรงสนับสนุนสำคัญที่ทำให้ CMMU สรรหาองค์กรพันธมิตรจากต่างประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันมาร่วมขับเคลื่อนวิทยาลัยให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานร่วมกับองค์กรระดับโลก เพื่อให้เกิดการยอมรับในด้านหลักสูตร คณาจารย์ บัณฑิตที่มีคุณภาพในด้านสาขาการจัดการ อันจะส่งผลดีในด้านเศรษฐกิจ สังคม และทำให้ CMMU ก้าวทันต่อทุกการเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา

Advertisment

“จากที่ CMMU ทำงานร่วมกับองค์การสหประชาชาติ (UN) มาค่อนข้างมาก ทำให้เล็งเห็นว่ารางวัล PRME Global Champions 2023 ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับกลุ่มผู้นำด้านการศึกษาในสาขาการจัดการและบริหารธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Responsible Management) ของโลก ภายใต้การนำขององค์การสหประชาชาติ จะช่วยรับรองคุณภาพการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่ CMMU ยึดถือมาตลอด

จึงมีการรวบรวมผลงานด้านความยั่งยืนที่ทำมาตลอดนำเสนอกับ UN จนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถาบันการศึกษาเพียงหนึ่งเดียวและเป็นแห่งแรกจากประเทศไทยที่ได้รับรางวัลดังกล่าว”

สำหรับรางวัลนี้เป็นการตอกย้ำเป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนดทิศทาง ทั้งยังเป็นการการันตีบทบาทของ CMMU ที่มีต่อการจัดการความยั่งยืนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนที่มากขึ้น การมีหลักสูตรที่เชื่อถือได้ รวมทั้งการสร้างโอกาสให้แก่ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และรูปแบบการทำงานที่ไม่เหมือนเดิม

“PRME Global Champions 2023 เป็นรางวัลที่อยู่ภายใต้องค์การสหประชาชาติ โดยสร้างให้เกิดส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม จนนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในสถานศึกษาด้านการบริหาร และการจัดการ ซึ่งทุกปีจะมีการคัดเลือกสถาบันการศึกษาด้านการบริหารธุรกิจที่มีผลงานหรือโครงการที่น่าสนใจ และพูดถึงเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน

Advertisment

ที่สำคัญ ต้องมีความสนใจที่จะเข้ามาเป็นประชากรโลก ดังนั้นการที่ CMMU ได้รับรางวัลจึงถือเป็นใบเบิกทางที่จะช่วยให้ CMMU มีโอกาสทำงานร่วมกับสถาบันต่าง ๆ ที่ทำงานเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนร่วมกัน อันจะนำไปสู่การเป็นมหา’ลัยต้นแบบในระดับโลก”

“รศ.ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา” ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายความยั่งยืน กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา CMMU ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนใน 5 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความเท่าเทียมภายในองค์กร, การศึกษาอย่างมีคุณภาพ, การเป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ, การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และการสร้างความร่วมมือกับประชากรโลก เพื่อสร้างผู้ผลิตที่มีความรับผิดชอบ

ซึ่ง CMMU ทำโครงการเหล่านี้มาอย่างต่อเนื่องในระดับนโยบาย รวมถึงคณาจารย์ภายใน CMMU ก็มาจากหลากหลายสาขาวิชา จึงมีความเป็นสหวิทยาการสูง ทำให้การทำงานด้านความยั่งยืนที่ต้องอาศัยหลายศาสตร์ร่วมกันเห็นผลเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้นักศึกษาของ CMMU ต่างมีความสนใจเรื่องความยั่งยืน จนทำให้การขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ราบรื่น และจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนจึงถูกหยิบยกมาจัดทำเป็นรายงานเพื่อนำเสนอ จนได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งใน PRME Global Champions โดยหลังจากได้รับคัดเลือก CMMU จะนำสิ่งที่ทำอยู่แล้วมาต่อยอดเพิ่มเติม อาทิ การพัฒนาโครงการที่ทำอยู่แล้วอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน สร้างหลักสูตรที่ทุกคนสามารถออกแบบเองได้ และสามารถเข้าถึงได้อย่างมีความเท่าเทียม

“ทั้งนี้ หลายบริษัทในปัจจุบันมีความต้องการในการทำธุรกิจเพื่อสนับสนุนความยั่งยืนมากขึ้น หลากหลายองค์กรมีการปรับตัว ยกระดับคุณภาพองค์กร ความรู้ ความชำนาญ และปรับโครงสร้าง เพื่อตอบรับความต้องการบุคลากรในสาขาความยั่งยืน โดยในโลกการทำธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา หลายบริษัทเผชิญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมากมายจนส่งผลกระทบต่อธุรกิจ อาทิ ภาวะโลกร้อน ปัญหาด้านความเหลื่อมล้ำในสังคม หรือแม้แต่ปัญหาโรคระบาด”

ดังนั้นหลักสูตรที่มีการเรียนการสอนด้านความยั่งยืนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง CMMU ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้เป็นอย่างดี จึงสอดแทรกเนื้อหาด้านความยั่งยืนเข้าไปในรายวิชาแกน เพื่อให้นักศึกษาทุกคนสามารถประยุกต์ใช้ศาสตร์ด้านความยั่งยืนกับสิ่งที่เรียนอย่างมีคุณภาพ เพื่อสร้างให้เกิดนักบริหารที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมการทำธุรกิจแบบยั่งยืน

“นอกจากนี้ CMMU ยังเดินหน้าพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนกับพันธมิตรภาคธุรกิจ เพื่อให้ทั้งนักศึกษา อาจารย์ และภาคธุรกิจเกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านความยั่งยืนระหว่างกัน และคาดว่าจะนำผลงานของอาจารย์และนักศึกษาที่พัฒนาร่วมกันมานำเสนอในรูปแบบโชว์เคสด้านการจัดการที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน”