Mastercard ประกาศใช้พลาสติกรีไซเคิลผลิตบัตรทั้งหมด ในปี 2571

Mastercard มาสเตอร์การ์ด บัตรเดบิต บัตรเครดิต
Photo by Ron McClenny on Unsplash

Mastercard ประกาศใช้พลาสติกรีไซเคิลผลิตบัตรทั้งหมด แทนพีวีซี ภายในปี 2571 ย้ำบัตรทั้งหมดต้องผ่านการตรวจสอบวัสดุ และเกณฑ์ความยั่งยืน มีเครื่องหมาย Card Eco Certification ลงบนบัตร

วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2571 เป็นต้นไป และถือเป็นครั้งแรกในธุรกิจเครือข่ายการชำระเงิน บัตรที่ผลิตขึ้นใหม่ทั้งหมดของมาสเตอร์การ์ด (Mastercard) จะผลิตจากวัสดุที่มีความยั่งยืนยิ่งขึ้น เช่น พีวีซีรีไซเคิล (rPVC), พีอีทีรีไซเคิล (rPET) หรือพลาสติกชีวภาพชนิด PLA ซึ่งเป็นตัวอย่างของวัสดุทดแทนพลาสติกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตบรรจุภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง และขวดรีไซเคิล

ซานดีพ มาลโฮทรา รองประธานบริหาร ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม มาสเตอร์การ์ด เอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่าวิกฤตพลาสติกเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของโลก ซึ่งทุกคนในสังคมต้องร่วมกันแก้ไข แต่การแก้ไขปัญหาดังกล่าวขาดการร่วมมือซึ่งกันและกัน มาสเตอร์การ์ดจึงมุ่งประสานความร่วมมือระหว่างเครือข่ายธนาคาร สถาบันการเงิน และผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดกว่า 3,000 ล้านใบ ในการส่งเสริมให้เกิดภาคการชำระเงินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผ่านการทำงานร่วมกันและความร่วมมือในรูปแบบต่าง ๆ

ผลิตบัตรจากวัสดุยั่งยืน

โครงการ Sustainable Card Program ของมาสเตอร์การ์ดได้เปิดตัวขึ้นในปี 2561 โดยปัจจุบันมีผู้ออกบัตรกว่า 330 รายจาก 80 ประเทศเข้าร่วมโครงการโดยสมัครใจ ซึ่งรวมถึงผู้ออกบัตร 90 รายใน 15 ตลาดในเอเชียแปซิฟิก อาทิ ออสเตรเลีย กัมพูชา บรูไน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ประเทศไทย และเวียดนาม

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มาสเตอร์การ์ดได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรผู้ผลิตบัตรรายใหญ่ในการผลิตบัตรกว่า 168 ล้านใบในเครือข่าย ซึ่งรวมถึงบัตร 31 ล้านใบในเอเชีย-แปซิฟิก โดยใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่มาจากกระบวนการชีวภาพ การประกาศเป้าหมายใหม่นี้จึงเป็นอีกแรงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์บัตรดิจิทัล ซึ่งสามารถทดแทนการใช้บัตรจริง (Physical Card) ได้

Advertisment

“เป้าหมายใหม่นี้ยังกำหนดให้บัตรมาสเตอร์การ์ดที่ผลิตขึ้นใหม่ทั้งหมดต้องผ่านการตรวจสอบวัสดุที่ใช้ในการผลิตและเกณฑ์ด้านความยั่งยืน ซึ่งจะดำเนินการโดยผู้ตรวจสอบอิสระที่เป็นบุคคลภายนอก โดยบัตรที่ผ่านการรับรองจะมีการพิมพ์เครื่องหมาย Card Eco Certification ลงบนบัตร”

“พันธมิตรผู้ออกบัตรของมาสเตอร์การ์ดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกให้การสนับสนุนโครงการของเราอย่างเต็มที่ โดยมีพันธมิตรมากถึง 90 รายที่เข้าร่วมโครงการ Sustainable Card Program ทั้งในไทย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และตลาดอื่น ๆ ผู้ถือบัตรจึงสามารถมั่นใจได้ว่าบัตรของพวกเขาผลิตจากวัสดุพลาสติกที่มีความยั่งยืน และการทำงานร่วมกับพันธมิตรในเครือข่ายของเรานี้เองที่ช่วยสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างและมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง”

Photo Credit : Mastercard

เป้าหมายความยั่งยืนตลอด 10 ปี

เอ็ลเล็น แจ็คโควสกี ประธานบริหารฝ่ายความยั่งยืน มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า ที่ผ่านมาในปี 2561 ศูนย์ Digital Security Lab ของมาสเตอร์การ์ดได้ริเริ่มโครงการ Greener Payments Partnership กับผู้ผลิตบัตร Gemalto, Giesecke+Devrient และ IDEMIA เพื่อลดการใช้พลาสติกพีวีซีในการผลิตบัตร และต่อมาในปี 2564 ก็ได้เปิดตัวโครงการ Mastercard Card Eco-Certification (CEC) อีกด้วย

“มาสเตอร์การ์ดให้ความสำคัญแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการลดของเสียรูปแบบต่าง ๆ ผ่านการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ และผสานความร่วมมือกับเครือข่ายทั่วโลกของเรา เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู่ระบบเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนที่มีคาร์บอนต่ำ”

Advertisment

การขับเคลื่อนสังคมสู่อนาคตที่ยั่งยืน มาสเตอร์การ์ดได้ดำเนินธุรกิจตามเป้าหมายด้านความยั่งยืนมาตลอดกว่าสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน การปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งาน และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทยังทำงานร่วมกับพันธมิตรในเครือข่ายในการนำเสนอนวัตกรรมและโครงการด้านสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด เช่น โครงการ Sustainable Card Program เป็นต้น

นอกจากนี้ มาสเตอร์การ์ดยังมีโครงการ Priceless Planet Coalition ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูป่าไม้ 100 ล้านต้นทั่วโลกภายในปี 2568 สำหรับเอเชีย-แปซิฟิก มีพันธมิตรกว่า 20 รายในออสเตรเลีย เกาหลี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา ร่วมสนับสนุนโครงการ ซึ่งปัจจุบันกำลังดำเนินการฟื้นฟูป่าไม้รวมทั้งหมด 18 แห่งทั่วโลก

บริษัทยังร่วมงานกับ Doconomy บริษัทฟินเทคในสวีเดน ในการพัฒนาฟีเจอร์ Mastercard Carbon Calculator ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคทราบถึงคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) โดยประมาณที่เกิดขึ้นจากการจับจ่ายใช้สอยของตนได้ผ่านแอปพลิเคชั่น เครื่องมือดังกล่าวทำงานบนเทคโนโลยี API ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบของพันธมิตรได้อย่างสะดวกง่ายดาย

ซึ่งมาสเตอร์การ์ดนำเสนอให้กับพันธมิตรผู้ออกบัตรทุกรายทั่วโลก ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา ฟีเจอร์นี้ยังเป็นโซลูชั่นฟินเทคด้าน ESG ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในงาน Singapore Fintech Festival Global FinTech Award 2022 ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การเงินตราแห่งประเทศสิงคโปร์ (Monetary Authority of Singapore) อีกด้วย

ลดขยะพลาสติกได้ 85 ตัน

ขณะที่ไทลาน ทูราน ผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจและกลยุทธ์ลูกค้ารายย่อย กลุ่มธุรกิจลูกค้าเวลท์และลูกค้าบุคคล ธนาคารเอสเอชบีซี (HSBC) กล่าวว่าการประกาศเป้าหมายของมาสเตอร์การ์ดครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญของธุรกิจการเงิน การหันมาใช้วัสดุที่ยั่งยืน เช่น พีวีซีรีไซเคิลหรือวัสดุทางเลือก หรือพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Bioplastics) เป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาที่จะช่วยพาอุตสาหกรรมนี้ไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

ภายใต้กลยุทธ์ด้าน Net Zero ของเอสเอชบีซี เราได้เริ่มใช้พลาสติกรีไซเคิลในการผลิตบัตรใน 28 ตลาดทั่วโลกแล้ว อีกทั้งยังได้เพิ่มข้อกำหนดด้านธรรมภิบาลของผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมถึงการใช้วัสดุที่มีความยั่งยืนในการผลิตบัตรเดบิต บัตรเครดิต และบัตรชำระเงินธุรกิจทั้งหมด ซึ่งช่วยลดขยะพลาสติกได้มากถึง 85 ตัน

“อย่างไรก็ตาม การสร้างผลลัพธ์ในระดับนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากขาดความร่วมมือจากพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ผมจึงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ทั่วโลกล้วนให้ความสำคัญ”