Office Design
Amazon กำลังก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งที่ 2 มูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา ที่รวบรวมสิ่งจำเป็นของสำนักงานในโลกหลังโควิด-19 ไว้ที่นี่
ที่สำคัญ สำนักงานแห่งนี้ยังบ่งบอกถึงเทรนด์ออฟฟิศแห่งอนาคตที่ทำให้บริษัททั่วโลกต้องคิดใหม่ว่า “สำนักงานไม่ใช่แค่ที่นั่งทำงาน แต่ต้องเป็นที่รวมวัฒนธรรม ซึ่งมีชุมชนเป็นศูนย์กลาง”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
สำนักงานแห่งนี้เริ่มสร้างมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 และ Amazon เพิ่งเปิดเผยภาพร่างของพื้นที่สำนักงานเมื่อไม่นานผ่านมา โดยอาคารของ Amazon เป็นอาคารยั่งยืนที่ออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานของ LEED Platinum (การรับรองระดับสูงสุดสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของสภาอาคารสีเขียวแห่งสหรัฐอเมริกา) ด้านนอกอาคารมีลักษณะเป็นกระจกเกลียว มีทางเดินสีเขียวด้วยต้นไม้ขนานเป็นเกลียวรอบอาคาร 22 ชั้น
โดยเน้นใช้แสงธรรมชาติ ระบบแอร์ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% จากโซลาร์ฟาร์ม ทั้งยังส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี และการออกกำลังกายของพนักงาน และคนในชุมชน
นอกจากนั้น Amazon ยังสร้างพื้นที่สาธารณะเปิดโล่งขนาด 2.5 เอเคอร์ ซึ่งรวมถึงสวนเด็กเล่น ร้านค้า ศูนย์บริการรับเลี้ยงเด็ก ลานสำหรับสัตว์เลี้ยงร้านอาหาร และลานจอดจักรยานกว่า 600 คัน
โดยบริษัทเชื่อว่า โลกหลังการอุบัติของโควิด-19 จะทำให้หลายองค์กรปรับรูปแบบกำลังคนเป็นแบบผสมผสาน การทำงานแบบนั่งโต๊ะจะเกิดขึ้นนอกสำนักงาน พนักงานจำนวนมากขึ้นจะทำงานที่บ้าน แต่มาสำนักงานเพื่อประชุมปรึกษาหารือ และต้องการเชื่อมต่อการเรียนรู้จากเพื่อนร่วมงานเท่านั้น
สำนักงานจึงต้องถูกออกแบบเพื่อส่งเสริมปฏิสัมพันธ์ของคนกับธรรมชาติ และดึงดูดชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของบริษัทกับชุมชน
ส่วนแผนผังสำนักงานที่เงียบราวกับห้องสมุดจะไม่มีที่ Amazon เพราะบริษัทต้องการส่งเสริมความร่วมมือ จึงสร้างพื้นที่ทำงานแบบใช้ร่วมกันมากกว่าการเอาโต๊ะทำงานของแต่ละคนมาเรียงต่อกัน ที่สำคัญ โต๊ะทำงานควรมีความสะดวกสบายใกล้ห้องครัว หรือมุมเครื่องดื่ม เพื่อพนักงานจะได้นั่งคุยกันเมื่อเจอเพื่อนร่วมงาน หรือสร้างพื้นที่เปิดโล่ง โดยไม่มีผนังกั้น
Amazon คาดว่าสำนักงานใหญ่แห่งนี้เป็นการลงทุนระยะยาว และจะช่วยสร้างงานได้กว่า 25,000 ตำแหน่งในทศวรรษหน้า
นับว่าเป็นสำนักงานที่เหมาะสมกับรูปแบบการทำงานแบบ hybrid เปลี่ยนแปลคำนิยามของสถานที่ทำงานให้กลายเป็นที่ที่สร้างประสบการณ์ที่ดี และมีจุดมุ่งหมายมากขึ้น สำหรับพนักงาน และคนในชุมชนโดยรอบ