TCP ปลุกพลังพันธมิตร ขับเคลื่อนโลก

TCP SD Forum
TCP ปลุกพลังพันธมิตร ขับเคลื่อนโลก

TCP ยักษ์เครื่องดื่มแบรนด์ “กระทิงแดง” ปลุกพลังพันธมิตรธุรกิจ เดินหน้าขับเคลื่อนโลกอย่างจริงจัง ตั้งเป้างานใหญ่เพื่อสังคมต้องสำเร็จภายในปี 2050

วันที่ 7 กันยายน 2565 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่โรงแรมสินธร เคมปินสกี กรุงเทพฯ กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องดื่มรายใหญ่ของไทย ภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบลู) ซึ่งมี 6 ผลิตภัณฑ์ รวม 9 แบรนด์ ได้จัดเสวนาใหญ่หัวข้อ “ปลุกพลังความร่วมมือสู่เป้าหมายความยั่งยืน” เพื่อร่วมขับเคลื่อนสังคมด้านความยั่งยืน

โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวถึง “การปรับมุมมองอนาคตประเทศไทยใหม่ ด้วยเศรษฐกิจสีเขียว” ว่า รัฐบาลมุ่งนโยบายพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG Model) เพื่อสร้าง new S-Curve ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในระยะยาว

วราวุธ ศิลปอาชา

“ทั้งให้ความสำคัญกับสังคมคาร์บอนต่ำ รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างเข้มข้น ซึ่งไม่อาจบรรลุได้ด้วยภาครัฐเพียงฝ่ายเดียว แต่ภาคีทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน สังคม และประชาชน ต้องร่วมคิดร่วมทำอย่างจริงจังเพื่อให้เกิดจุดเปลี่ยนของสังคมไทย โดยทุกคนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อชีวิตวิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ให้สอดคล้องกับบริบทโลก โดยตั้งเป้าเรื่องคาร์บอนภายในปี ค.ศ.2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ.2065”

ในงานยังมีวิทยากร ประกอบด้วย ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันอนาคตไทยศึกษา ที่กล่าวถึงการศึกษาคือกุญแจสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยและสร้างคุณค่ารูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน

ดร.รอยล จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหารสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กล่าวถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีในการจัดการน้ำอย่างยั่งยืนว่าการแก้ปัญหาน้ำให้เป็นระบบเป็นเรื่องสำคัญ ภาครัฐกับเอกชนต้องร่วมมือจริงจัง

เช่นเดียวกับนายยาช โลเฮีย ประธานคณะกรรมการด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมและการกำกับดูแล อินโดรามา เวนเจอร์ส ที่กล่าวในหัวข้อ “rPET นวัตกรรมเปลี่ยนโลก สร้างโอกาสใหม่ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน” ว่า การดำเนินธุรกิจคือหัวใจหลักที่ต้องต่อยอดด้วยสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน โดยส่งเสริมการรีไซเคิลและสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ

ซึ่งไฮไลต์งานนี้ นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวถึงการก้าวข้ามความท้าทาย สู่การเปลี่ยนผ่านธุรกิจที่ยั่งยืน ว่า เป็นการปลุกพลังความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ในประเด็นสำคัญเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และการจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เป็นแนวคิดสอดคล้องกับเป้าหมายของกลุ่ม TCP ที่ต้องการ “ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า” สำหรับสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม

ขั้นแรกได้คุยกับพันธมิตรและซัพพลายเออร์ถึงข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจว่า เราจะเดินไปพร้อมกัน ในทิศทางเดียวกัน ซึ่ง TCP เน้น sustainability โดยใช้เป็นตัววัด KPI ของคนในองค์กรด้วย พร้อมมองถึงเรื่องความคุ้มทุน ซึ่งเป็นเรื่องระยะยาว บางเรื่องก็วัดไม่ได้ เช่น เรื่องการศึกษา แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ

ขณะที่ นายขจรศักดิ์ เปลี่ยนสกุล ผู้อำนวยการสายงานซัพพลายเชนของ TCP กล่าวว่า ทุกโครงการของเราเป็นการลงมือทำ ไม่ใช่ใช้เงินทำงาน โดยเฉพาะเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่ต้องปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยและเป็นมิตรต่อโลก ปัจจุบันเราใช้อะลูมิเนียม 60% ขวดแก้ว 36% พลาสติก 4% ในกลุ่มพลาสติกใช้แบบ PET Level เกือบหมดแล้ว ถือเป็นความยั่งยืน รวมถึงการนำ eco system นี้ไปใช้กับโรงงานทั้งในและต่างประเทศ เช่น จีน เวียดนาม

นายสาโรช ชยาวิวัฒน์กุล THAI BEVERAGE CAN กล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง solar หรือการลดความหนาบรรจุภัณฑ์ ในการลงทุนล้วนมีความคุ้มทุนในตัว แต่ต้องใช้เวลามากหน่อย เพื่อช่วยประเทศและสังคม เรามองมองไปในทางเดียวกับ TCP ซึ่งซีเอสอาร์วันนี้ไม่ใช่แค่การปลูกป่าแล้ว แต่ทุกองค์กรต้องชัดเจนในเรื่อง carbon neutrality 2050 แม้ไม่ใช่เป้าหมายที่ง่าย แต่พวกเราต้องทำเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนโลกทั้งใบ