ชวนไหว้พระขอพรเสริมโชคลาภและความเป็นสิริมงคลต้อนรับเทศกาลตรุษจีน กับ 5 วัดจีนที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร
วันที่ 19 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนึ่งในกิจกรรมที่ชาวไทยเชื้อสายจีนมักทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน หนีไม่พ้นการไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมโชคลาภ บารมี และความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเดินทางไปทำบุญที่วัดจีน ซึ่งมีเทพเจ้าของจีนประดิษฐานอยู่ และมีการขั้นตอนการปฏิบัติตามแบบจีน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- ตรวจหวย ใบตรวจหวย ผลรางวัล สลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน 2567
“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมวัดจีนที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครให้ได้ไปขอพรต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ดังนี้
1.วัดมังกรกมลาวาส
เมื่อเอ่ยถึงวัดจีนในกรุงเทพมหานคร คงไม่มีใครไม่นึกถึงวัดมังกรกมลาวาส หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ เนื่องจากเป็นวัดจีนที่ตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนที่สำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนอย่างเยาวราช อีกทั้งยังมีเชื่อเสียงในเรื่องของการทำบุญแก้ปีชงอีกด้วย
โดยวัดเล่งเน่ยยี่ ก่อตั้งเมื่อปี 2414 มีลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบทางจีนตอนใต้ของสกุลช่างแต้จิ๋ว โดยวางแปลนตามแบบวัดหลวง คือ มีวิหารท้าวจตุโลกบาลเป็นวิหารแรก ตรงกลางเป็นพระอุโบสถ ข้างหลังพระอุโบสถเป็นวิหารเทพเจ้า การสร้างใช้ไม้และอิฐเป็นวัสดุสำคัญ
จากประตูทางเข้า เข้าไปจะถึงวิหารท้าวโลกบาลทั้ง 4 มีเทวรูปเทพเจ้า 4 องค์ (ข้างละ 2 องค์) ในชุดนักรบจีนและถืออาวุธและสิ่งของต่าง ๆ กัน เช่น พิณ ดาบ ร่ม และ เจดีย์ ซึ่งชาวจีนเรียกว่า ซี้ไต๋เทียงอ้วง หมายถึงเทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษา คุ้มครองทิศต่าง ๆ ทั้ง 4 ทิศ ถัดจากวิหารท้าวจตุโลกบาล คือ อุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานของวัด คือ พระโคตมพุทธเจ้า, พระอมิตาภพุทธะ และ พระไภษัชยคุรุพุทธะ ทั้งหมด 3 องค์ หรือ ซำป้อหุกโจ้ว พร้อมพระอรหันต์อีก 18 องค์ หรือที่เรียกว่า จับโป๊ยหล่อหั่ง
ทางด้านขวามีเทพเจ้าต่าง ๆ หลายองค์ เช่น เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา หรือ ไท้ส่วยเอี๊ยะ เทพเจ้าแห่งยาหรือหมอเทวดา, หั่วท้อเซียงซือกง, ไฉ่ซิ้งเอี๊ยะ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ, เทพเจ้าเฮ่งเจีย หรือ ไต่เสี่ยหุกโจ้ว, พระเมตไตรยโพธิสัตว์ หรือ ปู๊กุ่ยหุกโจ้ว ซึ่งคล้ายกับพระมหากัจจายนะ, กวนอิมผู่สัก (หรือพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์) แป๊ะกง และ แป๊ะม่า รวมเทพเจ้าในวัด จะมีทั้งหมด 58 องค์
2.วัดบำเพ็ญจีนพรต
วัดบำเพ็ญจีนพรต หรือ วัดย่งฮกยี่ เป็นวัดจีนเก่าแก่ขนาดเล็กล้อมรอบด้วยอาคารพาณิชย์ ตั้งอยู่ในย่านเยาวราช ซอย 8 หรือ ตรอกเต๊า สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2338 ถือเป็นวัดจีนแห่งแรกของไทย ลักษณะตัวอาคารวัดเป็นตึกเก่ายุคต้นสงครามโลกครั้งที่ 1 แบบตะวันตกที่สร้างล้อมวิหารจีนไว้ โครงสร้างอาคารเป็นไม้แบบจีน ผนังก่ออิฐฉาบปูน หลังคาจั่วมุงด้วยกระเบื้องดินเผากาบกล้วย สันหลังคาก่ออิฐปั้นปูนเป็นจั่วปั้นลมตามแบบช่างจีนแต้จิ๋ว
ภายในอุโบสถประดิษฐานพระประธาน 3 องค์ ได้แก่ พระศากยมุนีพุทธเจ้า, พระอมิตาภะพุทธเจ้า และ พระไภษัชยะคุรุพุทธเจ้า ด้านหน้าพระประธานประดิษฐาน พระจัณฑิอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (จุนที้ผู่สัก) คือปางหนึ่งของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ทรงลักษณะแห่งพุทธมารดา มี 18 กร และมีรูปพระโพธิสัตว์ธรรมบาลยืน 2 องค์ คือ พระสกันทโพธิสัตว์ และพระสังฆารามโพธิสัตว์
นอกจากนี้ยังมี พระพุทธรูปศิลาขาว 1 องค์ ศิลปะพม่าแบบมัณฑเลย์ พระพุทธรูปโลหะ 3 องค์ยืน มีลักษณะเป็นจีวรเป็นลายดอก ศิลปะไทยแบบรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ด้านข้างล้อมด้วย 18 พระอรหันต์ที่เป็นศิลปะ “ท๊กทอ ท๊กชา” ผ้าป่านอาบน้ำยาลงรักปิดทองที่มีแห่งเดียวในประเทศ สองข้างพระประธาน มุมด้านในวิหารประดิษฐานรูปเทพท้องถิ่นของจีนที่ทำหน้าที่เป็นธรรมบาลคุ้มครองรักษาวัด คือ เทพเจ้ากลุ่มดาวเหนือ หรือ เฮี่ยงเทียงเสี่ยงตี่ และรูปพระสังฆารามปาลโพธิสัตว์ หรือเทพกวนอู (แคนำผู่สัก) ซึ่งเทพสององค์นี้เป็นเทพท้องถิ่นจีนที่ชาวบ้านเลื่อมใสเป็นอย่างมาก
วิหารพระเมตไตรยโพธิสัตว์ อยู่ด้านหน้าวิหารพระรัตนตรัย ประดิษฐานพระศรีอารยเมตไตรยโพธิสัตว์ (หมี่เล็กผู่สัก) หันพระพักตร์สู่ประตูทางเข้าวัด และ รูปพระสกันทะโพธิสัตว์ (อุ่ยท้อผู่สัก) ทำด้วยกระดาษ หันพระพักตร์สู่วิหารพระรัตนตรัย มุมสุดท้ายคือเทพเจ้าจี้กงและเทพเจ้าองค์อื่น ๆ
3.วัดโพธิ์แมนคุณาราม
วัดโพธิ์แมนคุณาราม (โพวมึ้งป่ออึงยี่) ตั้งอยู่บนถนนสาธุประดิษฐ์ ซอย 19 (ซอยวัดโพธิ์แมน) แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร เป็นวัดฝ่ายมหายานและเซน สังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย สืบทอดหลักธรรมคำสอนมาจากนิกายเซน สาขาหลินฉี (วิปัสสนา) เป็นศูนย์กลางหลักธรรมคำสอนของนิกายวินัย และนิกายมนตรยานของศาสนาพุทธแบบทิเบต เป็นศูนย์กลางการปกครองคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย รวมถึงเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธนิกายมหายานและวัชรยาน อีกทั้งเป็นแหล่งข้อมูลพุทธศาสนาฝ่ายมหายานของประเทศไทย
สำหรับถาวรวัตถุที่สำคัญ ๆ ของวัด ได้แก่ อุโบสถ 3 ชั้น ยอดเป็นฉัตรเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ภายในประดิษฐานพระพุทธวัชรโพธิคุณ ปิดทองเหลืองอร่าม พร้อมด้วยหมู่พระพุทธรูป 1,000 องค์ ซึ่งประดิษฐานอยู่บนเพดานทั้ง 3 ชั้นของอุโบสถ ด้านหลังอุโบสถเป็นวิหารบูรพาจารย์ ประดิษฐานสรีระร่างท่านเจ้าคณะใหญ่โพธิ์แจ้ง มหาเถระซึ่งนั่งสมาธิดับขันธ์
นอกจากนี้ ยังมีวิหารพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (พระกวนอิมโพธิสัตว์) ปางสหัสกร ปางสหัสเนตร (พันมือ พันตา) ซึ่งเป็นวัตถุโบราณแกะสลักด้วยไม้จันทน์หอมจากเมืองจีน สมัยราชวงศ์ถัง (อายุประมาณ 1,300 ปี)
4.วัดทิพยวารีวิหาร
วัดทิพยวารีวิหาร หรือ กัมโล่วยี่ ตั้งอยู่บนซอยทิพยวารี ถนนตรีเพชร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี โดยชาวญวนอพยพที่ติดตาม องเชียงชุน ราชบุตรเจ้าเมืองเว้ ที่หนีภัยสงครามเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารในปี 2319 ซึ่งตรงกับแผ่นดินสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระองค์จึงพระราชทานที่ดินฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาให้เป็นที่อาศัยเรียกว่าบ้านญวน และมีวัดฝ่ายมหายานขึ้นเป็นครั้งแรก
โดยวัดนี้ประดิษฐานองค์เทพสำคัญ ๆ มากมาย ได้แก่ หมออูโต๋ว องค์ไท้อิม เทพปรองดองหรือเทพแห่งความรัก, เทพขุนพลเอี่ยยิ่ม, เทพฮั้วกวงไต่ตี่ (เทพ 3 ตา), พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และรูปหล่อจำลองของหลวงจีนคณาณัติจีนพรต (เย็นบุญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดทิพยวารี ส่วนด้านซ้ายของวัดจะเป็นศาลเทพมังกรเขียวที่ประดิษฐานเทพไท้เอี๊ยง ซึ่งเสมือนเทพารักษ์ผู้พิทักษ์บ่อน้ำทิพย์ประจำวัด และเทพมังกรเขียว ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวจีนแต้จิ๋วและยังเป็นในหมู่ชาวไทยเชื้อสายจีนมาเป็นเวลาช้านานอีกด้วย
5.ศาลเจ้าพ่อเสือ เสาชิงช้า
ศาลเจ้าพ่อเสือ (เสาชิงช้า) เป็นศาลเจ้าจีนเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะนาว ใกล้เสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยชาวจีนเรียกศาลเจ้าแห่งนี้ว่า ตั่วเหล่าเอี้ย (เทพเจ้าใหญ่) เป็นที่ประดิษฐานรูปเอี่ยนเถี้ยนส่งเต้, รูปเจ้าพ่อเสือ, รูปเจ้าพ่อกวนอู และรูปเจ้าแม่ทับทิม
ศาลเจ้าพ่อเสือ เป็นที่นิยมสักการะของทั้งชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน เนื่องจากมีความเชื่อว่า เมื่อมาขอพรที่นี่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เสริมอำนาจบารมี ร่ำรวย นอกจากนี้ สายมูยังนิยมเดินทางการแก้ปีชง และเสริมสิริมงคลที่นี่อีกด้วย