เคล็ดลับฟื้นฟูสภาพผิว หลังออกแดดเล่นน้ำสงกรานต์

สงกรานต์
ภาพจาก pexels-wendy-wei

เปิดเคล็ดลับฟื้นฟูสภาพผิวแบบเร่งด่วน หลังออกแดดเล่นน้ำสงกรานต์ หมดห่วงปัญหาผิวหมองคล้ำ

วันที่ 13 เมษายน 2566 ต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ หลายคนคงออกจากบ้านไปเล่นน้ำเพื่อสืบสานประเพณีและเพื่อคลายร้อน ซึ่งแน่นอนว่าต้องเผชิญกับแสงแดดที่ส่งผลกระทบต่อผิวหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความแรงของแสงแดด หรือ UV Index ของประเทศไทยช่วงนี้ที่อยู่ในเกณฑ์สูงมาก มีค่าเฉลี่ยประมาณ 11–12 ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผิวไหม้แดด (sun burn) ผิวคล้ำเสียหากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นระยะเวลานาน

แพทย์หญิงกนกวรรณ เศรษฐพงศ์วนิช ได้แนะนำวิธีฟื้นฟูสภาพผิวหน้าแบบเร่งด่วน ว่า แสงแดดมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน แต่หากได้รับแสงแดดปริมาณมากเกินไป หรือนานกว่า 15 นาที รังสียูวีในแสงแดดก็สามารถทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมทั้งผิวหนัง ดวงตา และก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

ผลกระทบจากแสงแดดต่อผิวหนัง

แสงแดดก่อให้เกิดผลกระทบดังนี้

1.ผิวคล้ำ

ในระยะสั้นจะทำให้เกิดอาการผิวคล้ำ (Tanning) ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ระดับคือ การเกิดผิวคล้ำโดยทันที (Immediate Pigment Darkening, IPD) และการเกิดผิวคล้ำขึ้นทีหลัง (Delayed Tanning, DT) ภายหลังที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดด ซึ่งสามารถหายได้เองโดยธรรมชาติ

2.ผิวไหม้แดด

อาการผิวไหม้แดด (Sunburn) เป็นภาวะผิวหนังชั้นนอกเกิดการอักเสบเนื่องจากถูกรังสียูวีเอและยูวีบีทำลาย ทำให้ผิวหนังแดง แสบร้อน ระคายเคือง รวมถึงมีอาการคล้ายไข้หวัด คือ หนาวสั่น คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลียร่วมด้วย

อาการผิวไหม้แดดจะเกิดหลังโดนแดดประมาณ 2-6 ชั่วโมง ในบางรายอาจมีอาการปรากฏให้เห็นหลังโดนแดดเพียง 30 นาที ความรุนแรงของอาการผิวไหม้แดดจะขึ้นอยู่กับปัจจัยร่วมต่าง ๆ อาทิ สภาพผิว ระดับความเข้มของแสงแดด และระยะเวลาที่ผิวหนังสัมผัสกับแสงแดด

ทั้งนี้ ผิวไหม้แดดมีอาการแตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้

  • ผิวไหม้แดดเล็กน้อย ผิวจะมีอาการแดง บางรายมีอาจมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อย เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง ผิวบริเวณที่ไหม้แดดจะลอก เนื่องจากกระบวนการผลัดเซลล์ผิวหนัง
  • ผิวไหม้แดดปานกลาง ผิวจะมีอาการไหม้ แสบ คัน บางรายอาจมีอาการบวมแดง แสบ รวมถึงเกิดอาการผิวคล้ำ
  • ผิวไหม้แดดรุนแรง ผิวจะมีอาการไหม้แดดอย่างรุนแรง ปวดแสบปวดร้อน เกิดเป็นตุ่มน้ำร่วมกับอาการคัน และอาจต่อการเกิดโรคเพลียความร้อน (Heat exhaustion) และโรคลมแดดหรือฮีตสโตรก (Heat stroke) โดยเฉพาะกับกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ

ปกติแล้วผิวหนังของเราจะมีกลไกปกป้องผิวจากแสงแดด โดยจะสร้างเม็ดสีผิวหรือเมลานิน (Melanin) ทำให้ผิวมีสีน้ำตาลแดงจนถึงสีดำขึ้นมา ทำหน้าที่เหมือนแผ่นกรองแสง ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดและรังสียูวี

โดยร่างกายจะผลิตเมลานินได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์ คนที่ผิวผลิตเมลานินได้น้อยหรือคนที่มีผิวขาว เมื่อสัมผัสกับแสงแดดผิวก็อาจจะเกิดอาการผิวไหม้ได้ง่ายกว่าคนที่ผลิตเมลานินได้มากกว่าหรือคนที่มีผิวเข้มกว่า ส่วนระยะเวลาที่ผิวไหม้แดดจะหายกลับมาเป็นปกตินั้นขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ ดังนี้

  • ระดับที่ไม่รุนแรง อาการปวดและแดงจะลดลงภายใน 3-5 วัน อาจมีอาการผิวลอกในช่วงวันสุดท้าย เนื่องจากมีการผลัดเซลล์ผิวเพื่อสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน
  • ระดับรุนแรงปานกลาง ยังคงมีอาการเจ็บปวด ผิวบวมแดง และแสบร้อนเมื่อสัมผัสโดน ต้องใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ในการฟื้นฟูให้ผิวกลับมามีสภาพปกติ และผิวอาจลอกหลังจากหายเป็นปกติแล้วประมาณ 2-3 วัน
  • ระดับรุนแรงมาก ยังคงมีอาการแดงมาก แสบร้อน มีตุ่มน้ำ (second degree sunburn) เกิดขึ้น ต้องใช้เวลารักษามากกว่า 2 สัปดาห์จนกว่าสภาพผิวจะฟื้นฟูเป็นปกติขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

หากอาการผิวไหม้แดดในระดับที่ไม่รุนแรง อาการจะหายได้เองตามธรรมชาติ โดยผิวชั้นบนจะเริ่มลอกออกในช่วง 2-3 วันหลังการไหม้แดดหรืออาจนานกว่านั้น ซึ่งผิวใหม่ที่ขึ้นมานั้นจะยังมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ แต่จะค่อย ๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

วิธีฟื้นฟูผิวหลังออกแดด

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีตุ่มน้ำขนาดใหญ่และอาจต้องเจาะให้น้ำออก ควรใช้เข็มที่ผ่านการฆ่าเชื้อและทำการล้างแผลให้สะอาดก่อนด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผล โดยเลือกเจาะบริเวณขอบของแผลและปล่อยให้น้ำข้างในไหลออกมาให้หมด จากนั้นควรทายาฆ่าเชื้อรูปแบบครีมขี้ผึ้ง (Topical Antibiotic Ointments) เพื่อป้องกันแผลไม่ให้ติดเชื้อ และเลือกเครื่องแต่งกายที่ไม่แน่นจนเกินไปเพื่อลดการเสียดสี นอกจากนี้ยังสามารถใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ อาทิ

  • ใช้ผ้าเย็นหรือผ้าชุบน้ำประคบลงบนผิว ควรหลีกเลี่ยงน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นจัด
  • หลีกเลี่ยงการขัดถูผิว แต่ให้ใช้วิธีการซับอย่างเบา ๆ มือแทน
  • ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ คาลาไมน์ หรือชิโซะ เพื่อบรรเทาอาการแห้งและสูญเสียน้ำ ควรทาทันทีหลังอาบน้ำเสร็จขณะที่ตัวหมาด ๆ
  • มาส์กหน้าเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวให้สว่างใส อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง แนะนำให้เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการคืนความกระจ่างใสสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากผลองุ่น (Grape extract) และสารสกัดจากรากหม่อน (Mulberry root extract) หรือกลุ่มที่เพิ่มความชุ่มชื้นสู่ผิว อาทิ สารสกัดจากพืชทะเลทราย (Ougon extract), สารสกัดจากทีฮาโลส (Trehalose extract) หรือสารสกัดที่ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวอ่อน ๆ อย่าง AHA หรือกรดผลไม้ที่อ่อนโยน รวมถึงสารสกัดที่สามารถลดเลือนริ้วรอยได้
  • ดื่มน้ำเปล่าเพื่อชดเชยและป้องกันการสูญเสียน้ำของร่างกาย
  • หากมีตุ่มน้ำควรปล่อยตุ่มน้ำให้แตกเองตามธรรมชาติ และล้างหรือทำความสะอาดแผลที่แตกแล้วบ่อย ๆ หากใช้วิธีบรรเทาแล้วยังไม่ได้ผลควรไปพบแพทย์ทันที
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดจนกว่าผิวจะหายดี เพราะผิวไหม้แดดจะมีความบอบบางและไวต่อแสง ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง