“สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย” ฉลองครบรอบ 2 ทศวรรษ จัด 4 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ตลอดปี สานต่อเจตนารมณ์ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ตั้งเป้าบรรจุในซีเกมส์ 2568 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมคว้าเหรียญทอง
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทยจัดงานแถลงข่าวก้าวเข้าสู่ปีที่ 20 อย่างเต็มภาคภูมิ เดินหน้าพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาขี่ม้าโปโลไทย พร้อมยกระดับกีฬาขี่ม้าโปโลของไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล ชูแผนการบรรจุกีฬาขี่ม้าโปโลในการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ พร้อมตั้งเป้าคว้าเหรียญทอง และเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลในฤดูกาล 2567
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
โดยได้รับเกียรติจากนายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย “ต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” และ “ต้อล-อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา” ในฐานะนักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติปไทย รวมทั้ง พลอย ปิ่นแสง นักกีฬาขี่ม้าโปโลหญิงทีมชาติไทยคนแรก และ ชนม์นฤทธ์ โตมงคล นักกีฬาขี่ม้าโปโล ดาวรุ่งเข้าร่วม ณ โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ ซอยรางน้ำ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา
นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา
สมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นและส่งเสริมให้กีฬาขี่ม้าโปโลของไทยเข้าสู่มหกรรมกีฬานานาชาติ รวมไปถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการสำคัญในระดับสากล เพื่อให้กีฬาขี่ม้าโปโลไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น อันเป็นการสืบต่อเจตนารมณ์ของ “นายวิชัย ศรีวัฒนประภา” ผู้ก่อตั้งและนายกสมาคมคนแรก
โดยปัจจุบันทางสมาคมได้มีการส่งนักกีฬา อาทิ อัยยวัฒน์ และอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ไปร่วมแข่งขันที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นรายการแข่งขันที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยนักกีฬาที่อยู่ภายใต้สังกัดของสมาคมจะมีตารางการฝึกซ้อมพร้อมโค้ชคอยดูแล รวมถึงการจัดตารางแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ตั้งเป้าบรรจุ-คว้าทอง ซีเกมส์ 2568
นายกนกศักดิ์กล่าวว่า สำหรับเป้าหมายสำคัญที่สมาคมกำลังเร่งดำเนินการอยู่ขณะนี้ คือการพยายามให้กีฬาขี่ม้าโปโลถูกบรรจุในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยสมาคมมีความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นสนามแข่งขัน ม้า บุคลากร และสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาตรฐานสากล
โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเสนอขออนุมัติจากคณะมนตรีซีเกมส์ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในไม่ช้านี้ และเป้าหมายสูงสุดคือการคว้าเหรียญทองให้กับประเทศไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ทัพกีฬาขี่ม้าโปโลไทยเคยคว้าเหรียญเงินและเหรียญทองแดงมาครองแล้วเมื่อปี 2550 และ 2560 ตามลำดับ
ด้าน ต๊อบ อัยยวัฒน์เผยว่า ตอนนี้เล่นกีฬาขี่้ม้าโปโลมาร่วม 20 ปีแล้วตั้งแต่ก่อตั้งสมาคม ได้สั่งสมความเข้าใจและประสบการณ์จากการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งทุกกีฬาในโลกต้องใช้ความเข้าใจ มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นและกติกาอยู่ตลอด
กีฬาขี่ม้าโปโลไม่ง่าย ทำให้มีนักกีฬาในประเทศไทยน้อย นับจาก 20 ปีก่อนที่ก่อตั้งสมาคม ซึ่งวันนั้นแทบไม่มีใครเล่นเลย นักกีฬาที่มาเล่นต้องเข้าใจการขี่ม้าก่อน ส่วนแพสชั่นคนที่มาเล่นจะรู้ว่าไม่สามารถออกไปจากกีฬาชนิดนี้ได้ เป็นการติดอะดรีนาลีนที่เกิดขึ้นในร่างกาย
“กีฬาขี่ม้าโปโลไทยลงแข่งขันในซีเกมส์ครั้งแรกปี 2550 ซึ่งได้เหรียญทองแดง และครั้งที่ 2 ปี 2560 ซึ่งได้เหรียญเงิน ก็หวังว่าปี 2568 จะคว้าเหรียญทองได้ เพราะนักกีฬารุ่นน้องขึ้นมากันเยอะมาก” อัยยวัฒน์กล่าว
ต้อล อภิเชษฐ์ กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า กีฬาขี่ม้าโปโลคือความหลงใหล ตนได้รู้จักกับกีฬาชนิดนี้ตั้งแต่เด็ก ๆ จากคุณพ่อ การที่ได้เจอกับกีฬานี้โดยมีคุณพ่อที่หลงใหลด้วยเป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้อยากเล่นกีฬานี้ จนได้เล่นมาตลอด 20 ปี และได้รับการยอมรับจนสามารถติดทีมชาติได้
ตลอดระยะเวลา 20 ปี ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของกีฬาขี่ม้าโปโลไทยมาโดยตลอด เพียง 3 ปีนับจากการก่อตั้งสมาคม ก็ได้บรรจุในกีฬาซีเกมส์ซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลย และก็ได้เหรียญทองแดงครั้งแรก จึงเป็นแพสชั่นและความท้าทายที่จะคว้าเหรียญทองให้ได้ในปี 2568
ต้องฝากความหวังไว้นักกีฬาเอง ซึ่งไม่ใช่แค่รุ่นบุกเบิก แต่ยังมีน้อง ๆ และทีมหญิงด้วย ซึ่งเราเห็นการพัฒนาและการเปิดกว้างใหม่ ๆ ที่สมาคมได้พัฒนาร่วมกัน
“ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา กีฬาขี่ม้าโปโลมาไกลได้ขนาดไหน อีก 20 ปี ต่อไปก็อยากเห็นจำนวนของผู้ที่สนใจหรือจำนวนนักกีฬามากขึ้น และสร้างความสำเร็จให้ประเทศได้มากยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ” ต้อล อภิเชษฐ์กล่าว
ก้าวต่อไปของสมาคม
นายกนกศักดิ์กล่าวว่า ตนและสมาคมยังคงดำรงความมุ่งหมายเดิมของนายวิชัยเอาไว้ คือการทำกีฬาขี่ม้าโปโลให้เป็นที่ยอมรับของคนในประเทศไทยและนานาชาติ
สมาคมเองได้พัฒนานักกีฬาหรือบุคลากรต่าง ๆ ได้จัดให้มีการแข่งขันอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้เกิดนักกีฬาใหม่ ๆ และสร้างประสบการณ์ให้นักกีฬา อยากให้มีคนติดตามมากขึ้น เนื่องจากจะได้มีนักกีฬาเข้ามาเพื่อเป็นตัวเลือกในการคัดทีมชาติมากขึ้น
เป้าหมายในระยะสั้นคือซีเกมส์ 2568 ก็หวังว่ากีฬาขี่ม้าโปโลจะได้รับบรรจุในการแข่งขัน ด้านความพร้อมซีเกมส์ ทางสมาคมได้มีการประชุมสมาคมระดับอาเซียน ในเรื่องพัฒนาการของการขี่ม้าโปโล ทุกชาติเห็นด้วยว่าอยากให้มีความต่อเนื่อง เช่น ไทยเคยจัดแล้วก็หายไป ซึ่งกำลังพยายามจัดอีกครั้งในปี 2568
ส่วนปี 2570 ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ สมาคมก็พยายามบอกมาเลเซียว่าต้องบรรจุในการแข่งขันกีฬาชนิดนี้ในซีเกมส์ที่ให้ได้ เพื่อทำให้เกิดความต่อเนื่อง
“20 ปีผ่านอะไรมาเยอะจริง ๆ ผมและสมาคมไม่มีทางลืมคุณวิชัยได้ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นนายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลคนแรกของไทย คุณวิชัยสนับสนุนทุกอย่าง ทั้งกำลังกาย กำลังใจ และกำลังทรัพย์ สร้างสนามโปโล ทำคอกม้า มีม้า ทำทุกอย่างให้สมาคม และบุคลากรมีความพร้อม เป็นที่เชิดหน้าชูตาในระดับประเทศได้ ถ้าท่านทราบได้คงดีใจ วันนี้เราได้พัฒนากันตามแนวทางที่วางไว้” นายกนกศักดิ์กล่าว
รายการแข่งขันปี 2567
ต๊อบ อัยยวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ของสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย ปี 2567 จะจัดขึ้นทั้งหมด 4 รายการ ประเดิมรายการแรกด้วย “All Asia Cup” ในวันที่ 4-10 กุมภาพันธ์นี้ โดยมีทีมเข้าร่วม 5 ประเทศ ได้แก่ บรูไน จีน ฟิลิปปินส์ มองโกเลีย และไทย คาดว่าจะเป็นการแข่งขันที่เข้มข้น เพราะทุกทีมฝึกซ้อมกันมาอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ยังมีการจัดการแข่งขันอีก 3 รายการที่สำคัญ ได้แก่ รายการ “The Ambassador Cup” และรายการขี่ม้าโปโลหญิง “International Ladies’ Polo Tournament” ในเดือนมีนาคม ปิดท้ายทัวร์นาเมนต์ด้วยรายการ “Thailand Polo Championship” ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นสนามสำหรับนักกีฬาหน้าใหม่เพื่อพัฒนาศักยภาพไปสู่นักกีฬาขี่ม้าโปโลทีมชาติไทยในอนาคต
