งามสมบรมราชินี แฟชั่นฉลองพระองค์ ผ้าไทยชุมชนสู่เวทีโลก

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2568 “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” ร่วมน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2521 และทรงสำเร็จการศึกษาหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อปี 2543

ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชินี ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระอิสริยยศขึ้นเป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี” ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2562

สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงประกอบพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ หนึ่งในนั้นคือ งานด้านการพัฒนาผ้าไหมไทย และผ้าพื้นเมืองของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ

ด้วยทรงมีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการ “สืบสาน รักษา และต่อยอด” พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทรงเป็นแบบอย่างในการฉลองพระองค์ด้วยชุดผ้าไทย และกระเป๋าทรงถือผ้าไทย ทุกครั้งที่เสด็จฯ ทั้งในและต่างประเทศเคียงข้างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ADVERTISMENT

โดยชุดผ้าไทยที่ฉลองพระองค์ ล้วนสื่อความหมายถึง “แหล่งผลิตผ้าไหม” และ “ผ้าพื้นเมือง” ตลอดจนสถานที่ที่เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร

นอกจากนี้ ยังพระราชทานพระราชดำริ เพื่อให้ราษฎรสามารถผลิต พัฒนา และจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมได้อย่างแพร่หลาย สะท้อนให้เห็นถึงน้ำพระราชหฤทัยอันลึกซึ้ง ที่ทรงเห็นคุณค่าของผ้าไหมไทย และผ้าพื้นเมือง ด้วยทรงสนับสนุนผ้าไหมไทย และผ้าพื้นเมืองต่าง ๆ ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน 2568

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ที่ตัดเย็บจาก “ผ้าไหมแพรวา” ฝีมือกลุ่มสมาชิกศิลปาชีพบ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งถักทอด้วยเทคนิค “จก” และ “ขิด” ผสานเส้นไหมหลากสีอย่างละเอียดประณีต ถ่ายทอดภูมิปัญญาชาวผู้ไทที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน จนเกิดเป็นลวดลายเปี่ยมความหมาย สะท้อนความเป็นศิลปะแห่งแผ่นดินไทย

ผ้าผืนดังกล่าว ได้รับการจัดซื้อจากโรงฝึกศิลปาชีพ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งดำเนินงานภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเบื้องหลังผืนผ้าอันทรงคุณค่านี้ มาจากไอเดียและฝีมือของ “นายคมศักดิ์ ชมภูจักร์” วัย 62 ปี อดีตทหารเกณฑ์จาก ต.โพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ได้รับพระเมตตาให้เข้าร่วมโครงการศิลปาชีพฯ ตั้งแต่อายุ 34 ปี

รวมถึงการฉลองพระองค์ในช่วงค่ำของคืนวันที่ 26 เมษายน 2568 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมในงานถวายพระกระยาหารค่ำ เป็นการส่วนพระองค์กับสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน

ในโอกาสสำคัญนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์และกระเป๋าทรงถือที่งดงามวิจิตร ด้วยผ้าไหมจกลายราชบุรี ผลงานของสมาชิกศิลปาชีพจากศูนย์ศิลปาชีพ จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จเยี่ยมราษฎร ณ ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

และได้ทอดพระเนตรเห็นศักยภาพของหญิงชาวไทใหญ่ 2 คน คือ “นางสาวละองค์ หวุ่นผิว” และ “นางสาวสะอาดจิตร โตชัยภูมิ” ทรงมีพระราชดำริให้รับทั้งสองเข้ามาฝึกทอผ้าไหมจกในสวนจิตรลดา เพื่อเสริมทักษะ พัฒนาฝีมือ และสร้างแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในงานศิลป์พื้นถิ่น

ลวดลายที่ปรากฏบนฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ในครั้งนี้คือ ต้นแบบลายจกราชบุรี ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านเส้นไหมและฝีเข็มของสมาชิกศิลปาชีพอย่างละเมียดละไม

รวมทั้งในวันที่ 27 เมษายน 2568 ซึ่งเป็นวันที่ 3 แห่งการเสด็จฯ ทั้งสองพระองค์ได้ทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของราชอาณาจักรภูฏานอย่างใกล้ชิดนั้น

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงปรากฏพระสิริโฉมในฉลองพระองค์ผ้าจกทอมือจากโครงการศิลปาชีพ ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเบื้องหลังของผลงานทรงคุณค่า คือ “นางสำอางค์ มรกต” วัย 75 ปี สมาชิกที่ได้เข้าร่วมโครงการศิลปาชีพ ต.ช้างใหญ่ ตั้งแต่ปี 2524

ผ้าฝีมือของนางสำอางค์ถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันในทุกเส้นไหม ใช้เทคนิคการจกที่ต้องอาศัยทั้งสายตาอันแม่นยำ มือที่มั่นคง และหัวใจที่เต็มไปด้วยความเคารพในศิลปะ เส้นไหมถูกสอดประสานจนเกิดเป็นลวดลายที่งดงามอย่างยิ่ง

เป็นภาพสะท้อนของภูมิปัญญาไทยที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

ขณะที่วันเสด็จฯกลับ 28 เมษายน 2568 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ฉลองพระองค์ผ้าลายขิดจากบ้านหนองอ้อ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี โดย “นางสุนา ศรีบุตรโคตร” อายุ 80 ปี หนึ่งในช่างหลวงแห่งแผ่นดิน หนึ่งในสมาชิกศิลปาชีพ ตั้งแต่ปี 2526

การที่ผ้าทอฝีมือชาวบ้านได้ถวายเป็นฉลองพระองค์สมเด็จพระราชินี ในโอกาสทรงเยือนต่างประเทศครั้งนี้ ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้

นับเป็นเกียรติยศสูงสุดของผู้สืบสานผืนผ้าไทย สะท้อนถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมไทยที่เปล่งประกายสู่เวทีนานาชาติได้อย่างงดงามและยั่งยืน

ที่มา : มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง