โปรตีนจากพืชโอกาสใหม่ ปตท. จับมือ Plant & Bean ตั้งโรงงาน

Plant-Based หรือ อาหารโปรตีนจากพืช ได้กลายเป็นหนึ่งในธุรกิจอาหารที่กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจใหม่ ๆ จากธุรกิจดั้งเดิม โดย กลุ่ม ปตท. ซึ่งกำลังขยายไลน์ไปสู่ ธุรกิจนอกเหนือไปจากพลังงาน (Beyond Energy) ก็ให้ความสนใจเช่นกันด้วยการส่ง บริษัทอินโนบิก (เอเซีย) ลงสนามอาหาร Plant-Based เพื่อรุกธุรกิจ Life Science

ด้วยการเข้าไปศึกษาไลน์ผลิต Plant & Bean (UK) เพื่อนำโมเดลและโนว์ฮาวมาปรับใช้ จนนำไปสู่การตั้งโรงงานร่วมทุนภายใต้ชื่อ Plant & Bean (Thailand) ที่ประเทศไทย โดยโรงงานนี้จะทำหน้าที่ผลิตผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืช พัฒนาสู่การเป็นผู้นำการส่งออกอาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่ในภูมิภาคนี้

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์

ผู้นำอาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทอินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ปตท.เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัทนิวทรา รีเจนเนอเรทีฟ โปรตีน จำกัด (Nutra Regenerative Protein Co. Ltd : NRPT) กับ บริษัทโนฟ ฟู้ดส์ จำกัด

โดยปลายปีที่แล้วก็ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับ บริษัทแพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศอังกฤษ : Plant & Bean (UK) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ บริษัทแพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศไทย (Plant & Bean (Thailand) เพื่อผลิตโปรตีนจากพืชในไทย

โดยตั้งโรงงานอยู่ที่ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา จะก่อสร้างในเดือนกันยายน 2565 กำลังการผลิตระยะแรก 3,000 ตัน/ปี ด้านการทำตลาดเบื้องต้นจะส่งออกราว 30-40% ของกำลังการผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 2 ปีหน้า 2566 โดยช่วงแรกจะเป็นการนำเข้าวัตถุดิบก่อน

แต่ท้ายสุดเป้าหมายการผลิตระยะถัดไปจะใช้วัตถุดิบหลักจากเกษตรกรไทยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว เห็ด สาหร่าย โดย ปตท.ตั้งเป้าให้โรงงานแห่งนี้เป็นผู้นำการส่งออกอาหารโปรตีนจากพืชรายใหญ่ในภูมิภาคนี้และถือว่า Plant-Based จะเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจใหม่ที่ทำรายได้ให้ ปตท.ในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือปี 2575 จะมีรายได้จากส่วนนี้ถึง 30%

ได้สตาร์ตอัพ UK คิดสูตรอาหาร

ด้าน นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัทอินโนบิก (เอเซีย) จำกัด กล่าวว่า อินโนบิก (เอเซีย) จะเน้นไปยัง 4 เซ็กเมนต์หลักคือ ธุรกิจยา, อุปกรณ์และวัสดุทางการแพทย์, เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังระบบการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ และอาหารอนาคต (Future Food) โภชนาการ (nutrition) หรือ อาหารเป็นยา ซึ่งอาหาร Plant-Based ถือเป็นหนึ่งในอาหารแห่งอนาคตและเป็นหนึ่งในโอกาส “ธุรกิจใหม่” ของ ปตท.

บุรณิน รัตนสมบัติ และเชฟผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษ Derek Sarno
บุรณิน รัตนสมบัติ และเชฟผู้เชี่ยวชาญจากอังกฤษ Derek Sarno

การตั้งบริษัทร่วมทุน Plant & Bean (Thailand) ด้วยงบลงทุนเฟสแรก 300 ล้านบาท ถือเป็น “จุดเริ่มต้น” เพื่อเข้าสู่ธุรกิจอาหารเพื่อโภชนาการและโภชนเภสัช นอกจากสอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลก การบริโภคอาหารเพื่อดูแลรักษาสุขภาพแล้ว ยังเป็นการพัฒนายกระดับเกษตรสมัยใหม่ให้กับเกษตรกร ยกตัวอย่าง พืชตระกูลถั่วต่าง ๆ ซื้อขายกันเฉลี่ย 20 บาท/กก.

แต่หากผ่านกระบวนการเพิ่มมูลค่าเป็นวัตถุดิบขั้นต้นจำพวก “หมูเทียม-เนื้อเทียม” จะสามารถจำหน่ายได้ กก.ละ 100 บาท และถ้าพัฒนาเป็นอาหาร Plant-based จะขายกันอยู่ที่ 400-500 บาท/กก. รวมทั้งเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการรายย่อยเข้าสู่ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนในธุรกิจใหม่ของ ปตท.

โดยล่าสุด อินโนบิก ร่วมกับพาร์ตเนอร์ เปิดตัวร้าน “alt. Eatery” คอมมิวนิตี้อาหาร Plant-Based ใจกลางเมืองแห่งแรกของกรุงเทพฯเพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่รักสุขภาพแล้ว

Plant & Bean (Thailand) ยังได้สตาร์ตอัพชื่อดังจากอังกฤษ “Wicked Kitchen” ที่มีเชฟผู้เชี่ยวชาญอย่าง “Derek Sarno” นำสายพันธุ์เห็ดเฉพาะเพื่อนำมาวิจัย-ต่อยอด โดย Wicked Kitchen จะเป็นผู้ผลิต ทำตลาด คิดค้นพัฒนาสูตรอาหาร Plant-Based ครบวงจรที่เน้นไปยังพืชที่ให้โปรตีนสูง เช่น ถั่ว, เห็ด, สาหร่าย, อัลมอนด์, ข้าวโอ๊ต พร้อมพัฒนารสชาติ รูปลักษณ์ กลิ่น และผิวสัมผัสใกล้เคียงเนื้อสัตว์

Mr. Pete Speranza CEO of Wicked Kitchen
Mr. Pete Speranza CEO of Wicked Kitchen

สำหรับความคืบหน้าของโรงงาน Plant & Bean (Thailand) นอกจากจะอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานแล้ว ยังอยู่ระหว่างพัฒนาสินค้าจาก Transfer knowledge จากยุโรปและคาดว่าจะเปิดอีก 4 ตัวในปีนี้และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจะมีการ License สินค้าในกลุ่ม Ready to eat และ daily product จาก Wicked Kitchen

พร้อมทั้งจะเปิดตัวกับ Central Group ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ด้วย อีกทั้งจะมีการลงทุนในบริษัท Wicked Kitchen ในรอบ Bridge to B ประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสิทธิในการเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักของ Wicked Kitchen ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและสิทธิในการผลิตสินค้า Wicked Kitchen ที่โรงงาน Plant & Bean (Thailand) อีกด้วย

“ส่วนราคาจำหน่าย เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า จะยิ่งส่งผลต่อราคาผลิตภัณฑ์ Plant Based มีราคาสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นช่วงแรกเราจะผลิตและส่งออกเป็นหลัก ส่วนการแข่งขันกับราคาเนื้อสัตว์ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะมีการคาดการณ์ว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้าจะเริ่มเห็นราคาอาหาร Plant Based ต่ำกว่าเนื้อสัตว์เรื่อย ๆ และแนวโน้มสินค้าปศุสัตว์ หมู ไก่ เนื้อ จะขาดแคลน เมื่อเทรนด์ผู้คนเริ่ม “มองอาหารเป็นยา” ยิ่งตอกย้ำความต้องการที่มากขึ้น

โดยแนวโน้มตลาด Plant Based ทั้งในยุโรปและสหรัฐเติบโตสูงในทุกปี ขณะที่มูลค่าตลาดของไทยจะเห็นว่า ในปี 2564 ตลาด Plant Based อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท จากอัตราการเติบโตระยะ 5 ปีที่ผ่านมาและจากนี้คาดว่าจะเติบโต 12-15% ในทุก ๆ ปี ซึ่งเป็นอัตราการบริโภคที่สูงมาก” นายบุรณินกล่าว

ขณะที่ นายเกียรติ์กมล ตั้งงานจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทนิวทรา รีเจนเนอเรทีฟ โปรตีน (NRPT) ผู้ร่วมทุนกับ อินโนบิก กล่าวว่า บริษัทจะมุ่งพัฒนาโปรตีนจากพืชเพื่อสนับสนุนวิถีการมีสุขภาพดีแบบคนรุ่นใหม่ที่หันมาดูแลตัวเองมากขึ้น โครงการก่อสร้างโรงงาน Plant & Bean (Thailand) ที่จะมีกำลังการผลิตเฟสแรกประมาณ 3,000 ตันต่อปีนั้น

คาดว่าจะรองรับความต้องการของตลาดได้ประมาณ 3 ปี หลังจากนั้นบริษัทมีแผนทยอยเพิ่มทุนเเละกำลังการผลิตเป็น 25,000 ตัน ภายใน 7 ปีข้างหน้า โดยจะใช้วัตถุดิบจากถั่วเหลืองและพืชอื่น ๆ ในอนาคต อาทิ เห็ด ถั่ว ขนุน มะม่วง และจะมีการทำสัญญา “คอนแทร็กต์ฟาร์มมิ่ง” กับเกษตรกร

ไทยฮับส่งออกอาหาร Plant Based

Mr. Pete Speranza CEO of Wicked Kitchen กล่าวว่า บริษัทเลือกเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Plant Based ที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย จากนั้นจะขยายไปยัง สิงคโปร์-ญี่ปุ่น โดยสินค้าที่จะเปิดตัวในประเทศไทยมีทั้งสิ้น 17 รายการ ส่วนใหญ่อยู่ใน กลุ่มอาหารแช่แข็ง เบื้องต้นจะนำไปขายใน ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ประมาณ 50 สาขา

“ด้วยเทรนด์สุขภาพและกระเเสบริโภคด้วยแรงบันดาลใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ตลาดในประเทศไทยยังอยู่ในระยะแรก ๆ แต่เทรนด์และความต้องการอาหารประเภทนี้ในยุโรปหรือคนอังกฤษ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่บริโภคจากแรงบันดาลใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นตัวตั้ง โดยเฉพาะกลุ่มเจนเนอเรชั่น Z เด็กรุ่นใหม่รับประทานมากที่สุด รองลงมาเป็น กลุ่มรักสุขภาพ แต่อนาคตสิ่งเหล่านี้จะเป็นเทรนด์โลกที่ทุกคนต้องบริโภค”

ส่วน Mr. James Hirst CEO of Plant & Bean (UK) กล่าวว่า จากประสบการณ์กว่า 20 ปี ในอุตสาหกรรมอาหาร บริษัทได้มีการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชอย่างต่อเนื่อง โดยมองว่าเราเป็น Global Player ในอุตสาหกรรมนี้ โรงงานของเราใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการปรับปรุงรสชาติ เนื้อสัมผัสและรูปลักษณ์

ควบคู่ไปกับการพัฒนากระบวนการผลิต ซึ่งความร่วมมือในการตั้ง Plant & Bean (Thailand) ในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้บริษัทมีความพร้อมรองรับความร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์ต่าง ๆ ที่ต้องการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชคุณภาพสูงด้วย และมองว่าไทยจะเป็นฮับส่งออกอาหาร Plant Based ในเอเชีย