สกนช.กางแผนบริหารน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพเตรียมส่งเสริม E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน

กองทุนน้ำมัน

สกนช.กางแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ เตรียมส่งเสริมการใช้ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ส่วนกลุ่มเบนซินเล็งเคาะราคาขายปลีกให้ต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 3 บาท เป็นเป้าหมาย ทยอยดำเนินการผ่านความร่วมมือผู้ค้าน้ำมัน เผยความคืบหน้าเงินกู้กองทุนน้ำมันฯยังต้องรอการร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้

วันที่ 21 กันยายน 2565 นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ สกนช.ได้เตรียมแผนที่จะส่งเสริมการใช้แก๊สโซฮอล์ E20 (เบนซินผสมเอทานอล 20%) โดยมีเป้าหมายให้มีส่วนต่างราคาต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ประมาณ 3 บาทต่อลิตร เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้เอทานอลและสนับสนุนแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐาน

โดยใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบริหารจัดการควบคู่กับความร่วมมือผู้ค้าน้ำมันในเรื่องการปรับค่าการตลาดสนับสนุน คาดว่าจะเริ่มทยอยดำเนินการได้ในช่วงธันวาคม หรือ ม.ค.นี้

พรชัย จิรกุลไพศาล
พรชัย จิรกุลไพศาล

“เราก็คงจะทยอยดำเนินการไปทีละขั้นให้ส่วนต่างแก๊สโซฮอล์ E20 กับแก๊สโซฮอล์ 95 สูงขึ้น และเป้าหมายสุดท้ายคือต่างกัน 3 บาทต่อลิตร เพื่อจูงใจการใช้ E20 ช่วงแรก ๆ คงต้องอาศัยผู้ค้าลดราคาให้ต่างกัน เพราะเงินกองทุนอาจมีไม่เพียงพอ ซึ่ง สกนช.จะพยายามประชาสัมพันธ์แจ้งให้กับประชาชนได้รับทราบก่อนเพื่อทำความเข้าใจ เพราะวันนี้รถยนต์รุ่นใหม่ทั้งหมดล้วนใช้ E20 ได้หมดแล้ว”

อย่างไรก็ตาม แนวทางการส่งเสริมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ (เอทานอล-ไบโอดีเซล) จะสอดรับกับแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) ที่กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) อยู่ระหว่างจัดทำ ซึ่งจะมีการวางเป้าหมายประเภทน้ำมันต่าง ๆ ไว้ชัดเจน โดยในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ E85 มีเป้าหมายที่จะยกเลิกการใช้ในที่สุดและทางเลือกที่ดำเนินการอยู่ระหว่างนี้คือการใช้กลไกของราคาขายปลีกที่ไม่ต่างกันมากระหว่างแก๊สโซฮอล์ 91 และแก๊สโซฮอล์ 95 เพื่อหนุนให้มาใช้แก๊สโซฮอล์ 95 แทน ส่วน E85 ลดการอุดหนุนจากกองทุนน้ำมันฯลง

สำหรับกลุ่มดีเซลที่ผสมไบโอดีเซล (บี100) เบื้องต้นคาดว่าจะกำหนดให้น้ำมันดีเซลบี 7 เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานที่จะเหมาะสมกว่าดีเซล B10 ในช่วงนี้ที่ระดับราคาน้ำมันมีความผันผวน ซึ่งปัจจุบันจากระดับราคาบี 100 ที่แพงทำให้รัฐกำหนดลดสัดส่วนการผสมลงเหลือเกรดเดียวเป็นดีเซล B5

ทั้งนี้ ไบโอดีเซลซึ่งเป็นส่วนผสมในน้ำมันดีเซลและเอทานอลที่เป็นส่วนผสมในน้ำมันเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์ตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 และ ม.55 ที่เป็นบทเฉพาะกาลระบุให้กองทุนน้ำมันฯต้องทยอยยกเลิกการชดเชยราคาน้ำมันที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ พ.ร.บ.นี้บังคับใช้ หรือต้องยกเลิก 24 ก.ย. 65 แต่กฎหมายก็ยังระบุไว้ว่าหากจำเป็นหรือมีสถานการณ์ที่กระทบต่อประชาชนก็ขอขยายเวลาที่จะยกเลิกการชดเชยได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ปี หรือเลื่อนไปได้ถึงปี 2569

“เมื่อ 20 ก.ย. ครม.เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ขยายเวลาการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพออกไปอีก 2 ปี จากสิ้นสุด 24 ก.ย. 65 เป็น 24 ก.ย. 67 เราก็พยายามจะวางเป้าหมายบริหารจัดการให้อยู่ในกรอบ 2 ปีให้ได้ ส่วนเหตุที่ขอขยายเวลาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เกี่ยวข้องทั้งอ้อย มันสำปะหลัง และปาล์ม” นายพรชัยกล่าว

ส่วนความคืบหน้าเงินกู้ยังต้องรอการร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ให้อำนาจกระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. …. และการกู้ยืมเงินของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ วงเงิน 1.5 แสนล้านบาท ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอยู่ระหว่างการยกร่าง คาดว่าเงินกู้ลอตแรก 2 หมื่นล้านบาท จะได้ความชัดเจนราวเดือน พ.ย.นี้ ซึ่งหลังจากที่คลังเข้ามาค้ำประกันคาดว่าจะมีสถาบันการเงินอื่น ๆ มาเสนอแผนมากขึ้น นอกเหนือจากธนาคารออมสิน และ บมจ.กรุงไทย