
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่ม หลังกลุ่มโอเปกพลัสมีมติปรับลดการผลิตน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี
วันที่ 7 ตุลาคม 2565 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% หลังกลุ่มโอเปกพลัสได้มีมติปรับลดกำลังการผลิตลงกว่า 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยการปรับลดอัตราการผลิตในครั้งนี้ ถือเป็นการปรับลดที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดสถานการณ์อุปทานตึงตัวในตลาด และอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาเงินเฟ้อในที่สุด
- สินมั่นคงฯ : คปภ.เกาะติดกระบวนการฟื้นฟูกิจการ-ส่งสัญญาณเตือน ปชช.
- ครม.เคาะแล้ว ซื้อสินค้าลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท เริ่ม 1 ม.ค. 67
- ครึ่งทาง “MOTOR EXPO” BYD มาแรง แซง โตโยต้า ขึ้นยอดขายสูงสุด
อย่างไรก็ดี ได้มีการคาดการณ์ว่าการลดอัตรากำลังการผลิตจริง อาจน้อยกว่าตัวเลขที่ตกลงกันในที่ประชุม โดยตลาดคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตอาจปรับลดลงราว 1-1.1 ล้านบาร์เรลเท่านั้น และกว่าครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตลดลงนั้น จะมาจากซาอุดีอาระเบีย
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 6 ต.ค. 2565 อยู่ที่ 88.45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.69 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 94.42 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.05 เหรียญสหรัฐ
โกลด์แมน แซกส์ ปรับตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ เพิ่มขึ้นจากการที่กลุ่มโอเปกพลัสประกาศลดกำลังการผลิต โดยปรับขึ้นที่ระดับ 104 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในปี 2565 และ 110 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ในปี 2566 ซึ่งสอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐ และมอร์แกน สแตนลีย์ ที่ได้มีการปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเช่นกัน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐแสดงความผิดหวังต่อแผนการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส และกล่าวว่าสหรัฐกำลังมองหาวิธีป้องกันไม่ให้ราคาขึ้นสูงจนเกินไป และอยู่ในระหว่างการพิจารณาปรับลดปริมาณน้ำมันคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ลง เพื่อแก้ไขปัญหาอุปทานตึงตัวที่อาจเกิดขึ้นหลังการลดกำลังการผลิต
ราคาน้ำมันเบนซิน
ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้ว่าตัวเลขน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐจะปรับลดลงใกล้เคียงกับระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี ในขณะที่อุปสงค์ในอินเดียยังปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังได้รับแรงสนับสนุนจากเทศกาลดุชเซห์รา
ราคาน้ำมันดีเซล
ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงตึงตัวในช่วงการซ่อมบำรุง ประกอบกับอุปสงค์ที่ปรับสูงขึ้นเพื่อรองรับการใช้ในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงจับตาดูการประกาศโควตาการส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปของจีนอย่างใกล้ชิด