9 เดือน ค้าชายแดน-ผ่านแดน โต 2.29%

ค้าชายแดน
แฟ้มภาพ

จุรินทร์ เผยตัวเลขค้าชายแดน เดือนกันยายน 2565 โตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 เพิ่มขึ้น 7.19% ขณะที่การค้าผ่านแดน ลดลง 16.82% ค้าชายแดน-ผ่านแดน 9 เดือน เพิ่มขึ้น 2.29% ผลจากบาทอ่อน กิจกรรมส่งเสริมการค้า ทั้งปี ยังเชื่อโต 5%

วันที่ 26 ตุลาคม 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนเดือนกันยายน 2565 พบว่า การส่งออกชายแดนยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 คิดเป็นมูลค่า 57,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.19% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การส่งออกผ่านแดนปรับตัวลดลง เนื่องจากผู้ส่งออกหันกลับไปขนส่งสินค้าทางเรือและทางอากาศเพิ่มขึ้น จากค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนกันยายน 2565 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 151,959 ล้านบาท ลดลง 4.01% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 91,053 ล้านบาท ลดลง 6.43% และการนำเข้ามูลค่า 60,906 ล้านบาท ลดลง 0.15% โดยไทยได้ดุลการค้าในเดือนกันยายน 2565 ทั้งสิ้น 30,147 ล้านบาท

โดยการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ (มาเลเซีย กัมพูชา เมียนมา และ สปป.ลาว) เดือนกันยายน 2565 มีมูลค่าการค้ารวม 90,121 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.33% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 57,017 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.19% และการนำเข้ามูลค่า 33,104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.56% โดยการส่งออกไปกัมพูชาและ สปป.ลาว ยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา ดังนี้ 1) มาเลเซีย มูลค่าส่งออก 16,675 ล้านบาท หดตัว 0.22% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยางพารา และรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ

2) กัมพูชา มูลค่าส่งออก 15,136 ล้านบาท ขยายตัว 14.90% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ 3) สปป.ลาว มูลค่าส่งออก 12,947 ล้านบาท ขยายตัว 30.52%) สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล ทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูป และน้ำมันสำเร็จรูปอื่น ๆ 4) เมียนมา มูลค่าส่งออก 12,259 ล้านบาท หดตัว 8.42% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันดีเซล น้ำมันปาล์ม และเครื่องสำอาง เครื่องหอมและสบู่

การค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม (จีน เวียดนาม สิงคโปร์ และประเทศอื่น ๆ) เดือนกันยายน 2565 มีมูลค่ารวม 61,839 ล้านบาท ลดลง 16.82% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 34,036 ล้านบาท ลดลง 22.86% และการนำเข้ามูลค่า 27,803 ล้านบาท ลดลง 8.01% โดยการส่งออกผ่านแดนไปเวียดนามยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา ดังนี้ 1) จีน มูลค่าส่งออก 10,811 ล้านบาท ลดลง 29.50% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมฯ และอุปกรณ์ ยางพารา และผลิตภัณฑ์ยาง

2) เวียดนาม มูลค่าส่งออก 4,233 ล้านบาท ขยายตัว 33.08% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ และสินค้าปศุสัตว์อื่น ๆ 3) สิงคโปร์ มูลค่าส่งออก 5,261 ล้านบาท ลดลง 26.02% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และ เครื่องปรับอากาศ 4) ประเทศอื่น ๆ (เช่น ฮ่องกง สหรัฐ และญี่ปุ่น ) มูลค่าส่งออก 13,731 ล้านบาท
ลดลง 25.76%

การค้าชายแดนและผ่านแดน 9 เดือนแรกของปี 2565 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,305,833 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.29% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 773,902 ล้านบาท ลดลง 0.71% และการนำเข้ามูลค่า 531,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.98% โดยไทยได้ดุลการค้าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 ทั้งสิ้น 241,971 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ปัจจัยสนับสนุนการส่งออก เงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่า ช่วยให้สินค้าไทยสามารถแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น โดยล่าสุด ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2565 ค่าเงินบาทอ่อนค่าที่ระดับ 38.474 บาท/เหรียญสหรัฐ ราคาน้ำมันโลกปรับตัวสูงขึ้นและความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงของไปยัง สปป.ลาว และเมียนมา ขยายตัว 132.4% และ 32.0% ตามลำดับการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์เพื่อสนับสนุนการค้าชายแดน โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค อาทิ

การผลักดันเปิดจุดผ่านแดนเพื่อขนส่งสินค้าภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย ณ วันที่ 20 ตุลาคม 2565 มีจุดผ่านแดนฝั่งไทยเปิด 70 แห่ง จากทั้งหมด 97 แห่ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเปิด 60 แห่ง การดำเนินโครงการ “จับคู่กู้เงิน” สถาบันการเงินกับ SMEs ส่งออก โดยร่วมมือกับ EXIM Bank และ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการปล่อยสินเชื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่อยู่ในห่วงโซ่การส่งออก รวมถึงผู้ประกอบการค้าชายแดน ซึ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 มีผู้ประกอบการยื่นขอสินเชื่อ 1,218 ราย วงเงินรวม 5,933.1 ล้านบาท อนุมัติวงเงินแล้ว 1,202 ราย วงเงินรวม 5,902.4 ล้านบาท

การจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดน โดยในปี 2565 กรมการค้าต่างประเทศได้ดำเนินการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนใน 5 จังหวัดเป้าหมาย คือ จังหวัดนครพนม แม่ฮ่องสอน สงขลา ยะลา และอุบลราชธานี ซึ่งกิจกรรมภายในงานประกอบด้วย การแสดงและจำหน่ายสินค้าส่งออกชั้นนำ การเจรจาจับคู่ธุรกิจ การอบรม/สัมมนา และการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชน

การประชุมหารือเพื่อประเมินสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2565 กรมการค้าต่างประเทศได้จัดการประชุมหารือเพื่อประเมินสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (กรุงย่างกุ้ง เวียงจันทน์ กรุงพนมเปญ กรุงกัวลาลัมเปอร์ กรุงฮานอย นครโฮจิมินห์ สิงคโปร์ นครหนานหนิง และนครคุนหมิง) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าและสภาหอการค้าแห่งประเทศ ผ่านระบบประชุมทางไกล ZOOM ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้คงเป้าหมายการส่งออกชายแดนรวมและผ่านแดนรวมที่มูลค่า 1.08 ล้านล้านบาท หรือขยายตัว 5% เช่นเดิม