WHA แนะรัฐปลดล็อกกฎระเบียบดันโซลาร์ประชาชน

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA

“จรีพร” CEO WHA ติงรัฐเดินหน้านโยบายพลังงานสะอาดช้า ออกนโยบายหนุนโซลาร์ภาคประชาชนแต่ติดกฎกติกาเพียบ วอนอย่ารอรัฐบาลใหม่ต้องเพิ่มทางเลือกการใช้ไฟให้กับประชาชนและภาคธุรกิจเร็วกว่านี้ พร้อมปั้นนิคมอุตสาหกรรมเป็นสมาร์ทกริดแห่งแรกของโลก ซื้อขายไฟกันเองได้เพื่อความยั่งยื่น

วันที่ 24 เมษายน 2566 นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวในงานสัมมนา EARTH JUMP 2023 หัวข้อ Bridging Pathway to Sustainable Economy จัดโดยธนาคารกสิกรไทยว่า ภาคเอกชนเห็นความสำคัญของเรื่อง Sustainable มานาน

ซึ่งการจะไปตรงนั้นแน่นอนว่าธุรกิจต้องมีกำไรก่อน ในขณะเดียวกัน WHA เอง ได้ศึกษาเรื่องของพลังงานสะอาดมานาน โดยเฉพาะโซลาร์เซลล์ และเรื่องของ EV เพื่อนำมาใช้ในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และโลจิสติกส์ เพราะมันคือเทรนด์โลก

ปัจจุบัน WHA เดินหน้าในการทำเรื่องโซลาร์เซลล์ภายในนิคมอุตสาหกรรม และสนับสนุนให้ลูกค้าในนิคมติดตั้งโซลาร์บนหลังคา รวมถึงโซลาร์ลอยน้ำ ในพื้นที่โรงงานของตัวเอง แต่ขณะเดียวกันแม้ในส่วนของภาคธุรกิจจะสามารถทำได้แล้ว

แต่ในส่วนของภาคประชาชนเองนั้น รัฐได้มีนโยบายเรื่องของโซลาร์ประชาชนมานาน แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังติดกฎกติกาหลายอย่าง ทำให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงการติดตั้งโซลาร์ได้ในราคาที่เหมาะสม

โดยเฉพาะในส่วนที่ต้องอาศัยการกักเก็บพลังงาน เพราะคนส่วนใหญ่กลางวันไม่อยู่บ้าน พอกลางคืนก็ไม่มีแดดและไม่มีไฟที่เกิดจากโซลาร์แล้ว และการซื้อขายไฟกันเองหรือขายให้รัฐก็ยังไม่สามารถทำได้

“ขนาดเราเป็นเอกชนรายใหญ่และพร้อมขนาดนี้ เรายังติดเรื่องของกฎกติกาหลายอย่าง เพราะรัฐช้ามาก ต้องขอโทษที่พูดตรง ๆ แต่ถ้ารัฐไม่เดินหน้าให้เร็วกว่านี้ คนไทยก็ยังไม่มีทางเลือกอื่น และยังต้องเจอกับค่าไฟแพง ไม่สามารถหาพลังงานสะอาดที่เป็นทางเลือกอื่นได้ อยากขอให้รัฐอย่ารอรัฐบาลใหม่ อะไรทำได้ก่อนให้ทำไปเลย”

สำหรับแนวทางสู่ความยั่งยืนของ WHA นั้น เชื่อมโยงกับระบบเศรษฐกิจของประเทศแน่นอน และไทยเองจะไปสู่ความยั่งยืนได้ รัฐและเอกชนจะต้องเดินไปพร้อมกัน ไม่ใช่คู่ขนาน โดยทั้ง 2 ภาคส่วนจะต้องรับรู้ถึง 3 เรื่องหลัก นั่นคือ

1.แทรนด์สิ่งแวดล้อม ทำให้ปัจจุบัน WHA ลงทุนในเรื่องต่าง ๆ เช่น ธุรกิจน้ำที่ใส่นวัตกรรมเข้าไปเพื่อนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่

2.Economic ซึ่งมีความผันผวนตลอด ดังนั้น จะต้องมองระยะยาว กำหนดนโยบายและทำงานร่วมกับเอกชนให้มากขึ้น

3.คนไทยจำเป็นต้องลดความเหลื่อมล้ำให้ได้ อย่าปล่อยให้ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยเกิดขึ้นมากเกินไป ต้องสนับสนุนด้านการศึกษา หากไทยมองและโฟกัส 3 เรื่องนี้ อย่างไรก็สามารถเดินหน้าไปสู่ความยั่งยืนได้

นอกจากนี้ WHA ยังตั้งเป้าที่จะปั้นนิคมอุตสาหกรรมแห่งแรกในโลก ให้เป็นสมาร์ทกริด สามารถซื้อขายกันเองได้