จ๊าก! “ข้าวถุง” แพงสุดรอบ10ปี ต้นทุนพุ่ง-ผู้ค้าหั่นโปรโมชั่น

ครัวไทยระอุ ข้าวถุงแพงสุดทุบสถิติในรอบ 10 ปี เหตุจากราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปี60/61 พุ่งแตะตันละ 17,000 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังผู้ส่งออกแห่ซื้อตุนในสต๊อกรองรับออร์เดอร์จีน ฟิลิปปินส์ อินโดฯ ดันต้นทุนข้าวสารหอมมะลิทะลุตันละ 33,000-35,000 บาท สมาคมข้าวถุงไทยแจง “ต้นทุนพุ่ง ต้องยกเลิกโปรโมชั่น”

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ผลจากคำสั่งซื้อข้าวจากจีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฯลฯ ทำให้ผู้ส่งออกรายใหญ่เร่งซื้อข้าวเข้าสต๊อก ทำให้ราคาข้าวเปลือกขยับขึ้น ส่งผลให้ข้าวถุงปรับราคาขาย เช่น ข้าวถุงเทสโก้ ขนาด 5 กก. ปรับจาก 185 บาท เป็น 220 บาท

แหล่งข่าวจากวงการโรงสีข้าวหอมมะลิภาคตะวันออกเฉียงเหนือเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิปีการผลิต 2560/2561 ตันละ 17,700-18,000 บาท ถือเป็นราคาสูงสุด ในรอบ 10 ปี ทำให้ข้าวสารหอมมะลิขึ้นเป็นตันละ 31,000-33,000 บาท ซึ่งปีตันละ 19,000-20,000 บาท

โรค-ฝนกระหน่ำทำผลผลิตลด

เนื่องจากการผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิปี 2559/2560 ที่ไทยผลิตได้เพียง 6 ล้านตันข้าวเปลือกต่ำกว่าตัวเลขที่ประเมินจะได้ 10 ล้านตัน รวมยอดการส่งออกข้าวหอมมะลิปีนั้นเพิ่มขึ้น 17-18% ทำให้สต๊อกข้าวในประเทศลดลง ถึงปีล่าสุด 2560/2561 ผลผลิตยังต่ำกว่าที่ประมาณการ 7.1 ล้านตันข้าวเปลือกซ้ำอีก เพราะจังหวัดที่ปลูกข้าวหอมมะลิได้รับความเสียหายจากฝนในช่วงที่ข้าวกำลังออกดอก และปัญหาระบาดของโรคข้าว และพื้นที่ที่เคยปลูกข้าวหอมมะลิบางส่วนเปลี่ยนไปปลูกข้าวเปลือกเหนียวแทน ไม่เพียงข้าวหอมมะลิเท่านั้นที่ปรับสูงขึ้น แต่ข้าวสารปทุมธานีก็ปรับขึ้นถึงตันละ 21,000-22,000 บาท จากปีก่อน 17,000-18,000 บาท เพราะส่งออกเพิ่มขึ้น หลังจากที่ไทยปรับเพิ่มมาตรฐานข้าวหอมไทยเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับข้าวหอมปทุมธานี

แนะชาวนาขายปลายฤดู

ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้ข้าวเปลือกหอมมะลิปรับสูงขึ้น ชาวนานำข้าวสู่โครงการรับจำนำยุ้งฉางลดลงเหลือเพียง 9 แสนตันข้าวเปลือก จากปีก่อนหน้า 1.6 ล้านตันข้าวเปลือก และขณะนี้ชาวนาบางส่วนได้ไถ่ถอนข้าวหอมมะลิออกมาขายแล้ว เพราะราคาตลาดแพงตันละ 17,000 บาท ทั้งยังได้ค่าขึ้นยุ้งที่รัฐบาลให้เพิ่มอีกตันละ 1,500 บาท รวมแล้วชาวนาได้ราคาเกือบตันละ 20,000 บาท ถือว่าสูงมาก ซึ่งจุดนี้ต้องระวังหากชาวนาเร่งไถ่ถอนข้าวที่เหลืออีก 8 แสนตัน ออกมาพร้อม ๆ กัน ช่วง 2 เดือนก่อนเปิดเทอม เพื่อนำเงินไปใช้จ่าย อาจกดดันให้ราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับลดลงได้

แต่หากชาวนาวางแผนทยอยไถ่ถอนเดือนละ 1 แสนตันข้าวเปลือก หรือ 50,000 ข้าวสาร ก็จะช่วยให้ราคาข้าวเปลือกทรงตัวมีเสถียรภาพต่อเนื่องไปจนถึงปลายฤดู ประมาณ ก.ย.-ต.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ซัพพลายใกล้หมด อาจจะเห็นราคาข้าวสารอาจปรับขึ้นอีกเล็กน้อย อาจถึงตันละ 34,000-35,000 บาท

มั่นใจไม่ชอร์ตซัพพลาย

ต่อประเด็นที่หลายฝ่ายกังวลอาจเกิดปัญหาซัพพลายข้าวตึงตัว เพราะโดยปกติโรงสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะซื้อข้าวเปลือกหอมมะลิในรอบการผลิตนาปี เพื่อสต๊อกไว้ใช้ทั้งปี แต่ปีนี้ผลผลิตลดลงจนอาจทำให้เกิดภาวะซัพพลายตึงตัวช่วงปลายปีนี้ แหล่งข่าวโรงสีประเมินว่า หากคำนวณเฉพาะเดือน พ.ย. 2560 จะมีข้าวเปลือกหอมมะลิออกสู่ตลาด 4-5 ล้านตัน สีแปรเป็นข้าวสารได้ 2-3 ล้านตัน เมื่อเทียบกับการส่งออกข้าวมะลิช่วง 2 เดือนแรกที่ 3.0-3.6 แสนตัน น่าจะทำให้เหลือสต๊อกข้าวมากถึง 2 ล้านตันเศษ ดังนั้นมั่นใจว่าภาพรวมจะไม่เกิดปัญหาขาดแคลนข้าวแน่นอน

ข้าวถุงปรับราคา

ด้านนายสมเกียรติ มรรคยาธร นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการข้าวถุงทยอยปรับราคาจำหน่ายข้าวถุง เพื่อให้สอดรับกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น วิธีการปรับจะเป็นไปในลักษณะยกเลิกการส่งเสริมการขาย (โปรโมชั่น) เพราะเดิมห้างค้าปลีกมักมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสลับกันไป แต่ด้วยต้นทุนต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องปรับลดการส่งเสริมการขาย แต่คนไทยคุ้นเคยกับการซื้อในราคาโปรโมชั่นจึงมองว่าเป็นการปรับราคา

ต้องยอมรับต้นทุนข้าวสารหอมมะลิขณะนี้ปรับขึ้นไปเป็น กก.ละ 35 บาท สูงสุดในรอบ 10 ปีนับจากปี 2008 ที่เคยมีราคาถุง กก.ละ 40 บาท คำนวณต้นทุนข้าวสารขนาดถุงบรรจุ 5 กก. เฉลี่ยทั่วไปอยู่ที่ราคา 250 บาท แบ่งเป็น ค่าข้าวสาร 175 บาท ค่าถุงถุงละ 5 บาท ค่าขนส่งของผู้ผลิตถุงละ 2 บาท ค่าขนส่งในศูนย์กระจายสินค้า (ดีซี) 5% หรือถุงละ 10 บาท ค่ารีเบต 10% หรือถุงละ 20 บาท กำไรแต่ละทอด และค่าจีพีของห้างค้าปลีกเฉลี่ยอีก 12-14%

“พันดี” ต้นทุนพุ่ง 30%

ขณะที่นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวพันดี กล่าวว่า ราคาข้าวหอมมะลิเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2560 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ต้นทุนของข้าวถุงเพิ่มขึ้น 20-30% แต่ด้วยการแข่งขันในตลาดที่สูง ทำให้บริษัทค่อย ๆ ทยอยปรับราคาเฉลี่ย 10% ภายในช่วง 2 ไตรมาส และไปบริหารจัดการต้นทุนด้านอื่น เช่น บริหารจัดการ การซื้อขายล่วงหน้า

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้ลงพื้นที่สำรวจห้างค้าปลีกโมเดิร์นเทรดพบว่า ข้าวถุงแต่ละแบรนด์ยังมีโปรโมชั่นราคาพิเศษเพื่อกระตุ้นยอดขาย เช่น พันดีข้าวหอมมะลิ 100% 5 กก. ราคา 175 บาท จากปกติ 250 บาท (ราคาเฉพาะสมาชิกเอ็มการ์ด), บัวชมพู ข้าวหอมมะลิ 100% 5 กก. เมื่อซื้อ 2 ชิ้น ราคา 358 บาท จากปกติ 598 บาท, ดอกบัว ข้าวหอมมะลิ 100% 5 กก. ราคา 169 บาท จากปกติ 219 บาท