ราคาน้ำมันดิบ (15 พ.ค. 66) ปรับลด จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐ-จีน

โรงกลั่นน้ำมัน น้ำมันดิบ
Photo by JUAN MABROMATA / AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐและจีน

วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลดกว่า 1% และนับเป็นการปรับลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน หลังตลาดกังวลเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐจากความเสี่ยงของการผิดชำระหนี้ของสหรัฐ เนื่องจากการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐที่ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งนี้ล่าสุดได้มีการยกเลิกการประชุมในวันศุกร์ที่ผ่านมาและเลื่อนไปยังสัปดาห์หน้าแทน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง หลังนักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจจะผิดชำระหนี้ จึงส่งผลให้มีลดการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแทน

เศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณชะลอตัวลง หลังดัชนีราคาผู้บริโภคของจีนในเดือน เม.ย. 66 เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้า ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตปรับตัวลดลง โดยประเด็นดังกล่าวสร้างความกังวลว่าความต้องการใช้น้ำมันของจีนจะฟื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

กลุ่มโอเปก (OPEC) คาดในรายงานประจำเดือน เม.ย. 66 ว่าความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้จะยังเติบโตในระดับเดิมที่ 2.3 ล้านบาร์เรลต่อวันจากปีก่อนหน้า นำโดยการเติบโตของจีนที่เพิ่มขึ้นกว่า 0.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อในภูมิภาคจากอินเดียและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากอุปทานในภูมิภาคที่ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจีนที่มีการประกาศโควตาการส่งออกเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 11 พ.ค. 2566 อยู่ที่ 70.87 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.69 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 74.98 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.43 เหรียญสหรัฐ