ราคาน้ำมันดิบ (22 พ.ค. 66) ปรับลด หลังการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐหยุดชะงัก

ราคาน้ำมันดิบ
Photo by Johannes EISELE / AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังการเจรจาเพดานหนี้สหรัฐหยุดชะงัก

วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังจากที่มีรายงานว่า การประชุมครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ระหว่างทำเนียบขาวและสมาชิกสภาของพรรครีพับลิกัน เรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางที่ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์ ได้ยุติลงโดยไม่มีความคืบหน้าใด ๆ และไม่มีกำหนดการประชุมเพิ่มเติม ในขณะที่กระทรวงการคลังออกมาเตือนว่ารัฐบาลอาจจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ภายใน 1 มิ.ย.นี้ และอาจนำไปสู่ผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 19 พ.ค. 2566 อยู่ที่ 71.55 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.31 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 75.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.28 เหรียญสหรัฐ

ตลาดยังคงกังวล หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ระบุว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นสูงกว่าเป้าหมายของเฟดมาก และยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ เกี่ยวกับการดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่ามีโอกาสสูงที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบื้ย 0.25% ในการประชุมเดือน มิ.ย.

Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 19 พ.ค. ปรับลดลง 11 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 575 แท่น ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 64 ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติคงที่ระดับ 141 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความกังวลอุปทานตึงตัวเนื่องจากเหตุการณ์โรงกลั่นไฟไหม้ที่เม็กซิโก อีกทั้งน้ำมันเบนซินคงคลังซาอุดีอาระเบียปรับลด 4.27% จากเดือนก่อนหน้า หลังอุปสงค์ในประเทศปรับตัวสูงขึ้น

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับลดลงแตะระดับ 7.47 ล้านบาร์เรล ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 11 สัปดาห์ นอกจากนี้ราคายังได้แรงหนุนจากการส่งออกที่ลดลงของจีนและการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น