ราคาน้ำมันดิบ (3 ก.ค. 66) ปรับเพิ่ม หลังเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลง

ราคาน้ำมันดิบ
Photo by Johannes EISELE / AFP

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัวลง และสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด

วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังหลังสหรัฐเผยดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในเดือน พ.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อนหน้า ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 4.3% ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงกดดันทางเงินเฟ้อเริ่มลดลงและอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐที่ลดลงมากกว่า 9.6 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสเมื่อ 30 มิ.ย. 2566 อยู่ที่ 70.64 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.78 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 74.90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.56 เหรียญสหรัฐ

ปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 9 สัปดาห์ติดต่อกัน ตามราคาที่ปรับลดลง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย. ปรับลดลง 8 แท่นมาอยู่ที่ราว 674 แท่น ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดนับตั้งแต่ เม.ย. 65

เศรษฐกิจจีนยังคงชะลอตัวลงในเดือน มิ.ย. 66 และคาดจะส่งกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิต (PMI) ในเดือน มิ.ย. 66 อยู่ที่ระดับ 49.0 ซึ่งยังต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการหดตัว ขณะที่ ดัชนี PMI ภาคบริการปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 54.5 มาอยู่ที่ 53.2

Advertisment

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากตลาดสหรัฐที่เพิ่มขึ้น จากความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นก่อนวันชาติสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของจีนในเดือน ก.ค. ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 30% จากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์