
กฟผ.กัดฟันแบกหนี้ลดค่าไฟ 3.99 บาท ก.ย. 2566 สนองนโยบายรัฐ ห่วงหนี้ท่วม เครดิตเรตติ้งตก
วันที่ 20 กันยายน 2566 นายประเสริฐศักดิ์ เชิงชวโน รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ. ) เปิดเผยว่า กฟผ.ขอเวลาประเมินแนวทางการบริหารจัดการขอคืนหนี้ที่รัฐยังค้างอยู่ 1.35 แสนล้านบาทว่า จะสามารถยืดหนี้ให้ได้กี่งวด
ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการดูแลค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บกับประชาชนในงวดสุดท้ายของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค. 2566) ให้อยู่ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย ที่น่าจะดูแลดำเนินนโยบายไปถึงปี 2567
โดยเบื้องต้นการชำระหนี้งวดแรกที่จะต้องชำระหนี้ให้ กฟผ.ยังสามารถรับภาระได้อยู่ แต่ในระยะต่อไปอาจมีความเป็นไปได้ที่จะขยายระยะเวลาคืนหนี้ กฟผ.ไปถึงสิ้นปี 2568 จากแผนเดิมที่จะต้องคืนหนี้งวดสุดท้ายให้จบภายในเดือน เม.ย. 2568
“ยอมรับว่าเรื่องที่กังวลมากที่สุดคือ เครดิตเรตติ้งจะลดลงหรือไม่ ส่วนการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อจ่ายคืนหนี้กฟผ.มองว่า อาจไม่ใช่แนวทางที่จะทำได้เพราะเป็นการระดมเงินเพื่อชำระหนี้ ไม่ใช่การนำไปลงทุน”
นอกจากนี้ ตามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เข้ามาช่วยรับภาระต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ โดยการปรับลดค่าก๊าซธรรมชาติที่เรียกเก็บจากกิจการผลิตไฟฟ้าเป็นไม่เกิน 304.79 บาทต่อล้านบีทียู จากเดิมกำหนดไว้ 323.37 บาทต่อล้านบีทียู ซึ่งหากราคาก๊าซเกินกว่านั้น ปตท.จะต้องรับภาระส่วนนี้้