พาณิชย์เปิด 16 จุดภาคเหนือ เพิ่มช่องทางรับซื้อข้าวเหนียว หวังดันราคา

รับซื้อข้าวเหนียว

กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ติดตามการเปิดจุดรับซื้อข้าวเหนียว พาณิชย์ ช่วยชาวนา จังหวัดเชียงราย หวังดันราคาขึ้น คาดปีนี้ออก 5.85 ล้านตัน พร้อมเปิด 16 จุดภาคเหนือ เพิ่มช่องทางตลาดข้าวเหนียว เชื่อมโยงผู้ซื้อ

วันที่ 21 ตุลาคม 2566 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการเปิดจุดรับซื้อข้าวเหนียว พาณิชย์ ช่วยชาวนา ณ สหกรณ์การเกษตรอำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย ขณะนี้เกษตรชาวนาเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกเหนียว ปี 66/67 ออกสู่ตลาด

โดยผลผลิตข้าวเหนียวในภาพรวมปีนี้ มี 5.85 ล้านตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมา 4% แต่ออกกระจุกตัวในช่วงนี้ (ตค .-ธค.) มากถึง 80% สำหรับภาคเหนือมีผลผลิต 1.46 ล้านตัน มากที่สุดที่จังหวัดเชียงราย 0.43 ล้านตัน และเชียงใหม่ 0.20 ล้านตัน

               

สถานการณ์การราคาในปีนี้ถือว่าข้าวเปลือกเหนียวที่เกษตรกรได้รับอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด เฉลี่ย ปี 66 ราคาข้าวเปลือกเหนียวแห้ง 12,800 บาท/ตัน โดยในเดือน กย.ที่ผ่านมาสูงถึง 15,300 บาท/ตัน อย่างไรก็ตามผลผลิตที่ออกกระจุกตัวในช่วงนี้ส่งผลให้ราคาเริ่มมีแนวโน้มต่ำลง โดยข้าวเปลือกเกี่ยวสดอยู่ที่ 9,300-9,500 บาท (ข้าวแห้ง 11,500-12,000 บาท)ตามคุณภาพข้าวที่เกษตรเก็บเกี่ยว แต่ก็ยังถือว่าไม่ได้ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้จัดทำโครงการเพิ่มช่องทางการตลาดข้าวเหนียวในภาคเหนือ เชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์และผู้รับซื้อ โดยได้ประสานโรงสีและผู้รับซื้อจากนอกพื้นที่ให้เข้าไปช่วยรับซื้อข้าวเปลือกเหนียวช่วยชาวนาไม่ให้ราคาลดต่ำลงมากในช่วงที่เกษตรกรเก็บเกี่ยว

ขณะนี้ได้ประสานการเปิดจุดจำหน่ายไว้ ใน 7 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน พะเยา ลำพูน ลำปาง จำนวน 16 จุด โดยช่วยค่าบริการจัดการรวบ ค่าขนส่ง ซึ่งเริ่มทยอยเปิดจุดรับซื้อตั้งแต่วันที่ 21 ตค นี้ คาดว่าจะสามารถผยุงราคาข้าวเปลือกเหนียวไม่ให้ลดต่ำลงได้ ซึ่งราคาข้าวเปลือกเหนียวในขณะนี้ก็ยังถือว่าไม่ได้ต่ำกว่าช่วงปีที่ผ่านมา

ส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่น ๆ ทางกรมการค้าภายในจะได้นำเข้าเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ต่อไป

จึงขอให้เกษตรไม่เร่งเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อให้ได้ข้าวคุณภาพที่ดี และส่งผลต่อราคาที่จำหน่ายได้ โดยกรมได้เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัดในการซื้อขายสินค้าเกษตร ให้มีความเที่ยงตรง เพื่อดูแลความเป็นธรรมให้กับเกษตรกร และได้จัดชุดสายตรวจเฉพาะกิจลงพื้นที่ทำการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หากตรวจพบเครื่องชั่ง ไม่ถูกต้อง ไม่มีความเที่ยงตรง จะดำเนินการตามกฎหมายเด็ดขาด

ส่วนเกษตรกร หากพบเห็นหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายสินค้าเกษตร สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569