หนังสัปเหร่อ-ธี่หยด ดึงต่างชาติร่วมเจรจาธุรกิจ AFM 2023 กว่า 231 ราย

หนังสัปเหร่อ-ธี่หยด

พาณิชย์ ปลื้ม ปีทองของหนังไทย นำ 8 บริษัท ร่วมงานฟิล์ม  สัปเหร่อ ธี่หยด และ เพื่อน(ไม่)สนิท ดึงต่างชาติเจรจาธุรกิจ AFM 2023 ในบูธไทย 231 ราย คาดโกยรายได้กว่า 2,739 ล้านบาท

วันที่ 11 พฤศจิกายน นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปีนี้หนังไทยมาแรงมาก ทั้งในด้านกระแสตอบรับและด้านรายได้ภายในประเทศที่ทะลุหลักหลายร้อยล้านบาทติดต่อกันหลายเรื่อง ส่งผลให้เกิดกระแสตอบรับที่ดีต่อเนื่องสู่ตลาดต่างประเทศด้วย

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ  จึงเร่งต่อยอดความสำเร็จโดยการนำผู้ประกอบการหนังไทยไปเปิดตลาดในงานแสดงสินค้า American Film Market 2023 (AFM) ตามนโยบายของรัฐบาลในการผลักดันอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์

กรมฯ จึงนำผู้ประกอบการภาพยนตร์และคอนเทนต์ไทย จำนวน 8 บริษัท เข้าร่วมเจรจาการค้ากับบริษัทผู้ซื้อ ผู้สร้างและนักลงทุนระดับโลก ในงานแสดงสินค้า American Film Market 2023 (AFM) ณ เมืองซานตาโมนิก้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน 2566

ผลตอบรับเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งออริจินอลคอนเทนต์ของไทย ถือเป็นการโชว์ศักยภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์ซึ่งเป็น 1 ใน 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้โด่งดังไปทั่วโลก โดยภายในคูหาประเทศไทยมีการเจรจาการค้ากับบริษัทผู้ซื้อ ผู้สร้าง และผู้ผลิตภายในงานรวมจำนวน 231 นัดหมาย ทำรายได้มูลค่ารวมกว่า 2,739 ล้านบาท

Advertisment

โดยปีนี้ผู้ประกอบการต่างชาติให้ความสนใจเจรจาซี้อลิขสิทธิ์หนังไทย อาทิเช่น ภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อ ซึ่งล่าสุดกวาดรายได้ในประเทศไทยไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท สามารถขายลิขสิทธิ์ฉาย ในต่างประเทศได้แล้วใน 10 ประเทศ (อาเซียน ญี่ปุ่น ไต้หวัน) หรือภาพยนตร์เรื่อง ธี่หยด ที่เป็นหนังสยองขวัญ สามารถทำรายได้ในประเทศไทยกว่า 350 ล้านบาท และ เพื่อน(ไม่)สนิท ก็ช่วยดึงดูดต่างชาติให้สนใจและเข้ามาเจรจาการค้าภายในคูหาประเทศไทยได้ไม่แพ้กัน

นอกจากนี้ ไฮไลท์สำคัญที่เกิดขึ้นภายในงานคือ ผู้ประกอบการไทยได้เจรจาการค้ากับบริษัทจากนานาประเทศทั่วโลก และได้รับข้อเสนอทางธุรกิจจากบริษัทชั้นนำในหลายประเทศด้วยกัน เช่น การเข้ามาถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย การซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไปจัดฉายและรีเมคใหม่ เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ตลอดระยะเวลา 6 วันของกิจกรรมเจรจาการค้า มีนักลงทุน ผู้สร้าง ผู้กำกับ ผู้ซื้อในสหรัฐอเมริกา และนานาชาติ สนใจเข้าร่วมเจรจาการค้ารวมจำนวนกว่า 231 นัดหมาย สร้างมูลค่าการเจรจาการค้ากว่า 2,739 ล้านบาท สูงกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก ความสามารถ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการไทย ประกอบกับการที่รัฐบาลมุ่งส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub)อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ อันจะนำไปสู่การสร้างรายได้และต่อยอดไปยังอุตสาหกรรมอื่นต่อไป