ดีเอสไอ อัพเดตคดีหมูเถื่อน 2 พันคดี สอบเฮียเก้า ยอมรับรู้จัก เฉลิมชัย

DSI คดีหมูเถื่อน

ดีเอสไอ อัพเดตคดีหมูเถื่อน 2,388 คดี อยู่ระหว่างรอเอกสารกรมปศุสัตว์-กรมศุลกากรเพื่อส่งมอบ “เฮียเก้า” ให้การยอมรับรู้จัก “เฉลิมชัย” ไม่ซักทอดข้าราชการ

วันที่ 24 มกราคม 2567 พ.ต.ท.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยภายหลังจากเป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นคดีพิเศษที่ 127/2566 ที่ได้มีการประชุมเพื่อรายงานความคีบหน้าและพิจารณาแนวทางการสืบสวนสอบสวน เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาว่าขณะนี้ความคืบหน้าการดำเนินการกับคดีที่เกี่ยวข้องกับหมู่เถื่อนโดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มที่ 1 คือการดำเนินคดีกับหมูเถื่อนที่ตรวจเจอก่อนหน้านี้และค้างอยู่ที่ท่าเรือ 161 ตู้ ซึ่งได้ส่งหลักฐานให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ดำเนินการบางส่วนแล้ว

กลุ่มที่ 2 ก็คือกลุ่มที่ตรวจสอบขยายผลที่นำเข้ามาแล้วผ่านไปทางห้องเย็น 2,388 ตู้ ซึ่งกลุ่มนี้รอหลักฐานจากกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่ได้ออกหมายจับไว้ 5 คนซึ่งขณะนี้ได้มีการเข้ามามอบตัวแล้ว 4 คนเหลืออีก 1 คน ทั้งนี้ 4 คนที่มอบตัวแล้ว ให้การปฏิเสธและจะขอมายื่นหลักฐานอีกครั้งในภายหลัง

“ในส่วนหลักการประกันตัวเฮียเก้าก็เหมือนกับหลักการประกันตัวทั่วไปซึ่งเมื่อผู้ต้องหาติดต่อเข้ามาขอมอบตัวก็สามารถที่จะยื่นหลักทรัพย์ในการประกันตัว เพราะการติดต่อขอประกันตัวขอเข้ามอบตัว พฤติการณ์จะหลบหนีก็ไม่มี ก็แสดงว่าต้องการมาสู้คดี เราก็เปิดโอกาสให้มาต่อสู้คดีอย่างเต็มที่”

“เฮียเก้า จากการสอบสวนไม่ได้ซัดทอดข้าราชการ แต่ได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาที่เราแจ้งไป เขาพูดว่ารู้จักใครบ้างที่เคยอยู่กระทรวงเกษตร ข้าราชการหรืออาจจะเป็นตำแหน่งที่เคยอยู่ในกระทรวงในอดีต และก็ยอมรับว่ารู้จักกับนายเฉลิมชัย (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) แต่ไม่ได้บอกว่าสนิทกันถึงขั้นไหน ตรงนี้เป็นสิทธิของผู้ต้องหาไม่จำเป็นต้องให้การ หรือจะให้การอย่างใดก็ได้ เราก็รับฟังไว้”

รายงานข่าวระบุว่ากรณีนี้ เกิดขึ้นนับจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในคดีนำเข้าซากเนื้อสัตว์เถื่อน ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาล ออกหมายจับผู้ต้องหา 4 รายวันที่ 11 มกราคม 2567 ประกอบด้วย

  1. นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือ “เฮียเก้า” นายกสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย
  2. นายหยาง ยา ซุง
  3. นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ (บุตรชายของนายหลี่)
  4. น.ส.นวพร เชาว์วัย (ฝ่ายบริหารจัดการด้านบัญชีของนายหลี่)

ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ และประมวลกฎหมายอาญา ในข้อหาอั้งยี่และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน