
กกพ.เตรียมปรับค่าไฟฐานใหม่ หลังปัจจัยที่ส่งผลต่อการคำนวณค่าไฟฐานเปลี่ยน 3.78 บาท ไม่ได้แล้ว โอกาสแตะ 4 บาท ถ้าเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ถึงต้นปี 2568
วันที่ 8 มีนาคม 2567 นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ทาง กกพ.เตรียมพิจารณาปรับฐานค่าไฟที่ใช้ในการคำนวณค่าเอฟที จากปัจจุบัน 3.78 บาท มีโอกาสปรับไปสูงขึ้นเป็นประมาณ 4 บาท จากปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า
“ฐานค่าไฟปรับขึ้นไปแล้ว โอกาส 3 บาทคงไม่มีโอกาสได้เห็น เป็นไปได้ที่จะขยับแตะ 4 บาท การปรับค่าไฟฐานเกิดจากปัจจัยที่ใช้ในการคำนวณมีการเปลี่ยนแปลงไป อาทิ ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ในอ่าวไทย ปริมาณก๊าซธรรมชาติที่นำเข้าจากเมียนมามีแนวโน้มลดลง จำเป็นต้องมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งราคาก๊าซธรรมชาตินำเข้าก็มีความผันผวน ซึ่งจริง ๆ แล้วก็จะต้องรอดู ให้ทุกปัจจัยนิ่งเสียก่อน เพื่อที่จะกำหนดอัตราค่าไฟฐานใหม่ แต่ก็ยังไม่รู้จะนิ่งเมื่อไหร่ และต้องดูนโยบายเรื่องค่าไฟเป็นอย่างไร คิดว่าน่าจะชัดเจนปลายปีนี้-ต้นปีหน้า”
ทั้งนี้ ค่าไฟฟ้าฐานจะคำนวณจากต้นทุนในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ได้แก่ ระบบส่ง ระบบจำหน่าย และค่าผลิตพลังงานไฟฟ้า ภายใต้สมมติฐานความต้องการไฟฟ้า โดยพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายในการลงทุนในการผลิต การจัดส่ง และการจำหน่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และผลตอบแทนที่เหมาะสมในการขยายการลงทุนในอนาคตของทั้ง กฟผ., กฟน. และ กฟภ. เป็นอัตราคงที่ แต่จะมีการปรับทุก 3-5 ปี อย่างไรก็ตาม ค่าไฟฟ้าฐานในปัจจุบันใช้มาตั้งแต่ปี 2558