WHAUP ขายไฟฟ้าแสงอาทิตย์ 46.36 MW สหฟาร์ม-โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส

WHAUP

WHAUP ผนึก สหฟาร์ม-โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส ซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 14 โครงการ ร่วม 46.36 MW จ.ลพบุรี-เพชรบูรณ์ หนุนธุรกิจปศุสัตว์ใช้ไฟเขียว คาดจ่ายไฟเข้าระบบไตรมาส 2 ปี 67

วันที่ 18 มีนาคม 2567 บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ชลร่วมกับ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และ บริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากไก่ครบวงจร

เพื่อผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ รูปแบบ Solar floating Solar farm และ Solar rooftop รวม 14 โครงการ กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 46.36 เมกะวัตต์ในพื้นที่จังหวัดลพบุรี และเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ภายนอกเขตนิคมอุตสาหกรรมของ WHA คาดเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ภายในไตรมาส 1-2 ปี 2568

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

กลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการด้านก๊าซเรือนกระจกและแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญต่อการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ที่จะสร้างความยั่งยืนด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นการช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยเดินไปสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions)

การใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานแสงอาทิตย์ ในโครงการดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก กว่า 35,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (tCO2e) ต่อปี ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ ดับบลิวเอชเอ ที่จะช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจ อย่างยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้เทคโนโลยีของ WHAUP ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ดังนั้นด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนานจะช่วยเพิ่มศักยภาพ และยกระดับภาคอุตสาหกรรมเกษตรไทยสู่ระดับสากลมากขึ้น

สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือของทั้ง 3 บริษัท ในด้านพลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ และสถานการณ์โลกที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต รวมทั้งทำให้ สหฟาร์ม และ โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส สามารถลดค่าใช้จ่าย ค่าไฟฟ้าได้มากกว่า 1,600 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 14 ปี

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “WHAUP” กล่าวว่า โครงการติดตั้ง พร้อมผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับสหฟาร์ม และ โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส ครั้งนี้ ถือเป็นโครงการแรกของการดำเนินการด้านพลังงานหมุนเวียนภายนอกนิคมอุตสาหกรรมในภาคธุรกิจเกษตรกรรม หรือ Agriculture

โดยไฟฟ้าที่ได้จะใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมของสหฟาร์มทั้งโรงเชือด โรงแปรรูป โรงเลี้ยงไก่ โรงฟักไข่ และโรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดลพบุรี และเพชรบูรณ์ ซึ่งโครงการดังกล่าว มีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 1,000 ล้านบาท ขานรับนโยบายของภาครัฐ ที่มีเป้าหมายสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะยาว และตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกมิติของ WHA ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งคาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ ได้ภายในไตรมาส 1-2 ของปี 2568

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการเซ็นสัญญากับ สหฟาร์ม และ โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส ในครั้งนี้ ส่งผลให้ WHAUP มีกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 915 เมกะวัตต์ เข้าใกล้เป้าหมายการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ 1,000 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้าทุกประเภท โดยเป็นพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Private PPA และสัญญากับภาครัฐ รวมเป็นจำนวน 367 เมกะวัตต์

ด้านนางสาวบุญญาลักษณ์ โชติเทวัญ กรรมการ บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัท โกลเด้น ไลน์ บิสซิเนส จำกัด กล่าวว่า อุตสาหกรรมเกษตรของกลุ่ม สหฟาร์ม เป็นอุตสาหกรรมการผลิตไก่ครบวงจร ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการฟักไข่ การให้แสงสว่าง การทำให้ไก่อบอุ่น ขบวนการผลิตอาหารสัตว์ และเครื่องจักรสำหรับการผลิตภายในโรงงานล้วนแล้วแต่ใช้พลังงานสูงมาก

อีกทั้งปัจจุบันราคาค่าพลังงานมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ และการผลิตพลังงานบางส่วนก็ยังคงมีผลต่อสภาพแวดล้อม กลุ่มสหฟาร์มตระหนักได้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจึงริเริ่มปลุกจิตสำนึกในกับคนในองค์กร โดยเริ่มต้นด้วยการเน้นไปที่การประหยัดพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานพลังงานให้มีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมให้น้อยที่สุด

ความร่วมมือในครั้งนี้จะลดต้นทุนด้านพลังงาน รวมถึงลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานสะอาดผลิตได้ตลอดทั้งปี ติดตั้งครอบคลุมพื้นที่ของสหฟาร์มถึง 300 ไร่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโครงการย่อย 14 โครงการ มีกำลังผลิตไก่ได้กว่า 700,000 ตัวต่อวัน

โดยสามารถลดการใช้พลังงานได้ประมาณ 30 % โดยคิดจากการทำงาน 24 ชั่วโมงต่อวัน หากคิดเป็นจำนวนเงิน จะสามารถประหยัดเงินได้มากกว่า 100 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นเงินประมาณ 1,600 ล้านบาท ภายใน 14 ปี รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 870,000 ตัน ใน 25 ปี