ปรับสูตรดูแลราคาดีเซล “พีระพันธุ์” ดูเองวันต่อวัน กบน.เพิ่มชดเชยดีเซลเป็น 4.57 บาท

ด่วน ปรับสูตรดูแลราคาดีเซล 30 บาท “พีระพันธุ์” ดูเองวันต่อวัน ล่าสุดเคาะปรับอัตราส่งเงินชดเชยดีเซล เพิ่ม 40 สตางค์ ร่วม 4.57 บาท ด้านสกนช.เร่งถกคลังฟื้นสภาพคล่องกองทุนน้ำมันหลังติดลบ 1 แสนล้าน

วันที่ 4 เมษายน 2567 นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า

ผลการประชุม คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน ยังมีมติให้ยึดตามผลสรุป กบน.วันที่ 27 มีนาคม 2567 ต่อไป คือให้สามารถปรับราคาสูงกว่า 30 บาทต่อลิตรได้ ซึ่งเป็นผลจากสภาพคล่องกองทุนน้ำมันในขณะนั้นติดลบสูงเกือบ 1 แสนล้านบาท แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ปรับขึ้นไป แต่เราก็ต้องดูแลสภาพคล่องของกองทุน

อย่างไรก็ตาม กบน.ได้ปรับกลไกการดูแล โดยสกนช.จะรายงานข้อมูลข่าวสถานการณ์น้ำมัน ค่าการตลาด รวมถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้อต่อรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน (พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) เป็นรายวันเพื่อพิจารณาราคาจำหน่ายปลีกราคาดีเซลเป็นครั้งๆไป หากพบว่าสถานการณ์มีความเปลี่ยนแปลงมีผลต่อราคาก็จะมีการเรียกประชุมพิจารณาเป็นรายครั้ง

ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า แนวทางการดูแลนี้จะดำเนินการไปจนกว่าจะหาข้อสรุปเรื่องการแก้ไขปัญหาเสถียรภาพกองทุนได้ โดยทางสกนช.ได้หารือกับกระทรวงคลังถึงมาตรการเรื่องการต่ออายุลดภาษีสรรพสามิตดีเซล 1 บาทต่อ ซึ่งจะครบกำหนด 19 เมษายนนี้ และประสานสำนักงบประมาณขอใช้งบกลางดูแลกองทุนน้ำมันฯทั้งดีเซลและ LPG รวมทั้งค่าไฟกลุ่มเปราะบางให้ใช้อัตรา 3.99 บาทต่อหน่วยต่อไปมาช่วยอีกทางหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปจากทางกระทรวงการคลัง

ADVERTISMENT

“หลักการกำกับดูแลจะไม่ได้มีการบังคับหรือควบคุมราคา จะเห็นว่ามีค่ายน้ำมันบางค่ายมีการปรับราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร ก็สามารถทำได้ แต่ค่ายน้ำมันหลายบริษัท ทั้ง ปตท. บางจาก ซัสโก ได้ให้ความร่วมมือในการตรึงราคาต่อไป 29.99 บาทต่อไปซึ่งนับว่าเป็นทางเลือกให้กับประชาชน”

ADVERTISMENT

ล่าสุด นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการ สกนช. ได้ออกประกาศลงวันที่ 3 เมษายน 2567 มีมติใหกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปรับอัตราเงินชดเชยน้ำมันดีเซลเพิ่มอีก 40 สตางค์ต่อลิตร รวมอุดหนุนอยู่ที่ 4.57 บาทต่อลิตร จาก 4.17 บาทต่อลิตรตามประกาศเดิมเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2567 โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2567

ทั้งนี้ ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 ติดลบรวม 99,821 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 52,729 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 47,092 ล้านบาท ซึ่งใกล้จะชนเพดานกรอบวงเงินชดเชยของกองทุนน้ำมันฯ ที่ 48,000 ล้านบาท