ส่งออกเครื่องดื่มไปสเปนรับมือกฎหมายใหม่ ใช้ฝาแบบยึดกับขวดเทรนด์รักษ์โลก ก.ค. 67

ขวดน้ำ

“ภูมิธรรม” สั่งการกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศให้ความรู้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย หลังสเปนออกกฎหมายใหม่ กำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในบรรจุภัณฑ์พลาสติกไม่เกิน 3 ลิตร ต้องใช้ฝาแบบยึดกับขวด มีผลบังคับใช้ 3 ก.ค.นี้

วันที่ 16 เมษายน 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับรายงานจากนางสาวพัชรมณฑน์ ตระกูลทิวากร ทูตพาณิชย์ประจำกรุงมาดริด สเปน ถึงการที่สเปนเตรียมบังคับใช้ข้อกำหนดของสหภาพยุโรปภายใต้ระเบียบ Directive (EU) 2019/904 ว่าด้วยการลดผลกระทบจากพลาสติกที่มีต่อสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 5 มิถุนายน 2562 โดยได้ออกกฎหมายกำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในบรรจุภัณฑ์พลาสติกไม่เกิน 3 ลิตร ต้องใช้ฝาแบบยึดกับขวด และจะมีผลบังคับใช้เริ่มวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นี้

ภูมิธรรม เวชยชัย
ภูมิธรรม เวชยชัย

ทั้งนี้ การออกกฎหมายดังกล่าว เป็นไปตามข้อกำหนดของอียู สเปนต้องการมุ่งสู่การปรับตัวสีเขียว การลดขยะ การต่อสู้กับมลภาวะทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขวดพลาสติก และโดยเฉพาะฝาขวดพลาสติก และการผลิตยังสอดคล้องกับมาตรฐานที่ได้รับการยินยอมในระดับสหภาพยุโรป

“อีกทั้งยังพบว่าขยะพลาสติกในทะเลมีฝาขวดน้ำจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหากฎหมายนี้ เพื่อให้ฝาขวดยึดกับขวดเพื่อรีไซเคิลได้พร้อมกัน”

โดยตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 ขวด PET ที่วางจำหน่ายในตลาดได้ จะต้องมีส่วนประกอบของพลาสติกรีไซเคิลอย่างน้อยร้อยละ 25 ตั้งแต่ 1 มกราคม 2573 บรรจุภัณฑ์พลาสติก ที่วางจำหน่ายในตลาดได้ จะต้องประกอบด้วยพลาสติกรีไซเคิลอย่างน้อยร้อยละ 30

สำหรับการปรับตัวของผู้บริโภคได้มีการปรับตัวและจะกลายเป็นพฤติกรรมใหม่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนฝั่งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ที่อยู่ในอุตสาหกรรรม ได้เตรียมความพร้อมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยปรับลักษณะบรรจุภัณฑ์เพื่อให้ยังคงสามารถวางจำหน่ายในตลาดได้

ขณะเดียวกันผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ก็เร่งสร้างนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การบริโภคที่สะดวกสบายที่สุด อาทิ ออกแบบการยึดติดกับขวดให้มีการรบกวนผู้บริโภคน้อยที่สุด หรือใช้วัสดุฝาทางเลือกอื่น เช่น stainless Steel เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 สเปนได้ออกกฎหมายเก็บภาษีบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว (single use plastic packaging) เพื่อป้องกันและลดผลกระทบของผลิตภัณฑ์พลาสติกต่อสิ่งแวดล้อม 0.45 ยูโรต่อกิโลกรัม โดยเก็บจากการผลิต การนำเข้า และการได้มาของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว ผลิตภัณฑ์พลาสติกกึ่งสำเร็จรูปสำหรับการผลิตที่ใช้บรรจุหีบห่อ ผลิตภัณฑ์บรรจุในพลาสติกที่ปิดผนึกเพื่อใช้ครั้งเดียวและเพื่อการตลาดคำนวณจากปริมาณพลาสติกที่ไม่ได้ถูกนำไปรีไซเคิล (กิโลกรัม)

ทั้งนี้ ผู้เสียภาษีต้องยื่นการประเมินตนเองเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาสเช่นเดียวกันกับการประเมินตนเองสำหรับการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ยกเว้นกรณีการนำเข้า อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้ได้กำหนดข้อยกเว้นไว้ เช่น ไม่บังคับใช้กับสินค้านำเข้าปริมาณน้อยๆ ภาชนะที่ออกแบบสำหรับบรรจุหีบห่อและการจัดจำหน่ายของยา ผลิตภัณฑ์ด้านอนามัย อาหารสำหรับใช้ทางการแพทย์เป็นพิเศษ สูตรอาหารทารกที่ใช้ในโรงพยาบายและขยะอันตราย

ทั้งนี้กฎระเบียบการส่งออกสินค้าไปยังสหภาพยุโรป มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งมีแนวโน้มเข้มข้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สีเขียว และความยั่งยืน ผู้ประกอบการไทยจึงต้องติดตามกฎระเบียบอย่างใกล้ชิด และที่สำคัญผู้เล่นรายใหม่ที่ต้องการบุกเจาะตลาด จะต้องเพิ่มน้ำหนักในการปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว เพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน และสร้างภูมิทางการค้าระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ดีได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เร่งให้ความรู้ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ให้เข้าใจถึงกฎระเบียบ และเตรียมพร้อมปรับตัวเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDG) อาทิ การออกแบบกระบวนการผลิตที่ลดการปล่อยของเสีย การสร้างนวัตกรรมให้กับผลิตภัณฑ์ การใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยมีแต้มต่อ ดำเนินธุรกิจอย่างมีทิศทาง มีการลงทุนที่คุ้มค่า มีขีดความสามารถทางการแข่งขันในเวทีสากล และเติบโตอย่างยั่งยืน